ประกาศเลื่อนการเปิดเทอมอีกรอบเป็นวันที่ 14 เดือนมิถุนายน 

       จากการระบาดของไวรัสโควิคที่ยังคงมีการระบาดอย่างรุนแรงในหลายจังหวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดที่เป็นโซนสีแดงอย่างเช่นกรุงเทพมหานคร    จังหวัดนนทบุรี   จังหวัดปทุมธานี   เป็นต้น   ซึ่งผลจากการระบาดในครั้งนี้ส่งผลทำให้หลายหน่วยงานจำเป็นที่จะต้องมีการคุมเข้มเกี่ยวกับเรื่องของการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิตที่จะเกิดขึ้น

ดังนั้นจึงมีสถานบันเทิงหลายแห่งและสถานประกอบการหลายแห่งที่ถูกสั่งให้ปิดกิจการเป็นการชั่วคราวไม่ว่าจะเป็นบรรดาสวนสนุกหรือแม้แต่สวนน้ำรวมถึงกองถ่ายละครก็ยังได้รับการประสานงานให้ยุติการถ่ายละครในช่วงนี้ไปก่อน

          ที่สำคัญปัจจุบันร้านอาหารก็ยังต้องใช้เป็นวิธีการซื้อกลับมากินที่บ้านและอนุญาตให้กินได้เพียงแค่โต๊ะละ 1 คนเท่านั้นซึ่งสถานการณ์ของการระบาดของไวรัสโควิชในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ค่อนข้างรุนแรงเป็นอย่างมากเพราะในแต่ละวันจะพบผู้ติดเชื้อไม่ต่ำกว่า 2000 คน  และ ด้วยสถานการณ์ของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงนั้นทำให้กระทรวงศึกษาธิการจำเป็นที่จะต้องออกมาวางนโยบายและแผนงานการเปิดเทอมใหม่อีกครั้งหนึ่ง

          โดยก่อนหน้านี้ทางกระทรวงศึกษาธิการได้มีการประกาศเลื่อนการเปิดเทอมออกไปแล้วซึ่งโดยปกติในทุกๆปีนั้นจะมีการเปิดเทอมช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคมสำหรับปีนี้ก็จะมีการกำหนดการเปิดเทอมไว้ที่วันที่ 17 เดือนพฤษภาคมแต่เนื่องจากว่าการระบาดของ covid นั้นค่อนข้างรุนแรงกระทรวงศึกษาธิการจึงมีการประกาศเลื่อนการเปิดเทอมมาเป็นวันที่ 1 มิถุนายนแทนอย่างไรก็ตามสถานการณ์ในตอนนี้กลางเดือนมิถุนายนแล้วแต่ว่าการระบาดของ covid นั้นยังไม่ลดลงและยังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

           ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการจึงจำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนการเพื่อประเมินสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ใหม่และหนึ่งในนั้นก็คือการประกาศเลื่อนการเปิดสถานศึกษาจากวันที่ 1 ไปเป็นวันที่ 14 เดือนมิถุนายนแทนโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนทั้งรัฐบาลและเอกชนที่อยู่ในโซนจังหวัดสีแดงนั้น

จะต้องมีการเลื่อนการเปิดเทอมออกไปก่อนรอจนกว่าบุคลากรทางการศึกษาคณะครูและอาจารย์และคนทำงานในโรงเรียนจะทำการฉีดวัคซีนป้องกัน covid กันครบทุกคนเพื่อเป็นความการันตีความปลอดภัยให้กับคณะครูและบุคลากรในโรงเรียนจะไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั่นเอง

           นอกจากนี้ยังป้องกันเด็กๆที่จะไม่ติดเชื้อไวรัส covid หลังจากที่มีการเปิดเทอมแล้วอย่างไรก็ตามทางด้านกระทรวงศึกษาธิการระบุว่าหากยังมีโรงเรียนไหนที่ต้องการที่จะเปิดเทอมก่อนวันที่ 14 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดเอาไว้ก็สามารถที่จะติดต่อยื่นขอความคิดเห็นจากคณะกรรมการประจำจังหวัดก่อนซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบโรคจะต้องมีการพิจารณาว่าจะสามารถอนุมัติให้มีการเปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนได้หรือไม่ 

 

สนับสนุนโดย  Ufabet เข้าสู่ระบบ

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน ประกาศเลื่อนการเปิดเทอมอีกรอบเป็นวันที่ 14 เดือนมิถุนายน 

ต่างด้าวแอบหนีเข้าพรมแดนประเทศไทยกว่า50คน

เพราะว่าก่อนหน้านี้บ้านเรามีคัตเตอร์ที่เกิดจากแรงงานต่างด้าวที่ได้อพยพเข้ามาตอนนั้นก็ยังผวากันยังไม่หายจนเจ้าหน้าที่ต้องเร่งแทบจะปูนพรมแดงปิดทั้งพรมแดนเลยล่าสุดมีการพบว่าแบมีการลักรอบเดินเท้าเข้ามาของกลุ่มแรงงานต่างด้าวแล้วมาทีเดียวประมาณ 50 คน 

โดยได้ถูกควบคุมตัวเอาไว้ได้แล้วการบักรอบเข้ามาในครั้งนี้เขาจะเลือกช่องทางธรรมชาติทางทิศเหนือของช่องวังเป้าหมู่12บ้านน้ำโจนในตำบลอ่าวน้อยอำเภอเมืองประจวบศีรีขันธ์มันเป็นแนวของสันเขาในช่วงพื้นที่ไม่เกิน1กิโลเมตรตรงนี้พบว่าแรงงานเดินลัดเลาะเท้าเปล่าเข้ามาในไทยค่อนๆเดินเข้ามาเหมือนกับกองทัพมด

เจ้าหน้าที่เขาได้ปิดล้อมเอาไว้ได้50คนมีชาย31คนหญิงอีก19คนทั้งหมดรับสารภาพว่าการเดินทางเข้ามาในบ้านเราครั้งนี้เขากระจายกันไปตามจุดต่างๆ39คนบอกว่าหนูจะไปโรงงานที่มหาชัยอีก4คนบอกว่าจะไปทำงานที่พระราม9อีก4คนบอกว่าจะไปที่หัวหิน2คนบอกว่าจะไปสุราษฎร์ธานีแล้วอีก1คนบอกว่าจะไปกระบี่

ซึ่งก่อนที่จะเดินทางไปยังจุดต่างๆเขาจะต้องไปยังจุดพักแรงงานใกล้กันกับหอนาฬิกาบ้านมูด่องใกล้ชายแดนด่านสิงขรประมาณสัก3กิโลเมตรก่อนใช้เวลาในการเดินเท้าข้ามสันเขา2วัน2คืนเป็นการตั้งใจเข้ามาจริงๆเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าใครจะไปไหนตรวจวัดอุณหภูมิเดี่ยวจะพาไปกักตัวก่อน14วันแล้วค่อยส่งตัวไปดำเนินคดี

นอกจากนี้ก็ได้มีการรายงานข่าวใช้คำว่าปกปิดแหล่งข่าวเขากระซิบบิกว่ามีข้อมูลมามีนายทุนคนนึงเขาเป็นชาวพม่าฉายาในวงการค้าแรงงานเถื่อนเรียกว่า “ มิมิแง “ ตามประวัติแล้วเป็นเจ้าของปั๊มแล้วก็เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ของ อำเภอตะนาวศรี จังหวัดมะริด มีความสนิทสนมกับข้าราชการระดับสูงในจังหวัดประจวบมีความเชื่องโยงกับเจ้าหน้าที่รัฐ

ในส่วนจัดหาสำนักงานของรัฐเพื่อรับใบสั่งแรงงานเถื่อนจากโรงงานในพื้นที่ทำให้การจับกุมในรอบ10ปีที่ผ่านมาไม่เคยสาวถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลังเลยนี่หรือเปล่าที่จะกลายเป็นอีก1ปมที่พยายามจะแก้ไขกับการรับเงินแล้วก็พาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในประเทศและไม่ถูกกฎหมายแบบนี้

ซึ่งหากแรงงานเถื่อน50คนนี้เขาไปถึงปลายทางนายทุนโรงงานจะต้องจ่ายเงินค่านายหน้าโดยหักจากค่าแรงของพวกเขาที่ลักรอบเข้ามาในบ้านเราด้วยที่พูดมาทั้งหมดนนี้แปลความง่ายๆคำเดียวเลยค่ามนุษย์และอีกฝั่งนึงตรงข้ามที่พรมแดนติดกับ กัมพูชา เจ้าหน้าที่ตามรวบตัวบุคคลลักรอบข้ามพรมแดนผิดกฎหมายได้อีก29คนแต่ละคนเสียค่านายหน้าเหมือนกันคนละ4,500บาท

 

สนับสนุนโดย  Gclub ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

โพสท์ใน ข่าวที่น่าสนใจ | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน ต่างด้าวแอบหนีเข้าพรมแดนประเทศไทยกว่า50คน

หญิงสาวท้อง 2 เดือน หายปริศนา ตำรวจคาดสามีฝรั่งเป็นคนฆ่า

          จากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ  ประจำสถานีตำรวจของจังหวัดน่าน   ได้รับแจ้งเหตุจากแม่ของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งระบุว่าลูกสาวของเธอนั้นหายตัวไปจากบ้านพักโดยหญิงสาวที่หายตัวไปนั้น กำลังตั้งท้อง 2 เดือน  โดยแม่ของหญิงสาวที่หายตัวไปยังระบุด้วยว่าลูกสาวของเธอนั้นมีสามีเป็นชาวต่างชาติซึ่งในขณะนี้ไม่สามารถติดต่อสามีของลูกสาวได้

    หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุคนหายก็ได้มีการระดมคนออกตามหาและมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆซึ่งพบว่าสามีของหญิงสาวที่หายตัวไปนั้นได้มีการขับรถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านพักและยังไม่เคยกลับมาที่บ้านอีกเลยดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการสันนิษฐานว่าหญิงสาวที่หายตัวไปนั้นอาจจะมีการเกี่ยวพันกับสามีของเธอก็เป็นไปได้

     อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการติดตามหาตัวอย่างหนักเมื่อวันที่ 6 เดือนมิถุนายนพ.ศ 2554 ช่วงเวลาประมาณ 15:00 น เย็นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถติดตามตัวสามีชาวฝรั่งของหญิงสาวที่หายตัวไปได้ในที่สุดซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าชายคนดังกล่าวนั้นหลบหนีไปอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่และเมื่อทำการจับกุมตัวมาได้จึงทำการสืบสวนสอบสวนชายชาวฝรั่งทันที

           ซึ่งในครั้งแรกนั้นเขาให้การรับสารภาพว่าเขาได้มีการลงมือทำร้ายภรรยาของเขาเองจนถึงแก่ความตายแล้วนำศพไปซ่อนไว้โดยเขาไม่ยอมบอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเขานำศพปัญญาของเขานั้นไปซ่อนไว้ที่ไหนซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้ระยะเวลาในการพูดคุยกับฝรั่งคนดังกล่าวอยู่นานพอสมควรในที่สุดเขาก็ให้การรับสารภาพพร้อมบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงสถานที่ซ่อนศพ

   โดยศพที่เขานำไปซ่อนนั้นถูกนำไปฝังเอาไว้ตรงบริเวณในป่าซึ่งป่าดังกล่าวนั้นอยู่ใกล้กับโรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลเรือง   ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการประสานงานเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ช่วยไปทำการขุดศพ เพื่อนำมาตรวจสอบและขณะนี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับทางสามีชาวฝรั่งคนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

     สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะใช้ระยะเวลาในการติดตามตัวคนร้ายได้ไม่นานก็สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้     ซึ่งถือว่าทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานด้วยความรวดเร็วเป็นอย่างมากโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านที่คอยให้เบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายจนสามารถจับกุมตัวมาได้ในที่สุดนั่นเอง 

           อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สามารถพบศพเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยศพนั้นถูกยัดใส่ถังขยะพลาสติกเอาไว้โดยมีการปิดฝาอย่างมิดชิดแล้วทิ้งไว้ตรงจุดเปลี่ยวซึ่งเป็นป่าละเมาะ

 

สนับสนุนโดย    gclub มือถือ ทดลองเล่น

โพสท์ใน ข่าวที่น่าสนใจ | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน หญิงสาวท้อง 2 เดือน หายปริศนา ตำรวจคาดสามีฝรั่งเป็นคนฆ่า

เพื่อนบ้านทะเลาะกันเรื่องปัญหาที่จอดรถ 

เพื่อนบ้านทะเลาะกันเรื่องปัญหาที่จอดรถ  พฤติกรรมเกินรับไหวเอาผ้าอนามัยใช้แล้วมาแขวนจองที่

           เมื่อวันที่ 27 เดือนเมษายนปีพศ 2564    ได้ มีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งมีการนำภาพราวตากผ้าซึ่งมีผ้าอนามัยที่มีการใช้งานเรียบร้อยแล้วนำมาแขวนตากเอาไว้จำนวน 2 ชิ้น  โดยทางเจ้าของ Facebook ระบุว่าคนที่นำเอาผ้าอนามัยที่ใช้แล้วมาแขวนที่ราวตากผ้านั้น

นำราวตากผ้ามาวางไว้ตรงบริเวณดังกล่าวซึ่งเป็นหน้าบ้านแห่งหนึ่งโดยบ้านดังกล่าวในไม่มีคนอาศัยอยู่เพื่อทำการจองที่สำหรับใช้ในการจอดรถ   โดยจุดเกิดเหตุนั้นอยู่ตรงบริเวณตรงข้ามตึกคิวการเคหะสุขสวัสดิ์   ซึ่งอยู่ในถนนสุขสวัสดิ์ซอย 30    เขตราษฎร์บูรณะ  กรุงเทพฯนี่เอง 

          หลังจากที่ Facebook นี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ทำให้มีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมากเกี่ยวกับพฤติกรรมการเอาผ้าอนามัยที่ใช้แล้วออกมาปากให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้นได้เห็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งราวตากผ้าอนามัยดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ตรงข้ามร้านอาหารทำให้คนที่มาซื้ออาหารหรือคนที่เดินผ่านเมื่อเห็นผ้าอนามัยใช้แล้วมีการตากเอาไว้ต่างก็พากันเอื่อมระอา 

       เป็นนักข่าวได้มีการลงพื้นที่ไปยังสถานที่เกิดเหตุดังกล่าวนั้นซึ่งชาวบ้านให้ข้อมูลว่าผู้ที่นำผ้าอนามัยมาตากนั้นชื่อว่านางแนนซึ่งเป็นแม่ค้าขายอาหารอยู่ฝั่งตรงข้ามโดยนางแนนนั้นต้องการที่จะจองพื้นที่ดังกล่าวสำหรับเอาไว้จอดรถของตนเองและนางแนนมักมีปัญหาแย่งที่จอดรถกับนางปุ้ยซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ติดกันเพราะนางปุ้ยเองก็ต้องการที่จะจอดรถตรงบริเวณนั้นเช่นเดียวกันโดยทั้งคู่นั้นเคยทะเลาะกันมาครั้งหนึ่งแล้วในช่วงต้นเดือนเมษายนปีพศ 2564 นั่นเอง

             ซึ่งในครั้งนั้น  นางปุ้ย  ได้นำรถของตนเองไปทำการจอดตรงบริเวณที่ดังกล่าวทำให้นางแนนเกิดความไม่พอใจและได้นำอุจจาระไปปาที่รถของนางปุ้ย ดังนั้นจึงโมโหมากและนำกระถางต้นไม้ไปขว้างใส่หน้าร้านของนางแนน  ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นทั้งคู่ต่างก็พากันไปแจ้งความดำเนินคดีกับอีกฝ่ายซึ่งคดีดังกล่าวนั้นยังไม่สามารถตกลงกันได้โดยรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปทำการเคลียร์เจรจาชดใช้ค่าเสียหายกันอยู่

          แต่แล้ววันนี้ก็กลับมามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการจองที่จอดรถกันอีกทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวนั้นต่างก็พากันเอือมระอา ทั้งนางปุ้ยและนางแนน   ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงมายังพื้นที่เกิดเหตุแล้วและได้มีการเรียกทั้งสองคนมาพูดคุยเพื่อให้อยู่ด้วยกันอย่างสันตินอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการยึดราวตากผ้าเจ้าปัญหาเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วและจะมีการแจ้งข้อหากับผู้กระทำความผิดต่อไป 

 

สนับสนุนโดย.  ufabet

โพสท์ใน ข่าวที่น่าสนใจ | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน เพื่อนบ้านทะเลาะกันเรื่องปัญหาที่จอดรถ 

หนุ่มแสบ หลอกซื้อรถใหม่ป้ายแดง ยี่ห้อ MG ทั้งหมด 16 คันจ่ายเงินเพียงแค่ 16 บาท 

           เป็นเรื่องที่ชวนตกตะลึงกันเลยทีเดียวเมื่อทางเซลล์ขายรถของยี่ห้อ MG ได้มีการติดต่อแจ้งความประกันเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจจังหวัดปราจีนบุรีโดย ระบุว่าตนเองถูกชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นคนจังหวัดชุมพรได้ติดต่อขอซื้อรถยนต์ใหม่ป้ายแดงยี่ห้อ  MG ไปทั้งสิ้น 16 คันด้วยกันโดยเมื่อมีการเช็คยอดเงินแล้วมีเงินเข้าบริษัทเพียงแค่ 16 บาทเท่านั้น

         สำหรับเรื่องราวในครั้งนี้นั้นเกิดขึ้นเมื่อมีชายคนหนึ่งได้มีการติดต่อบริษัทขายรถยนต์ยี่ห้อ MG ที่เปิดสาขาในจังหวัดปราจีนบุรีเพื่อติดต่อขอซื้อรถยนต์ด้วยครั้งแรกนั้นชายหนุ่มคนดังกล่าวมีการซื้อรถใหม่ป้ายแดงพร้อมทั้งสายเป็นเงินสด  หลังจากนั้นไม่นาน ชายหนุ่มคนเดิมก็มีการติดต่อเซลล์ขายรถยนต์คนเดิม ซึ่งครั้งนี้ได้มีการสั่งซื้อรถยนต์ใหม่ป้ายแดงรวมทั้งสิ้น 16 คันด้วยกัน

           โดยในครั้งแรกนั้นนัดจะมีการชำระเงินกันผ่านทางเชคแต่ปรากฏว่าเมื่อนำเช็คไปขึ้นเงินมีปัญหาเรื่องของเช็คเด้งใช่หนุ่มคนดังกล่าวจึงได้มีการนัดกับเซลล์ว่าจะมีการโอนเงินผ่านทางแอพพลิเคชั่นไปให้กับเซลล์โดยมีการส่งสลิปการโอนเงินยืนยันเป็นหลักฐานให้กับทางเซลล์อีกครั้งหนึ่งซึ่งทางเซลล์เมื่อได้รับสลิปมาจากลูกค้าแล้วเห็นยอดเงินถูกต้องเป็นจำนวน 16 ล้านกว่าบาทก็ได้มีการทำเอกสารนำรถยนต์ใหม่ป้ายแดงไปส่งให้กับลูกค้าถึงที่หมายโดยมีการนำรถยนต์ไปส่งให้ 14 คันยังเหลือค่าส่งอีก 2  คัน

          แต่ระหว่างนั้นเองปรากฏว่าทางเซลล์นั้นทำการตรวจสอบกับบริษัทพบว่ายอดเงินที่มีการโอนจ่ายค่ารถมานั้นไม่มีข้าวตามจำนวนที่มีการส่งสลิปมาให้  พบเพียงเงินแค่ 16 บาทเองเท่านั้นจึงได้มีการติดต่อประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าวทันทีซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการตรวจสอบและลงพื้นที่เพื่อติดตามชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดีและสามารถจับกุมได้ในที่สุด 

        โดยในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำรถของกลางกลับคืนมาได้ทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ระหว่างที่มีการสืบสวนกับทางผู้ต้องหานั้นขณะนี้ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาอยู่แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเช็คไปตามท้องที่ต่างๆปรากฏว่าชายคนดังกล่าวนั้นมีหมายจับอยู่หลายพื้นที่ในข้อหาเกี่ยวกับเรื่องของการฉ้อโกงการซื้อรถยนต์นั้นเอง 

           อย่างไรก็ตามนี่คือเหตุการณ์การก่ออาชญากรรมครั้งใหญ่ซึ่งอันที่จริงแล้วการที่ทางด้านเซลล์ขายรถจะมีการปล่อยรถยนต์ส่งให้กับลูกค้านั้นจะต้องมีการตรวจสอบยอดเงินอย่างถูกต้องก่อนซึ่งครั้งนี้ถือว่าเซลล์ขายรถยนต์ทำงานหล่ะหลวมมากทางด้านบริษัทเองคงต้องมีการตรวจสอบการทำงานของเซลล์ขายรถยนต์คนนี้ว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุอาชญากรรมในครั้งนี้หรือไม่

 

สนับสนุนโดย.  สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน หนุ่มแสบ หลอกซื้อรถใหม่ป้ายแดง ยี่ห้อ MG ทั้งหมด 16 คันจ่ายเงินเพียงแค่ 16 บาท 

เด็กนักเรียนชั้น ป.5 ถูกคนร้ายอายุ 16 ปีลวงไปข่มขื่น ก่อนทุบหัวหวังให้ตาย

          เมื่อวันที่ 9  เดือนมีนาคม ปี พ.ศ. 2564  ได้มีอยู่การเด็กชายอายุเพียง 12 ปีนักเรียนชั้นป 5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิจนได้รับบาดเจ็บสาหัส  โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 15:00 น. ซึ่งเป็นเวลาเลิกเรียน   สำหรับคนที่ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้มีชื่อว่าเด็กชายก้องภพ 

     และเหตุการณ์ที่เด็กชายก้องภพถูกทำร้ายร่างกายนั้นหลังจากที่เด็กชายรอดชีวิตจากการที่นี่ไปให้พลเมืองดีช่วยเหลือเขาก็กลับมาเล่าให้คนในครอบครัวและคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่าหลังจากที่เขาเลิกเรียนกำลังจะเดินทางกลับบ้านนั้นอยู่ๆก็มีรถมอเตอร์ไซค์คันนึงมาจอดคนขับนั้นอายุประมาณ 16 ปี

       โดยคนขับรถมอเตอร์ไซค์ต้องการให้เด็กชายก้องภพพาไปร้านปะยางโดยบอกว่าจะให้เงินค่าพาไป 30 บาททำให้เด็กชายก้องภพนั้น  ซึ่งมอเตอร์ไซค์ซ้อนไปกับคนร้ายแต่เมื่อถึงร้านปะยางปรากฏว่าคนร้ายไม่ยอมเลี้ยวเข้าไปในร้านกับขับรถเลยไป  ทำให้เด็กชายเริ่มหวาดกลัวและพยายามที่จะโดดลงจากรถมอเตอร์ไซค์แต่ถูกคนร้ายข่มขู่ว่าจะฆ่าทำให้เด็กเกิดความหวาดกลัวจึงได้นั่งรถต่อไปตามทางเรื่อยเรื่อย  

      และเมื่อขับรถไปถึงที่เปลี่ยวไม่มีบ้านคนก็ได้จอดรถมอเตอร์ไซค์และกระชากเด็กชายก้องภพเข้าไปในป่าหลังจากนั้นก็พยายามถอดเสื้อและจะทำการข่มขืนแต่เด็กชายก้องภพต่อสู้ทำให้คนร้ายไม่พอใจหันไปหาไม้และก้อนหินมาทุบตีเด็กชายก้องภพจนเลือดแตกที่ศีรษะและแขนหักเนื่องจากว่าใช้แขนปัดป้อง

            และในจังหวัดที่ถูกทำร้ายนั้นเองเด็กชายก้องภพก็พยายามวิ่งหลบหนีจนในที่สุดก็ไปเจอกระท่อมของชาวสบ้านที่ปลูกเอาไว้ จึงได้พยายามไปซ่อนตัว โดยคนร้ายไม่ได้ตามมาและได้วิ่งหลบหนีไปซึ่งพลเมืองดีที่เป็นเจ้าของกระท่อมจะมาเจอเด็กชายก้องภพก็เป็นวันที่ 10  ช่วงประมาณ 6 โมงเช้าแล้ว     เส้นทางด้านพลเมืองดีนั้นได้พาน้องก้องภพส่งโรงพยาบาล  จึงทำให้น้องก้องภพรอดมาได้จากเหตุการณ์โดนทำร้ายในครั้งนี้นั้นเอง

        อย่างไรก็ตามตอนนี้อาการของน้องก้องภพดีขึ้นเรื่อยๆและได้มีการไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจแล้วพร้อมกับ ข้อมูลเกี่ยวกับรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายซึ่งตรงกับคนในหมู่บ้านคนหนึ่งซึ่งมีอายุ 16 ปีโดยชาวบ้านบอกว่าชายคนนี้เคยก่อเหตุมาแล้วแบบนี้ 1 ครั้งเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วและเป็นคนมีปัญหาด้านสุขภาพจิต การที่คนร้ายทำร้ายคนอื่นในครั้งที่แล้วนั้นไม่ได้มีคนแจ้งความดำเนินคดีเนื่องจากว่าไม่มีคนได้รับบาดเจ็บ 

 

สนับสนุนโดย.    เว็บพนันบอล ฝากขั้นต่ำ 100

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน เด็กนักเรียนชั้น ป.5 ถูกคนร้ายอายุ 16 ปีลวงไปข่มขื่น ก่อนทุบหัวหวังให้ตาย

หญิงวัย 58 ปี ถูกใบสั่ง 200 ใบไม่เคยไปจ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาหาถึงบ้าน

            เมื่อวันที่ 22   เดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2564    ที่หมู่บ้านฟ้าไทย ในจังหวัดเชียงราย  เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นหน่วยงานของกรมทางหลวง  ได้เดินทางไปยังบ้านของหญิงคนหนึ่งอายุ 58 ปี  ชื่อว่านางสาวณิชาภัทร   ฐิติพงศ์ปรีดา   โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้มีการนำเอกสารที่ออกจากทางราชการเป็นหมายแสดงการจับกุมนางสาวณิชาภัทร 

           สาเหตุของการกระทำผิดนั้นในเอกสารระบุว่านางสาวณิชาภัทรได้มีการทำผิดการจราจรบนท้องถนนเนื่องจากว่ามีการขับรถฝ่าไฟแดงอยู่บ่อยครั้ง  ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งใบสั่งมาให้ถึงที่บ้านเป็นจำนวนถึง 200 ใบด้วยกันแต่ตลอดระยะเวลาที่นางสาวณิชาภัทรได้รับใบสั่งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นไม่เคยไปเสียค่าปรับเลย  

        ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการพูดคุยกับนางสาวณิชาภัทรถึงสาเหตุของการออกหมายจับกุมในครั้งนี้ว่าก่อนหน้านี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งเอกสารมาให้ที่บ้านโดยทำเป็นขั้นตอนต่างๆเริ่มตั้งแต่ส่งเรื่องของใบสั่งมาให้แต่ก็ถูกเพิกเฉยหลังจากนั้นก็มีการส่งใบเตือนให้ไปชำระค่าปรับแต่นางสาวณิชาภัทรก็ไม่ได้สนใจรวมถึงยังมีการส่งเอกสารตามขั้นตอนต่างๆทางกฎหมายเรื่อยมาและมีการออกหมายเรียกให้นางสาวณิชาภัทรไปติดต่อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจแต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อแต่อย่างไร

          ในที่สุดทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการส่งเอกสารไปยังศาลการปกครองเพื่อให้ศาลอนุมัติการออกหมายจับเพื่อนำตัวนางสาวณิชาภัทรไปดำเนินคดี  อย่างไรก็ตามนางสาวณิชาภัทรรับทราบข้อกล่าวหาทุกกรณีและยอมรับว่ามีใบสั่งส่งมาที่บ้านจริงและไม่เคยไปชำระเงินตามที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาจริง   

        สำหรับปัญหาการที่ผู้ขับขี่รถบนท้องถนนได้มีการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการจราจรนั้นส่วนใหญ่แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการส่งใบสั่งไปให้ถึงที่บ้านพร้อมทั้งยังมีภาพถ่ายขณะที่ก่อเหตุกระทำผิดเป็นหลักฐานเพื่อให้ประชาชนสามารถทำการตรวจสอบได้และเมื่อเราได้รับใบสั่งแล้วก็สามารถนำใบสั่งนั้นไปทำการชำระเงินที่สถานีตำรวจๆ  

        แต่ในขณะเดียวกันทุกวันนี้บางคนที่ได้รับใบสั่งนั้นก็จะมีการเพิกเฉยและไม่ยอมไปชำระค่าปรับต่างๆทำให้อาจกล่าวได้ว่าตอนนี้ผู้ที่ได้รับใบสั่งนั้นมีเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ไปเสียค่าปรับซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควรจะมีการปรับเปลี่ยนเกี่ยวกับกฎหมายการเสียใบสั่งใหม่ว่าหากมีการสะสมใบสั่งเกินจำนวนเท่าไหร่ให้มีการระงับใบขับขี่ถึงจะเป็นการทำโทษผู้กระทำผิดและเชื่อว่าถ้าหากมีบทลงโทษแบบนี้ผู้คนน่าจะหันมาสนใจการไปเสียค่าปรับกันมากขึ้น 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.  gclub ทดลองเล่นฟรี

โพสท์ใน ข่าวที่น่าสนใจ | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน หญิงวัย 58 ปี ถูกใบสั่ง 200 ใบไม่เคยไปจ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาหาถึงบ้าน

ฆ่าเปลือยสาว tiktok เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัว

               ที่ประเทศอินโดนีเซียเกิดเหตุคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นโดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เดือนมกราคมปีพศ 2564  ตามรายงานข่าวระบุว่าผู้ที่เสียชีวิตนั้นเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 23 ปีเธอมีชื่อว่า ดวี  ฟาริกา เลสทาริ  เธอเป็นหญิงสาวที่รูปร่างหน้าตาดี   ที่สำคัญเธอเป็นคนที่อยู่ในวงการ Social Media เนื่องจากว่าเธอนั้นเป็นดาวของติ๊กต๊อกเลยก็ว่าได้  

           โดยปกติแล้ว  ดวี  ฟาริกา เลสทาริ มักมีการโพสต์ข้อความลงติ๊กต๊อกอยู่เสมอซึ่งส่วนใหญ่นั้นเธอจะโพสต์เกี่ยวกับการเต้นลงไป  สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ผู้ที่ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มายังจุดเกิดเหตุนั้นคือเพื่อนสาวของเธอเองซึ่งพักอยู่ที่โฮมสเตย์เดียวกันก็หญิงสาวคนดังกล่าวได้ว่าเธอได้ยินเสียงเพื่อนของเธอร้องออกมาจากห้องพักแต่เมื่อเธอพยายามติดต่อโทรเข้าไปภายในห้องก็ไม่สามารถติดต่อผู้ตายได้ทั้งที่ก่อนหน้าที่จะได้ยินเสียงร้องของเพื่อนนั้นพวกเธอยังลงมากินข้าวอยู่ด้วยกันซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 01:00 น.

           และเมื่อเพื่อนของเธอติดต่อ ดวี  ฟาริกา เลสทาริ ไม่ได้ก็ทำให้เกิดความร้อนไปจึงได้วิ่งไปเคาะเรียกอยู่ที่หน้าห้องของ ดวี  ฟาริกา เลสทาริ แต่ก็ไม่มีการตอบกลับมาดังนั้นเธอจึงได้พยายามแอบมองตามรูต่างๆเข้าไปในห้องพักจนในที่สุดก็เห็นว่าเธอพบว่าเพื่อนของเธอนั้นนอนอยู่บนพื้นโดยลักษณะของการมีเลือดอาบอยู่เต็มตัวดังนั้นเธอจึงได้โทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ

          อย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบข้อมูลพบว่าก่อนหน้าที่ดวี  ฟาริกา เลสทาริ จะเสียชีวิตนั้นมีชายผู้ต้องสงสัย ออกมาจากห้องของผู้ตายซึ่งมีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายกับชายคนดังกล่าวนั้นน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีอย่างไรก็ตามตามข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบว่าก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิตนั้นเธอเพิ่งโพสต์คลิปลงใน tiktok ก่อนที่เธอจะถูกพบว่าเสียชีวิตเพียงแค่ไม่นานเท่านั้นเอง           

              สำหรับผู้ตายนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบร่องรอยการถูกทำร้ายบริเวณลำคอและยังมีแผลอื่นๆตามร่างกายและในจุดเกิดเหตุนั้นยังพบมีดปากกาตกอยู่ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายและผู้ตายน่าจะมีความสัมพันธ์กันเป็นอย่างดีถึงสามารถเข้าไปในห้องพักของผู้ตายได้  และสภาพศพของผู้ตายยังอยู่ในลักษณะเปลือย ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเรียกตรวจสอบพยานหลักฐานและพยานบุคคลเพื่อที่จะได้สามารถจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษได้ เชื่อว่าไม่นานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะจับคนได้มาลงโทษได้อย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย.  สมัคร Gclub

โพสท์ใน ข่าวที่น่าสนใจ | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน ฆ่าเปลือยสาว tiktok เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัว

เถียงกันสนั่นโซเชียลเกี่ยวกับการซื้อถังแก๊สใหม่ต้องจ่ายแพงแต่พอจะคืนกลับถูกกดราคา

          มีการถกเถียงกันในเพจดังเพจหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องของการซื้อถังแก๊สถังใหม่โดยมีคนนำมาโพสต์เกี่ยวกับการซื้อถังแก๊สใหม่นั้นว่าเขาต้องเสียเงินในการซื้อถังใหม่อยู่ที่ 2800 บาทในขณะที่เมื่อมีการใช้งานไปสักพักนึงจะขายถังแก๊สคืนให้กับร้านค้าปรากฏว่าถูกกดราคาเพราะขายร้านค้ารับซื้อคืนเพียงแค่หลังละ 1000 บาทเพียงเท่านั้นพวกเขามองว่าพวกเขากำลังถูกเอารัดเอาเปรียบเป็นอย่างมาก

        ในขณะที่มุมมองของร้านค้าที่รับซื้อถังแก๊สนั้นมองว่าทางใดที่ถูกนำมาขายให้กับร้านค้านั้นคือถังแก๊สเก่าที่มีการใช้งานแล้ว  ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถที่จะให้ราคาที่สูงกว่า 1000 บาทได้  โดยราคา 1000 บาทนี้เป็นราคาที่สามารถจ่ายได้สูงสุดเพราะโดยปกติแล้วร้านค้าที่รับซื้อถังแก๊สจะต้องตรวจสอบสภาพถังแก๊สก่อนว่ามีความเก่ามากน้อยแค่ไหนโดยจ่ายเงินให้ตามสภาพโดยรวมแล้วก็จะได้รับเงินคืนอยู่ที่ประมาณ 800-1000 บาทนั่นเอง

        อย่างไรก็ตามหลายคนกลับมองว่าเวลาที่เราซื้อถังแก๊สมาใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้วในขณะนั้นของแก๊สของเราคือถังแก๊สใหม่แต่เมื่อใช้งานแก๊สหมดแล้วแต่ก็มีการเปลี่ยนแก๊สถังใหม่ปรากฏว่าร้านค้าส่วนใหญ่ที่นำถังมาเปลี่ยนให้กับเรานั้นมักจะนำถังเก่าของร้านมาเปลี่ยนให้กลายเป็นว่าถังแก๊สของเราก็กลายเป็นถังต่อทันที

และนี่เองคือปัญหาที่ทำให้หลายคนมองว่าเป็นการถูกเอารัดเอาเปรียบนั่นเองเพราะร้านค้าที่นำแก๊สมาเปลี่ยนนั้นไม่ยอมเอาถังใหม่มาเปลี่ยนให้ดังนั้นถึงแม้ว่าจะมีการผ่านการใช้งานเพียงแค่ถังเดียวก็อาจจะทำให้เจ้าของถังแก๊สที่เพิ่งซื้อใหม่ได้ใช้ถังใบที่ 2 เป็นถังเก่าได้นั่นเองและเมื่อนำไปขายก็จะทำให้ราคาตกลงมา 

          อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในโลกออนไลน์ก็หลายคนก็มองตามสภาพของความเป็นจริงว่าเมื่อมีการซื้อถังแก๊สมาแล้วมีการใช้งานก็นับว่าเป็นถังแก๊สมือสองเปลี่ยนสภาพว่ามีการใช้งานแล้วและเก่าแล้วนั่นเองดังนั้นการที่จะให้คืนเงินทั้งหมด 2800 บาท

จึงไม่สามารถทำได้อยู่แล้วขอให้สังเกตที่ถูกนำมาขายนั้นจะไม่ใช่สภาพเก่ามากนักแต่เมื่อมีการใช้งานแล้วก็ถือว่าถังแก๊สนั้นมีการใช้งานและเสื่อมสภาพแล้วดังนั้นการคืนในราคาอยู่ที่ 1,000 บาทก็ยังถือว่าเหมาะสมและสามารถนำรับได้

        ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่าเกี่ยวกับเรื่องของการ ขายถังแก๊สคืนแล้วควรจะต้องคืนเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่นั้นคงไม่สามารถหาข้อยุติได้เพราะเนื่องจากการใช้งานถังแก๊สนั้นเป็นลักษณะของการใช้งานผังเวียนดังนั้นเราอาจจะเจอสภาพถังต่อและถังใหม่แตกต่างกันออกไป  แต่ถ้าหากใครไม่อยากที่จะถูกเอารัดเอาเปรียบอยากจะใช้ถังแก๊สใหม่ของตนเองตลอดก็สามารถใช้เป็นวิธีการนำถังแก๊สของตนเองไปเติมตามร้านแก๊สแทนได้

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บหลัก

โพสท์ใน ข่าวที่น่าสนใจ | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน เถียงกันสนั่นโซเชียลเกี่ยวกับการซื้อถังแก๊สใหม่ต้องจ่ายแพงแต่พอจะคืนกลับถูกกดราคา

เจ้าหนี้โพสต์ทวงเงินผ่าน facebook

เจ้าหนี้โพสต์ทวงเงินผ่าน facebook ไม่มีรูปภาพและไม่ได้ระบุชื่อลูกหนี้แต่ถูกตำรวจไลน์เรียกคุย 

        มีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการโพสต์ Facebook ผ่านทางเฟซส่วนตัวของตนเองโดยในเฟซนั้นเธอได้มีการนำข้อความของเธอซึ่งคุยกับชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตำแหน่งเป็นสารวัตรขอมาเคลียร์เกี่ยวกับเรื่องของที่หญิงสาวนั้น

ได้มีการโพสต์ข้อความลง Facebook จำนองเป็นการทวงหนี้ผ่านทางเฟสซึ่งสร้างความอับอายให้กับลูกหนี้และได้มีการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวจึงได้มีการทัก LINE มาหาเจ้าหนี้เพื่อที่จะเรียกตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ

       อย่างไรก็ตามข้อความที่เธอได้มีการแสดงให้ดูนั้นมีการระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวนั้นในขั้นแรกบอกให้เธอนั้นไปพบเพื่อทำการรับหมายเรียกแต่เมื่อเธอยืนยันที่จะไปพบและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยประสานงานลูกหนี้มาพบเธอด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกับบ่ายเบี่ยง

และยังอ้างกับเธอว่าถ้าเธอไม่มาจะออกหมายจับเธอซึ่งเธอนั้นก็ยืนยันว่าเธอจะไปโดยลูกแม่ต้องไปด้วยเพราะลูกหนี้นั้นติดเงินเธอถึง 5 แสนบาทแต่ไม่เคยที่จะนำเงินมาชดใช้เธอเลยอีกทั้งใน Facebook ส่วนตัวของลูกหนี้ก็ยังมีการอัพเดทวิถีชีวิตของตนเองใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยและเธอไม่เคยติดต่อลูกหนี้ได้เลยที่สำคัญข้อความที่เธอโพสต์ลงติดตามทวงหนี้นั้น

เธอไม่เคยเอ่ยชื่อถึงใครและไม่ได้เอ่ยพาดพิงไปถึงลูกหนี้คนดังกล่าวและแน่นอนว่าไม่มีรูปภาพใดๆที่จะสอนให้รู้เลยว่าลูกหนี้ที่เธอกำลังโทรอยู่นั้นเป็นใครแต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้ติดต่อมาเธอก็ต้องการพูดคุยกับลูกหนี้คนดังกล่าวเพื่อขอเงินห้าแสนบาท ของ เธอคืนซึ่งในข้อความ LINE ที่มีการคุยกันระหว่างเธอและเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นแสดงให้เห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นพวกเดียวกัน

กับลูกหนี้และหลายคนที่ได้อ่านข้อความในไลน์ต่างก็มองว่าชายหนุ่มคนดังกล่าวไม่น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงเพราะไม่มีความรู้ใดๆในการที่จะดำเนินคดีกับเจ้าหนี้เลยที่สำคัญการที่เจ้าหนี้พบข้อความไปแบบนั้นก็ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไรเพราะไม่ได้มีการอ้างถึงเลยว่าลูกหนี้ที่ใช้กำลังพูดถึงนั้นเป็นใคร

          สำหรับเรื่องราวในครั้งนี้ฝ่ายทั้งเจ้าหนี้สาวยืนยันว่าเธอจะดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุดในต้องต่อสู้กันในชั้นศาลก็ตามเพราะเงินจำนวนที่ลูกหนี้ของเธอยืมไปนั้นค่อนข้างสูงมากดังนั้นเธอต้องการที่จะได้เงินของเธอและครอบครัวของเธอคืน

         หากใครก็ตามที่ได้มีการติดตามข่าวนี้และอ่านข้อความใน LINE และค่อนข้างรู้สึกว่าข้อความที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเขียนถึงเจ้าหนี้นั้นเหมือนกับไม่ใช่เป็นตำรวจจริงซึ่งต้องรอดูการพิสูจน์ต่อไปว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ระบุชื่อและนามสกุลและลดตามที่มีการติดต่อมานั้นมีการสังกัดอยู่ที่สนไหนเป็นตำรวจจริงหรือไม่เพราะถ้าหากไม่ใช่ตำรวจจริงก็จะสามารถดำเนินคดีกับชายหนุ่มคนดังกล่าวที่แอบอ้างเป็นตํารวจได้เช่นเดียวกัน

 

สนับสนุนโดย  gclub ฟรีสปิน

โพสท์ใน ข่าวที่น่าสนใจ | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน เจ้าหนี้โพสต์ทวงเงินผ่าน facebook