งานแต่งระทึก… แขกในงานหนีตายไฟไหม้ 

เมื่อวันที่ 13   เดือนธันวาคม ปี พ.ศ 2566 ได้มีคลิปที่ถูกแชร์กันในโลกออนไลน์เป็นคลิปที่เกิดขึ้นที่งานแต่งงานแห่งหนึ่ง

โดยระบุว่างานที่เกิดขึ้นในคลิปนั้นเป็นงานแต่งงานที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 เดือนธันวาคม ปีพ.ศ 2566  โดยคลิปที่มีการเผยแพร่ในกันในโลกออนไลน์อยู่นั้นเป็นคลิปที่แขกมาร่วมงานแต่งงานรวมถึงเจ้าบ่าวและเจ้าสาวกำลังพยายามพากันวิ่งหนีออกจากบริเวณจัดงานแต่งงานเนื่องจากว่ามีเหตุการณ์ไฟไหม้เกิดขึ้น 

สำหรับงานแต่งงานที่ถูกเปิดเผยในโลกออนไลน์นั้นถูกระบุว่าเป็นงานแต่งงานที่จัดขึ้นย่านบริเวณพระราม 3 โดยคู่บ่าวสาวได้มีการจ้าง organizer มาช่วยจัดงานแต่งงานให้ ซึ่งตรีมการจัดงานแต่งงานนั้นสวยงามหรูหราสมกับราคาเงินที่ต้องจ่ายไปถึง 250,000 บาท

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลางานเลี้ยงตอนค่ำโดยในช่วงเช้านั้นพิธีผ่านพ้นเป็นไปด้วยดีแต่พอถึงช่วงที่จะต้องมีการเฉลิมฉลองกันปรากฏว่าไฟในห้องจัดงานแต่งงานนั้นติดๆดับๆ  หลังจากนั้นไม่นานแขกที่อยู่ในงานเลี้ยงก็พากันเริ่มได้กลิ่นเหมือนกับไฟไหม้ 

 เนื่องจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวเห็นถ้าไม่ดีจึงได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ organizer ให้ทราบถึงปัญหาดังกล่าวและได้มีการประกาศเชิญแขกที่มาร่วมงานให้ออกจากงานแต่งโดย ยังไม่ทันที่แขกจะออกจากห้องจัดงานเลี้ยงหมดก็เริ่มมีไฟลุกไหม้โชคดีที่เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์

เนื่องเพราะว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องการถามหาความรับผิดชอบจากบริษัทอัลโกไนเซอร์ที่ตนเองจ้างมาจัดงานแต่งงานเพราะทางเจ้าบ่าวเจ้าสาวยืนยันว่าระหว่างที่เกิดเรื่องนั้นไม่มีพนักงานมาคอยแก้ไขปัญหาเลยโดยไม่มีการเปิดสัญญาณแจ้งเตือนเกี่ยวกับไฟไหม้ให้แขกในงานรู้ไม่มีเจ้าหน้าที่มาแนะนำทางที่จะไปบันไดหนีไฟ

นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวรับไม่ได้มากที่สุดก็คือหลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้วทางบริษัทออแกไนเซอร์ก็ได้มีการเตรียมงานจัดงานแต่งงานต่อในสถานที่เดิมที่เกิดไฟไหม้และไม่มีการแสดงความรับผิดชอบ

หรือแสดงความรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวเลยเมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวถามหาความรับผิดชอบทางบริษัท organizer ระบุแต่เพียงว่ามันเป็นอุบัติเหตุเป็นเหตุการณ์สุดวิสัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นซึ่งทางบริษัทออแกไนซ์ก็ชดเชยด้วยการมอบส่วนลดที่พักที่หัวหินให้เท่านั้น 

อย่างไรก็ตามข้อความที่ทางลงบริษัท organizer ส่งให้คู่บ่าวสาวนอกจากจะเป็นคำชี้แจงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุแล้วทางพนักงานของบริษัทออแกไนเซอร์ยังได้มีการข่มขู่ไม่ให้มีการนำเรื่องราวดังกล่าวไปเปิดเผยในโลกออนไลน์

ซึ่งถ้าหากมีการเปิดเผยจะถูกดำเนินคดีทำให้คู่บ่าวสาวรู้สึกว่าบริษัท organizer ไม่ได้มีความตั้งใจจริงที่จะแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงทำให้คู่บ่าวสาวนำคลิปดังกล่าวมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ole777

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ | ปิดความเห็น บน งานแต่งระทึก… แขกในงานหนีตายไฟไหม้ 

ครูชัยยศเซ็นให้เด็กได้มีข้าวกลางวันกินฟรีแต่กลับถูกให้ออกราชการ 

          ในโลกออนไลน์ต่างก็มีการแชร์เรื่องราวของคุณครูชัยยศซึ่งเป็นครูที่สอนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่โดยเรื่องราวของครูชัยยศนั้นถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 7 เดือนธันวาคมปีพ.ศ 2566   เนื่องจากผู้คนต่างก็สงสารและเห็นใจครูชัยยศที่ต้องถูกให้ออกจากราชการและหาเลี้ยงชีพตนเองด้วยการออกมาขายโรตี 

        สำหรับเรื่องราวของครูชัยยศนั้น เป็นเรื่องราวของคุณครูที่ดีคนหนึ่งที่ต้องออกจากงานราชการเนื่องจากมีการเซ็นตรวจรับเงินอาหารกลางวันแล้วนำเดินดังกล่าวแบ่งออกมาบางส่วนเพื่อนำไปทำอาหารกลางวันให้เด็กม. ต้นรับประทาน  

   อย่างไรก็ตามความผิดของครูชัยยศเกิดขึ้นเมื่องบประมาณดังกล่าวนั้นถูกส่งมาให้สำหรับเด็กนักเรียนอนุบาลและเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาเท่านั้นแต่เนื่องจากคุณครูชัยยศเล็งเห็นว่าเด็กนักเรียนชั้นม. ต้นในโรงเรียนนั้นก็เป็นเด็กยากไร้และไม่มีเงินที่จะซื้ออาหารกลางวันกินเช่นเดียวกันจึงได้นำเงินดังกล่าวเขตบางส่วนออกมาจนเป็นที่มาของคำสั่งว่ามีการทุจริตและถูกสั่งให้ออกจากราชการนั่นเอง 

    สำหรับโรงเรียนที่เกิดเหตุที่คุณชัยยศได้สอนอยู่นั้นเป็นโรงเรียนบ้านยางเปาซึ่งโรงเรียนดังกล่าวนั้นเป็นโรงเรียนขยายโอกาสมีเด็กนักเรียนเป็นจำนวนมากที่มาเรียนโรงเรียนแห่งนี้ด้วยทางโรงเรียนนั้นมีการเปิดการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลไปจนถึงระดับมัธยมต้นซึ่งเด็กทุกคนที่มาโรงเรียนขยายโอกาสแห่งนี้นั้นต่างก็มีฐานะยากจนและขาดโอกาสในการที่จะเรียนในโรงเรียนรัฐบาลดีๆ

    สำหรับเงินที่เป็นเงินงบประมาณสำหรับมาใช้จ่ายในการทำอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนชั้นอนุบาลและนักเรียนชั้นประถมทานนั้น

ก็เป็นเงินที่จัดสรรมาจากทางรัฐบาลโดยครูชัยยศเองที่สอนอยู่โรงเรียนดังกล่าวเห็นว่าเด็กนักเรียนมัธยมต้นก็ยากจนเช่นเดียวกันไม่มีเงินมาโรงเรียนและครูชัยยศเองก็ยังเห็นใจเด็กนักเรียนและผู้ปกครองจึงได้นำเงินบางส่วนแบ่งออกไปเพื่อให้เด็กได้ชั้นมัธยมต้นได้กินอาหารกลางวันด้วยและเรื่องนี้เองซึ่งเป็นที่มาของการจัดซื้ออาหารกลางวันโดยการใช้งบอย่างทุจริตซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปีพ.ศ 2562 แล้ว

    อย่างไรก็ตามเรื่องราวของคุณครูชัยยศถูกมาแชร์ในโลกออนไลน์เนื่องจากว่ามีลูกศิษย์เป็นจำนวนมากที่ได้รับความช่วยเหลือจากครูชัยยศได้มีการส่งคำร้องคัดค้านบทลงโทษที่มีการไล่ครูชัยยศออกจากโรงเรียนซึ่งปัจจุบันผู้ใช้ยศต้องออกมาหาเลี้ยงชีพตนเองด้วยการขายโรตี

ทำให้เด็กนักเรียนเป็นจำนวนมากต่างก็รู้สึกว่าครูชัยยศไม่ได้รับความเป็นธรรมยังถูกตราหน้าว่าเป็นคนทุจริตทั้งที่ครูชัยยศไม่ได้นำเงินไปเข้ากระเป๋าตัวเองแต่นำเงินทุกบาททุกสตางค์มาช่วยเหลือลูกศิษย์ 

    สำหรับเรื่องราวของครูชัยยศนั้นนับว่าเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับข้าราชการทุกคนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวว่าถ้าอยากอยู่ทำงานจนเกษียณอายุก็อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเงินทองหรืออย่าไปเซ็นเอกสารอะไรถ้าหากยังอ่านรายละเอียดไม่ชัดเจนเพราะไม่ว่าคุณจะทำดีมากแค่ไหนแต่ถ้าเกิดว่ามีลายเซ็นของคุณความดีที่สะสมมาก็ไม่สามารถปกป้องคุณได้

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    huaydee

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ | ปิดความเห็น บน ครูชัยยศเซ็นให้เด็กได้มีข้าวกลางวันกินฟรีแต่กลับถูกให้ออกราชการ 

ลูกจ้างจอมแสบ ขโมยเงินที่ร้านขายของ ได้เงินไปหลายแสน

 ที่ เชียงใหม่ มีเจ้าของร้าน ขาย ของชำ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้แชร์ คลิปวีดีโอ ของลูกจ้าง ที่จ้างงานให้มาช่วยขายของ แต่กลับถูกลูกน้องเป็นหญิงสาวอายุ 21 ปี

ขโมยเงิน รวมแล้ว น่าจะประมาณ 1 ล้านบาท โดยเจ้าของร้าน ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ได้เปิดร้านขายของแต่ไม่มีคน ช่วยดูแลร้าน และต้องการพนักงาน ช่วยขายของ ให้อยู่พอดี มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินมาที่ร้านอุ้มลูกมา บอกว่ามาของานทำ ไม่มีงาน และไม่มีเงินให้ลูก

ตนเห็นจึงสงสาร จึงรับมาเป็นพนักงานของร้าน โดยแรกๆที่รับเข้ามาทำงาน พิมพ์ชนก คนที่ขโมยเงิน ขยันมาก ทำดีมาตลอด ตอนก็ไว้ใจ ให้ดูแลบัญชีการเงินตรวจนับสต๊อคสินค้าทุกอย่าง โดยที่ไม่ต้องเข้ามาที่ร้าน ให้พิมพ์ชนกดูแลร้านเองเพียงคนเดียว

อาจจะเข้ามาเป็นบางวัน และทำการซื้อของเข้าร้านเพื่อจำหน่าย เจ้าของร้าน ยังพูดอีกว่า ที่มารู้ ว่า พิมพ์ชนก ขโมยเงินไปนั้น ก่อนหน้านี้ มีการตั้งข้อสงสัย สังเกตมาตลอดว่าที่ร้าน ทำไมถึงขาดทุน มาเรื่อยๆ

โดยปีแรกที่รับเข้ามาทำงาน ทางพิมพ์ชนกเองก็บอกว่าร้านขายไม่ค่อยดี ก็ยังพอเข้าใจได้เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่โควิดระบาดหนัก แต่ช่วง 2 ปีหลังนั้น ของที่ร้านก็ขายเหมือนเดิมปกติ และเหมือนจะขายดีกว่าเดิม เพราะมีการ แจ้งให้ซื้อรายการสินค้าเพิ่มมากขึ้น

แต่รายรับ ได้กำไรแค่วันละพันกว่าบาท ซึ่งมันเป็นไปได้ยากในเมื่อลูกค้าเข้าร้านทุกวัน ปกติ เธอและสามี จึงตัดสินใจ ติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม

จากที่มีอยู่แล้ว 4 จุดเพิ่มเป็น 8 จุด โดยที่ไม่แจ้งพนักงาน พิมพ์ชนกคนนี้ ตอนแรกก็ไม่ได้คิด ว่าพิมพ์ชนกจะเป็นคนขโมยเงินที่ร้านไป

ขโมยเงินแต่ละที่ วันหนึ่ง 3 ครั้งวิธีที่ท้องที่น้องพิมพ์ชนกทำนั้นแนบเนียนที่สุด โดยใช้จังหวะที่ลูกค้ามาชำระเงิน เพื่อเปิดเก๊ะ และนับเงินทอน แต่ไม่ปิดให้สนิทโดยล้อที่ลูกค้าเดินออกจากร้าน และทำเป็น นับเงินแบงค์พันบ้างแบงค์ 500 จากนั้น ก็เก็บใส่กระเป๋า ของ พิมพ์ชนก

ลูกจ้างคนนี้ เธอรู้สึกเสียใจมาก ที่รับและไว้ใจลูกจ้างคนนี้มาโดยตลอด ทุกวันนี้ที่ร้านอยู่ได้เห็นว่าขาดทุนเราก็ได้เอาบ้านไปรีไฟแนนซ์เพื่อนำทุนมาลงทุนเพิ่ม แต่กลับไม่ได้กำไร ขาดทุนลงทุกวันจนกิจการแทบจะเจ๊ง จนล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566

สามีของตนเอง จึงบอกให้ไปรีดูกล้องวงจรปิด ให้ดูในจุด เคาน์เตอร์ชำระเงิน เธอก็ได้ไปนั่ง เฝ้าลีย้อนดู ก็พบว่า พิมพ์ชนกลูกจ้างคนนี้ ขโมยเงินทุกวัน วันละหลายรอบ แต่ละรอบ ยอดเป็นหมื่น ที่เก็บใส่กระเป๋าไป ซึ่งเธอก็สงสัยตั้งแต่ช่วง ปีที่ 2 ว่าทำไมลูกจ้างคนนี้ ซื้อของออนไลน์บ่อย กินข้าวแต่ละมื้อ แพงกว่าค่าจ้างรายวันที่ได้รับ ทำตัวอู้ฟู่เงินเยอะ ตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจ

จนตอนนี้มารู้แล้วว่าเงินที่หาย ที่ขาดทุนไป เป็นเพราะพิมพ์ชนก ขโมยไปนี่เอง จากที่ดูกล้องวงจรปิด น้ำตาก็ไหลทุกครั้งที่เห็นลูกจ้างคนนี้ขโมยเงิน จึงได้ตัดสินใจไปแจ้งความ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้มา ที่ร้านเพื่อจับตัวลูกจ้างคนนี้ ไปดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มารอจับพนักงาน ลูกจ้างคนนี้ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2566 ซึ่งเจ้าตัวลูกจ้างก็มาทำงานตามปกติ และ ให้เจ้าหน้าที่จับกุมทันที เจ้าตัวเองก็สารภาพว่าได้นำเงิน จากที่ร้านไปจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจถามว่านำเงินไปทำอะไรตัวลูกจ้างก็แจ้งว่านำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว จึงนำตัว ไปฝากขัง ที่สถานีตำรวจและดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

สนับสนุนโดย    หวยดี

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ | ปิดความเห็น บน ลูกจ้างจอมแสบ ขโมยเงินที่ร้านขายของ ได้เงินไปหลายแสน

พลายศักดิ์สุรินทร์ช้างไทย โดนใช้งานหนักจนป่วย  ได้เวลากลับแผ่นดินไทย

          ทุกคนน่าจะทราบกันดีว่า พรายศักดิ์สุรินทร์เป็นช้างไทยที่ได้มีการส่งไปยังประเทศศรีลังกาและถูกใช้งานจนล้มป่วยและไม่ทำการรักษาดูแล 

จึงมีผู้ใจดี เสนอให้ทางสถานทูตไทยนั้นนำตัว พรายศักดิ์สุรินทร์   กลับมารักษาที่บ้านเกิด     ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2544     ประเทศไทยนั้นได้มีการน้อมเกล้าถวาย ช้างเพื่อเป็นพระราชทานแก่ประธานาธิบดี ณ  ประเทศศรีลังกา จำนวน 2 เชือก โดย 1 พรายศักดิ์สุรินทร์    ที่ถูกนำตัวกลับไทยมารักษาในครั้งนี้ 2 พลายศรีณรงค์ ซึ่งตัวนี้ถูกนำตัวหนีหลบหายไปยังไม่ทราบโชคชะตา

ว่า อยู่ดีหรือล้มป่วย แต่เท่าที่ทราบคือพรายศักดิ์สุรินทร์นั้น อาการค่อนข้างแย่ จึง นำตัวกลับไทยเพื่อมารักษาโดยสัตย์แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษา ซึ่งเท่าที่ทราบนั้นทางควาญช้างหรือวัดที่พรายสักสุรินทร์นั้น ได้อยู่อาศัยใช้งานหนัก

ใช้ในขบวนแห่พระธาตุเขียว แก้ว เป็นประจำทุกวัน เป็นพิธีทางศาสนาของทางประเทศศรีลังกา      แต่คิดว่าน่าจะเป็นการใช้งานที่หนัก

และใช้สู้ล่ามตัวพลายศักดิ์สุรินทร์ไว้ตลอดทั้งขาหน้าและหลังเช้ามีบาดแผลดวงตาก็เหมือนจะมองพร่ามัว อาการเบื้องต้นเท่าที่ทราบคาดว่าน่าจะโดน ควานช้างนำตะขอตีถูกปลายตา ทำให้ตาพร่ามัว เกิดการมองไม่เห็น

โดยเบื้องต้นทางจังหวัดสุรินทร์ได้ส่งตัวของนายตะวันมะลิงามและนายทองสุขมะลิงามซึ่งเป็นความช้างของทางจังหวัดสุรินทร์ ที่ได้มีความเชี่ยวชาญในการดูแลรักษาอาการช้างทั้งหมดและสามารถแก้ปัญหาต่างๆได้ จึงได้ทราบว่าอาการของพลายศักดิ์สุรินทร์นั้น อาการค่อนข้างแย่   

  จึงแจ้งกลับทางประเทศศรีลังกาว่าขอนำตัวพลายศักดิ์สุรินทร์นั้นกลับไปรักษาที่ประเทศไทย

เนื่องจากมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอยู่ที่ประเทศไทย พร้อมที่จะดูแลรักษาในครั้งนี้ และเบื้องต้นหลังจากที่ความช้างทั้งสองคนไปถึงนั้นก็ได้มีการดูแลรักษาพรายศักดิ์สุรินทร์แล้วเบื้องต้น และกำลังประสานงานที่จะนำตัวช้างพลายสุรินทร์นั้นกลับเมืองไทย 

            แต่หลังจากที่ได้นำเรื่องราวของพลายศักดิ์สุรินทร์นั้น เผยแพร่ออกไปทำให้คนไทยนั้นได้หันมาสนใจกันเลี้ยงช้างหรือเป็นสัตว์ประจำประเทศไทย ให้สนใจมากยิ่งขึ้น และก็เป็นที่ดีใจทางประเทศศรีลังกา อนุญาตให้นำพรายศักดิ์สุรินทร์นั้น กลับประเทศไทย

แต่โดยดี โดยที่ไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น ทานชาวจังหวัดสุรินทร์หลังทราบว่าทางช้างพลายศักดิ์สุรินทร์จะได้กลับประเทศไทย ทุกคนก็ต่างพาดีใจรอคอยวันที่พลายจักสุรินทร์นั้นจะมาถึงประเทศไทยอีกครั้ง  หลังจากที่ถูกนำตัวไปประเทศศรีลังกามากกว่า 20 ปี ให้กลับมารักษาตัว และทางคนไทยทุกคนก็ภาวนาให้การเดินทางของทางพรายศักดิ์สุรินทร์นั้นเดินทางถึงประเทศไทยอย่างปลอดภัย

 

สนับสนุนโดย    หวยดี

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ | ปิดความเห็น บน พลายศักดิ์สุรินทร์ช้างไทย โดนใช้งานหนักจนป่วย  ได้เวลากลับแผ่นดินไทย

ญาติ 5 ชีวิต ร้องเรียนไปยังโหนกระแสแจ้ง หายตัวออกจากบ้าน นาน 2 เดือนกว่า 

          เหตุเกิดขึ้นที่ จังหวัดนคร ศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2566 ได้มีญาติพี่น้องของ ทั้ง 5 ชีวิตได้ออกไปแจ้งความ

และได้ร้องมายังเหตุผลกระแส ให้ตามหาญาติทั้ง 5 คนว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะว่าทั้ง 5 คนนั้นได้หายไปตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2566 และไม่สามารถติดต่อได้ จนล่าสุดทางเพจโหนกระแส ได้เชิญ ญาติพี่น้องโดยมีพี่สาวของคุณอุษา หนึ่งในบุคคลที่หายตัวไป ได้มาให้ข้อมูล ประมาณว่า ทางครอบครัว

คุณอุษานั้นมีลูกสาวอยู่ 2 คน โดย บุตรสาวนั้นมีชื่อว่าบีมและฟ้าใส โดยทั้งคู่นั้นเป็นลูกของนางอุษาที่หายตัวไปด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ที่จะหายตัวไปนั้นทั้งหมดก็ เห็นอยู่ที่บ้าน ใช้ชีวิตปกติ จนมีชายคนหนึ่ง ได้เข้ามา จีบน้องบีมลูกสาวของคุณอุษา น่าจะคบหาดูใจกัน

และได้พาคนที่ชื่อนายแบงค์ เข้ามาแนะนำตัวกับทางครอบครัวให้รู้จัก และนายแบงค์คนนี้ แสดงกิริยาท่าทางและอวดร่ำอวดรวยผิดปกติ จนญาติพี่น้องรอบข้างนั้นสังเกตเห็นความผิดปกติ แต่ได้มีการกล่าวตักเตือนทางนางอุษาแล้ว

แต่กลับได้รับการปฏิเสธ ว่า ในแบงค์คนนี้ไม่น่าจะมาหลอกครอบครัวตนเพราะยังไงเขาก็จะมาเป็นลูกเขยของตัวอุตสาห์เอง จนวันที่ 22 เมษายน 2566 นั้นนายแบงค์ได้จ้างคนขับรถตู้ให้มารับบุคคลทั้ง 5 โดยไปเที่ยวและเงียบหายไปไร้การติดต่อกลับมาหาญาติพี่น้อง

โดยกล้องวงจรปิดที่อยู่ที่บ้านของนางอุษานั้น จากที่จับภาพได้ช่วงแรกๆที่ไปมาหากันที่บ้านนั้นถูกนายแบงค์สั่งให้ 

ตัดสัญญาณกล้องวงจรปิดเพราะมันจะกระทบกับงานที่ทำอยู่ ทางนางอุษาเองนั้นก็ยินยอมที่จะตัดสัญญาณจากกล้องวงจรปิด ทำให้ไม่ได้ มีหลักฐานในการค้นหาในครั้งนี้ บุคคลที่หายไปนั้น มีชื่อว่าอุษา บีม ฟ้าใส ฟอร์ด และรุ้ง ทั้งหมดนี้ได้หายตัวไปกับนายแบงค์ 

โดยไม่ติดต่อกลับหาญาติพี่น้องเลย พยายามติดต่อก็ไม่สามารถที่จะติดต่อได้ทำให้ครอบครัวเป็นห่วง กลัวว่าจะเกิดอันตรายหรือว่าไม่มีชีวิตอยู่แล้วจึงออกตามหา และแจ้งความไว้ ในกรณีคนหาย เผื่อมีใครพบเห็นสามารถแจ้งกับทางครอบครัวและทางสถานีตำรวจได้ ทางญาตินั้นเกิดความเป็นห่วง เนื่องจากไปกับบุคคลที่รู้จักกันได้ไม่นาน

โดยบุคคลคนนั้นที่อ้างตัวว่าจะมาเป็นลูกเขยของนางอุษา แต่ยังไม่รู้ประวัติส่วนตัวของนายแบงค์คนนี้เลย แม้กระทั่งที่อยู่ปัจจุบันและหน้าที่การงาน ไม่ได้มีข้อมูลในส่วนนี้เลยจึงให้ตามตัว ในครั้งนี้ยากจึงต้องงอนสื่อเป็นส่วนช่วยเหลือ ในครั้งนี้

 

สนับสนุนโดย    หวยดี.com

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ | ปิดความเห็น บน ญาติ 5 ชีวิต ร้องเรียนไปยังโหนกระแสแจ้ง หายตัวออกจากบ้าน นาน 2 เดือนกว่า 

สาเหตุที่ นมพาสเจอร์ไรส์ขาดตลาด 

ในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ 2566  เป็นช่วงที่หลายคนกำลังเริ่มรู้สึกว่าหาซื้อนมสดพาสเจอร์ไรส์กินยากซึ่งได้มีการออกมาพูดถึงผ่านทางโซเชียลมีเดียกันเลยทีเดียว

โดยระบุว่านมพาสเจอร์ไรส์กำลังขาดแคลนและมีหลายคนได้รับผลกระทบโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกร้านกาแฟต่างๆที่ต้องใช้นมพาสเจอร์ไรส์เป็นส่วนประกอบในการผลิตกาแฟขาย 

อย่างไรก็ตามหลังจากที่คนบนโลกออนไลน์กำลังมีการพูดถึงการขาดแคลนของนมพาสเจอร์ไรส์อยู่นั้นทางด้านเพจของ CP Magic Thailand ก็ได้ออกมาพูดถึงกรณีดังกล่าวโดยให้เหตุผลว่าในขณะนี้นมดิบซึ่งเป็นวัตถุดิบในการที่จะนำมาผลิตนมพาสเจอร์ไรส์นั้นกำลังขาดแคลนสาเหตุนั่นก็เพราะว่าฟาร์มโคนมต่างๆไม่ได้มีการรีดนมมาขายเพราะอยู่ในช่วงของการพักรีดนมนั่นเอง 

อย่างไรก็ตามแต่ภายหลังจากที่ทางด้านเพจ CP Magic Thailand ได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุของการขาดแคลนนมพาสเจอร์ไรส์แบรนด์ยี่ห้อ Magic นั้นก็ได้มีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งระบุว่าตนเองนั้นประกอบอาชีพทำฟาร์มโคนมอยู่ที่จังหวัดสระบุรี

และต้องการที่จะมาพูดถึงสาเหตุของการขาดแคลนนมพาสเจอร์ไรส์จริงๆว่าสาเหตุไม่ได้เป็นไปตามที่ทาง CP Magic Thailand ได้ออกมาโพสต์ซึ่งตัวเขาเองนั้นได้มีการทำฟาร์มโคนมและนมยังคงมีอยู่ที่ฟาร์มที่สำคัญฟาร์มโคนมไม่ได้มีการพักรีดนมวัว

แต่สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้น้ำนมสดขาดแคลนจนไม่มีส่งให้กับบริษัทผลิตนมพาสเจอร์ไรส์นั่นก็เพราะว่าปัจจุบันมีแค่ฟาร์มโคนมขนาดใหญ่เท่านั้น

ที่ยังคงมีการผลิตนมวัวขายแต่สำหรับความขนาดเล็กหรือความขนาดย่อยนั้นต่างก็พากันติดกิจการปิดตัวลงเนื่องจากว่าไม่สามารถที่จะคนแบกรับค่าใช้จ่ายเอาไว้ได้

เพราะปัจจุบันนั้นต้นทุนในการทำฟาร์มวัวค่อนข้างสูงมากเพราะราคาอาหารสัตว์ที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะเดียวกันราคาน้ำนมหน้าฟาร์มนั้นก็ไม่สามารถที่จะปรับเพิ่มราคาได้ทำให้เจ้าของฟาร์มส่วนใหญ่ต้องแบบกระตุ้นทุนทั้งที่ยังขายน้ำนมได้ในราคาเดิมเมื่อไม่สามารถที่จะทนแบกรับต้นทุนที่แพงต่อเนื่องได้

ผู้ที่เป็นเจ้าของฟาร์มขนาดเล็กจึงได้ตัดสินใจเลิกกิจการส่งผลทำให้น้ำนมสดซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตนมพาสเจอร์ไรส์นั้นขาดแคลนนั่นเอง

อย่างไรก็ตามล่าสุดปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้วปัจจุบัน นมพาสเจอร์ไรส์นั้นมีขายตามท้องตลาดที่เราสามารถหาซื้อได้ตามปกติและไม่มีการขาดแคลนน้องพาสเจอร์ไรส์แล้วแต่สำหรับปัญหาเรื่องของอาหารสัตว์ที่มีราคาแพงนั้นยังคงมีปัญหาอยู่ซึ่งนี้ยังคงต้องรอการแก้ไขจากทางรัฐบาลอย่างเร่งด่วนเช่นกัน 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    หวยดี.com

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ | ปิดความเห็น บน สาเหตุที่ นมพาสเจอร์ไรส์ขาดตลาด 

คำเตือน  ซื้อสินค้าเซลล์อย่าแกะป้ายดูราคา  เพราะอาจจะปวดใจโดยไม่รู้ตัว 

เชื่อว่าหลายคนคงชื่นชอบเกี่ยวกับการช้อปปิ้งและสิ่งที่ต้อตาล่อใจของน้องชับได้ดีที่สุดก็คือในช่วงที่สินค้ามีการเซลล์ลดราคา 

ซึ่งกิจกรรมการเซลล์นี้มักจะสามารถดึงดูดลูกค้าให้ไปซื้อสินค้าได้ดีอยู่เสมอเพราะใครๆเองก็ชอบซื้อสินค้าราคาถูกและยิ่งถ้าหากว่าเป็นสินค้าแบรนด์เนมซึ่งโดยปกติราคาหลากหลายพันบาทแล้วมีการ sale เพราะสินค้านั้นอาจจะหมดช่วงฤดูกาลหรือเป็นสินค้าที่ตกรุ่นแล้วก็ตาม

แต่ถ้าหากว่าเป็นสินค้าจากแบรนด์ดัง นักช้อปทั้งหลายก็นิยมที่จะไปช้อปปิ้งกันเพราะมันทำให้สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาประหยัดนั่นเอง

อย่างไรก็ตามมีกฎเหล็กอยู่กด 1 สำหรับนักช้อปปิ้งที่ชอบ Shopping สินค้าราคาเซลล์นั่นก็คือเมื่อคุณซื้อสินค้าที่มีการลดราคาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่าพยายามจะไปสืบหาหรือค้นคว้าราคาของสินค้าก่อนหน้านี้ว่ามีการติดป้ายราคาหรือมีการขายเอาไว้ในราคาเท่าไหร่

เพราะหลายครั้งที่นักช้อปปิ้งต้องการที่จะมีการสืบหาราคาก่อนหน้าที่จะถูกนำมาเซลล์ปรากฏว่าเมื่อเปิดดูป้ายหรือไปค้นหาข้อมูลเจอบางคนก็จะรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก

เนื่องจากว่าราคาสินค้าที่เราคิดว่าเราซื้อได้ในราคาที่ถูกแล้ว เราอาจจะได้พบความจริงว่าสินค้าที่เราซื้อมาไม่ได้ถูกจริงอย่างที่เราคิดไปเองอย่างเช่นกรณีของนักสาวรายหนึ่งได้มีการโพสต์เรื่องราวของตนเองไว้ใน tiktok

โดยมีการระบุว่าตนเองนั้นชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนมดังและมักจะนิยมการซื้อสินค้าที่มีการเซลล์ซึ่งเธอได้ซื้อกางเกงมาตัวนึงในราคาเพียง 590 บาทเท่านั้น

โดยหลังจากที่ซื้อกางเกงมาถึงบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้วเธอก็มีความต้องการอยากรู้ว่าราคาที่แท้จริงของกางเกงตัวนั้นคือเท่าไหร่ดังนั้นเธอจึงได้พยายามแกะสติ๊กเกอร์ป้ายราคาเซลล์ออกพบกับป้ายกางเกงที่ถูกระบุว่าเป็นราคาเต็มนั่นก็คือ 790 บาท

แต่สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นว่าภายใต้สติกเกอร์ 750 บาทนั้นยังมีอีกราคาหนึ่งอยู่ดังนั้นเธอจึงได้พยายามแกะป้ายชั้นที่ราคา 790 บาทออกไปแล้วก็ต้องพบความจริงที่น่าตรวจใจว่าแท้ที่จริงแล้วราคากางเกงที่เธอได้ sale มานั้นก็มีการขายเริ่มต้นไว้ที่ 590 บาทซึ่งเธอนั้นไม่ได้ซื้อกางเกงมาในราคาถูกหรือว่าในราคา sale เลย 

อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องราวดังกล่าวนั้นเป็นการแสดงให้เห็นว่าร้านค้าที่มีการนำสินค้าออกมาขายในราคาเซลล์นั้นแท้ที่จริงแล้วได้มีการปรับราคาให้ราคาสูงขึ้นกว่าราคาปกติ 

หลังจากนั้นทิ้งช่วงซักระยะหนึ่งหรือถ้าหากสินค้าขายไม่ออกก็สามารถที่จะนำสินค้านั้นมาทำโปรโมชั่นให้กับร้านด้วยการประกาศลดราคาหรือขายสินค้าในราคา sale ซึ่งหลายคนนั้นคงจะคิดว่าตนเองนั้นโชคดีที่ได้ซื้อสินค้าราคาถูกแต่ในความเป็นจริงแล้วทางร้านนั้นไม่ได้เซลล์สินค้าแต่อย่างใด 

 

สนับสนุนโดย    Huaylike

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ | ปิดความเห็น บน คำเตือน  ซื้อสินค้าเซลล์อย่าแกะป้ายดูราคา  เพราะอาจจะปวดใจโดยไม่รู้ตัว 

แฟนหนุ่มง้อคืนดีแฟนสาว แต่กลับโดนปฎิเสธ ใช้มีดแทงเกือบ 15 จุด ดับคาที่

 เหตุเกิด ที่จังหวัดปราจีนบุรี มีชายหญิงคู่หนึ่ง กำลัง ง้อคืนดีกัน เนื่องจากฝ่ายชาย ถูกบอกเลิกจากฝ่ายหญิง และฝ่ายหญิงตีตัวออกห่างออกมา เช่าหอพัก จนฝ่ายชายหาจนเจอว่าอยู่ห้องไหน และตามรอยสืบมาตลอดทุกวัน

สุดท้ายฝ่ายชายมาเจอฝ่ายหญิงที่หอพักแห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี หลังจากที่ได้ แอบส่องดูทุกวัน

ว่าฝ่ายหญิงพักอยู่ที่นี่แล้วจริง จึงได้โผล่ปรากฏตัวให้ฝ่ายหญิงเห็นและพยายามขอคืนดี ซึ่งก่อนหน้านี้เกิดเหตุทะเลาะกันถึงขั้นบอกเลิกทำให้ฝ่ายชายยังทำใจไม่ได้เพราะยังรักฝ่ายหญิงอยู่ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ช่วงเวลาประมาณเกือบ 20:00 น

ของวันนั้น ฝ่ายชาย ชื่อว่านายธนกร อายุ 24 ปีส่วนผู้ตาย ชื่อนางสาวณัฐณัญณาภรณ์ อายุเพียง 22 ปี ได้เสียชีวิตลง ที่หอพักแห่งหนึ่ง บริเวณหน้าหอพักพื้นที่จอดรถจักรยานยนต์

ชื่อว่าหอพักเจริญศิลป์ ม.4 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี หลังจากที่ฝ่ายชายได้มาพบฝ่ายหญิง มีการพูดคุยกันก่อนที่จะลงมือ เป็นคำกล่าวจาก รปภ. ของหอพักที่เห็นเหตุการณ์แต่ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือไว้ได้ก่อนหน้านี้เพราะผู้ต้องหาทำ ร้ายผู้หญิง

โดยเวลา ค่อนข้างรวดเร็ว และฝ่ายหญิงก็เสียชีวิตลงจากที่ เห็นเหตุการณ์และเห็นทางฝ่ายชายได้ลงมือ ใช้มีดแทงที่ลำคอของชายหญิงรีบดำเนินการโทรแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัย เพื่อให้เข้ามายังพื้นที่เกิดเหตุให้ทำการช่วยเหลือฝ่ายหญิงเบื้องต้น

หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งข่าวก็รีบมายัง ณ จุดเกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงทำการตรวจสอบผู้ เสียชีวิต ผู้เสียชีวิตนั้น

มีบาดแผลถูกแทงที่ลำคอมากกว่า 15 แผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจาก เลือดไหลออกมาค่อนข้างเยอะ คงจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวกับความเจ็บปวด เพราะฝ่ายชายได้ใช้มีดพับ ที่ติดตัวมาด้วย แทงเข้า ที่ตัวผู้เสียชีวิต หลายครั้ง

จากการสอบสวนพยาน ใกล้เคียงเจ้าหน้าที่ รปภ แจ้งว่าทางผู้ ก่อเหตุ วนเวียนอยู่ที่หอพักนี้อยู่ 2-3 วันแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เราไม่ทราบสาเหตุของทั้งคู่ คิดว่าเป็นการทะเลาะกันฉันสามีภรรยาตามทั่วไป ทางเจ้าของหอพักก็แจ้งเพิ่มเติมว่าฝ่ายหญิงเพิ่งจะย้ายเข้ามาพักอาศัยอยู่หอนี้ได้เพียง 2 วัน

คงจะเป็นหลังจากที่บอกเลิกกับฝ่ายชายจึงได้มาพักอาศัยหลบซ่อนอยู่ที่นี่ แต่สุดท้ายน้องฝ่ายหญิงก็เสียชีวิตเพราะฝีมือของคนรัก ทางเจ้าหน้าที่ประจำตำรวจ ก็ได้จับกุมต้องหาไว้ ได้ ณ ที่เกิดเหตุเพราะผู้ต้องหาไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใดพร้อมอาวุธมีดที่ใช้ลงมือฆ่าแฟนสาว

อยู่ในอาการเครียดและร้องไห้รู้สึกผิดที่ได้กระทำลงไป และ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ประสานงานแจ้งทางครอบครัวฝ่ายหญิง ให้นำตัว ไปชันสูตรศพ แล้วค่อยนำไปทำพิธีตามศาสนาต่อไป ทางผู้ต้องหา จะถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจ คุมตัว สอบสวนรายละเอียดเพิ่มเติมเบื้องต้นน่าจะถูกข้อหาค่าผู้อื่นโดยเจตนาและพบอาวุธ ในพื้นที่สาธารณะเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน แฟนหนุ่มง้อคืนดีแฟนสาว แต่กลับโดนปฎิเสธ ใช้มีดแทงเกือบ 15 จุด ดับคาที่

สาวโดดตึกหนีตาย โดนแฟนทารุณอาการสาหัส

 นางสาวเอ นามสมมุติอายุ 27 ปีได้อยู่กินกับสามี ชื่อนายบี นามสมมุติอายุ 33 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้รู้จักกับสามี เพียงแค่ 9 วัน

และถูกขอแต่งงาน เธอก็ตัดสินใจที่ตกลงแต่งงานอยู่กินกันแบบครอบครัว  มาเป็นเวลาปีกว่า หลังจากนั้น ทางสามีก็ได้เปิดเผยพฤติกรรม อันเลวร้าย ชอบเสพยาเสพติด และคุ้มคลั่งควบคุมสติอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หรือทุกครั้งที่มีอาการอยากยาเสพติดก็จะทำลายข้าวของแม้กระทั่งทำร้ายนางสาวเอง

ด้วยพฤติกรรมต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอก็ถูกทำร้ายอยู่บ่อยครั้งโดนแม้กระทั่ง กระแสไฟจาก  ที่ช็อตปลา  ทุกครั้งเริ่มอยู่กันอย่างไม่มีความสุข

เพราะธาตุของยาเสพติด หลังจากที่เริ่มมีการทะเลาะ กันมา เรื่อยๆ ทางนางสาวเอ ก็ได้ ขอเลิกกับทางสามี แต่ทางสามีไม่ยอมที่จะเลิก และยังพูดว่าหากเลิกหรือหนีไปจะ ฆ่าทิ้งเป็นคำขู่ที่เธอเองนั้นก็กลัว นึกถึงคำที่แม่เตือนตั้งแต่ตอนที่ตัดสินใจแต่งงาน จนตอนนี้ คิดได้แล้ว

ซึ่งล่าสุด เธอเอง ได้พักอาศัยอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งย่านสมุทรปราการ ได้พักอาศัยอยู่กับสามี อยู่อาศัยอยู่ชั้น 4 ของที่พัก แถว ต.บางปลา อ.บางพลี

ซึ่งเธอเล่าว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2566 ช่วงเวลาประมาณเกือบ 6 โมงเย็น เธอได้ทะเลาะกับสามีครั้งใหญ่จึงเป็นเหตุให้เธอรอดออกมาครั้งนี้ได้ ซึ่งก่อน หน้านี้เธอถูกสามีขังให้อยู่ในห้องพักเพียงลำพังและตัวสามีเองได้ออกไปข้างนอก

แต่ครั้งนี้ สามีได้เสพยาเสพติดเกิดอาการคลุ้มคลั่งควบคุมตัวเองไม่ได้ ได้นำขวดเบียร์ ยัดเข้าไปที่อวัยวะเพศของตนเอง และยังตกกระแทกจนเธอนั้นเจ็บช้ำ จุกไปทั้งร่างกาย แถมมิหนำซ้ำยังนำขวดเบียร์ที่ยัดเข้าไปในอวัยวะเพศของเธอนั้น ดึงออกมา ตีเข้าที่หัวของเธออีก

จนหัวของเธอนั้นแตกมีเลือดไหลลงบนใบหน้าแต่ตัวสามีกลับไม่สงสารหรือใยดีกับเธอเลย ยังจะไปต้มน้ำให้เดือดในห้องครัว และพูดว่า จะนำมาราดบนตัวของนางสาวเอ้ซึ่งนางสาวเอ คิดว่า ผู้เป็นสามีไม่น่าจะทำตนเองได้ลงคอ

แต่ไม่เลย ทางตัวสามี ได้นำน้ำร้อนที่เดือดพลุกพล่านมาเทราดบนตัวเธอ จากนั้น ตัวสามีเองก็ได้เดินออกจากห้องไป โดยที่ล็อคประตูจากข้างนอก ทำให้เธอนั้น หนีออกไม่ได้ เธอจึงขึ้นใจขึ้นมา โดดหนีลงป่าข้างหอพักเพื่อไปขอความช่วยเหลือ จากคนใกล้เคียง

โดยที่แรกเธอได้เป็นถ้ำรั้วไปที่แคมป์คนงานให้ช่วยเหลือแต่กลับถูกปฏิเสธเธอจึงไม่ย่อท้อ จึงได้ว่ายน้ำข้ามคลองไปที่ร้านตรวจสุขภาพรถเพื่อขอความช่วยเหลือ พอไปถึงทางที่ร้านก็พร้อมที่จะช่วยเหลือติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือเธอ เบื้องต้นจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาถึงก็พบว่าลำตัวเธอนั้น

แดงกรรมและ ถูก พ่อด้วยสำลีชุบน้ำเพราะร่างกายเธอโดนน้ำร้อนราดไปทั้งเดือนร่างเบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึง ประถมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเพื่อนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลให้ตรวจสอบร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนผู้ต้องหา คือสามี ของเธอนั้นเธอบอกว่าจะไม่กลับไปคืนดี

และจะกลับไปอยู่กับแม่ที่จังหวัดอุบลราชธานี จะดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุดเธอก็วอนให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมสามีมาดำเนินการ ให้ถึงที่สุด ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาทำให้เสียโฉม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรับเรื่องไว้และจะทำการสืบค้นหาผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ufabet

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน สาวโดดตึกหนีตาย โดนแฟนทารุณอาการสาหัส

หนุ่มซ่อนเงินครึ่งล้านใต้ที่นอน ไฟไหม้บ้านแม้แต่ซากเงินก็ไม่เห็น

         Sinchew เว็บไซต์ชื่อดังของประเทศจีนได้มีการออกมาเปิดเผยเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองหางโจวมณฑลเจ้อเจียงเมื่อวันที่ 16 เดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2565 

สำหรับเรื่องราวของชายหนุ่มชาวจีนรายนี้ถูกระบุว่าเขาต้องสูญเสียทรัพย์สินเป็นเงินจำนวนกว่าครึ่งล้านเนื่องจากว่าเขาได้นำเงินสดไปเก็บซุกซ่อนไว้ใต้ที่นอนแล้วอยู่ดีๆก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อไฟเกิดไหม้บ้านที่เขาอาศัยอยู่ทำให้ทรัพย์สินของเขาเสียหายทั้งหมดรวมถึงเงินที่เขานำไปซ่อนเอาด้วยเช่นกัน 

        จากการรายงานข่าวระบุว่าชายหนุ่มรายนี้อายุเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้นเขาอาศัยอยู่ในห้องเช่าซึ่งมีขนาดประมาณ 10 ตารางเมตรอย่างไรก็ตามเงินเก็บทุกบาททุกสตางค์ที่เขามีอยู่เขาไม่เคยนำไปฝากธนาคารเลยเนื่องจากเขามีความเชื่อว่าธนาคารไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยที่จะเก็บเงินสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับชายหนุ่มรายนี้ก็คือการเก็บเงินไว้ใกล้ตัวและจุดที่เขาจะนำเงินไปซ่อนก็คือบริเวณใต้ที่นอน

เนื่องจากว่าความคุ้นชินตั้งแต่เด็กทุกครั้งที่ได้เงินมาจากผู้ปกครองเขาจะ นำเงินหรือซองแดงมาเก็บไว้ใต้ที่นอนดังนั้นเขาจึงทำแบบนี้เรื่อยมาจนปัจจุบันเขามีเงินมากกว่า 100000 หยวนแต่ก็ยังคงเก็บเอาไว้ใต้ที่นอนเหมือนเดิม 

          อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2565 ใช่หนุ่มรายนี้ได้ออกไปทำธุระด้านนอกปรากฏว่าระหว่างที่อยู่นอกบ้านนั้น

เพื่อนบ้านได้ส่งข้อความมาแจ้งว่าบ้านของเขาเกิดไฟไหม้เมื่อเขาเดินทางกลับมาถึงก็พบว่ามีหน่วยดับเพลิงกำลังช่วยกันดับไฟแต่สภาพบ้านโดยรวมของเขานั้นได้รับความเสียหายถูกเผาวอดเหลือแต่ซากและเมื่อไปดูบริเวณที่นอนก็พบว่าที่นอนนั้นไม่จนไม่เห็นซากของเงินจำนวน แสนกว่าหยวนที่ซ่อนเอาไว้เลย  

          อย่างไรก็ตามชายหนุ่มรายนี้ไม่มีหลักฐานว่าตนเองเก็บเงินไว้ใต้ที่นอนจำนวนหนึ่งแสน หยวนอย่างที่กล่าวอ้างหรือไม่เพราะเขาไม่มีทั้งรูปถ่ายและยังไม่มีร่องรอยของเงินสดที่ถูกเผาไหม้ให้เห็นอีกด้วยซึ่งทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ได้ให้ข้อมูลว่ากระดาษนับเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีเมื่อมีการถูกไฟไหม้จึงถูกเผาได้อย่างรวดเร็วและถ้าหากว่าถูกฉีดน้ำเข้าไปแม้แต่ฝุ่นเศษผงของกระดาษก็จะปลิวหายไปด้วยทำให้ไม่เหลือหลักฐานใดๆเอาไว้ยืนยันให้เห็นอย่างแน่นอน 

          สำหรับเรื่องราวของชายหนุ่มชาวจีนรายนี้สามารถเป็นอุทาหรณ์ให้ใครก็ตามที่คิดอยากจะเก็บเงินไว้กับตัวทั้งหมดให้ตัดสินใจใหม่แบ่งแยกเก็บไว้กับตัวสักครึ่งหนึ่งและนำไปฝากธนาคารครึ่งหนึ่งเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินของเราเอง 

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน หนุ่มซ่อนเงินครึ่งล้านใต้ที่นอน ไฟไหม้บ้านแม้แต่ซากเงินก็ไม่เห็น