ฆ่าเปลือยสาว tiktok เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัว

               ที่ประเทศอินโดนีเซียเกิดเหตุคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นโดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เดือนมกราคมปีพศ 2564  ตามรายงานข่าวระบุว่าผู้ที่เสียชีวิตนั้นเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 23 ปีเธอมีชื่อว่า ดวี  ฟาริกา เลสทาริ  เธอเป็นหญิงสาวที่รูปร่างหน้าตาดี   ที่สำคัญเธอเป็นคนที่อยู่ในวงการ Social Media เนื่องจากว่าเธอนั้นเป็นดาวของติ๊กต๊อกเลยก็ว่าได้  

           โดยปกติแล้ว  ดวี  ฟาริกา เลสทาริ มักมีการโพสต์ข้อความลงติ๊กต๊อกอยู่เสมอซึ่งส่วนใหญ่นั้นเธอจะโพสต์เกี่ยวกับการเต้นลงไป  สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ผู้ที่ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มายังจุดเกิดเหตุนั้นคือเพื่อนสาวของเธอเองซึ่งพักอยู่ที่โฮมสเตย์เดียวกันก็หญิงสาวคนดังกล่าวได้ว่าเธอได้ยินเสียงเพื่อนของเธอร้องออกมาจากห้องพักแต่เมื่อเธอพยายามติดต่อโทรเข้าไปภายในห้องก็ไม่สามารถติดต่อผู้ตายได้ทั้งที่ก่อนหน้าที่จะได้ยินเสียงร้องของเพื่อนนั้นพวกเธอยังลงมากินข้าวอยู่ด้วยกันซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 01:00 น.

           และเมื่อเพื่อนของเธอติดต่อ ดวี  ฟาริกา เลสทาริ ไม่ได้ก็ทำให้เกิดความร้อนไปจึงได้วิ่งไปเคาะเรียกอยู่ที่หน้าห้องของ ดวี  ฟาริกา เลสทาริ แต่ก็ไม่มีการตอบกลับมาดังนั้นเธอจึงได้พยายามแอบมองตามรูต่างๆเข้าไปในห้องพักจนในที่สุดก็เห็นว่าเธอพบว่าเพื่อนของเธอนั้นนอนอยู่บนพื้นโดยลักษณะของการมีเลือดอาบอยู่เต็มตัวดังนั้นเธอจึงได้โทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ

          อย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบข้อมูลพบว่าก่อนหน้าที่ดวี  ฟาริกา เลสทาริ จะเสียชีวิตนั้นมีชายผู้ต้องสงสัย ออกมาจากห้องของผู้ตายซึ่งมีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายกับชายคนดังกล่าวนั้นน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีอย่างไรก็ตามตามข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบว่าก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิตนั้นเธอเพิ่งโพสต์คลิปลงใน tiktok ก่อนที่เธอจะถูกพบว่าเสียชีวิตเพียงแค่ไม่นานเท่านั้นเอง           

              สำหรับผู้ตายนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบร่องรอยการถูกทำร้ายบริเวณลำคอและยังมีแผลอื่นๆตามร่างกายและในจุดเกิดเหตุนั้นยังพบมีดปากกาตกอยู่ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายและผู้ตายน่าจะมีความสัมพันธ์กันเป็นอย่างดีถึงสามารถเข้าไปในห้องพักของผู้ตายได้  และสภาพศพของผู้ตายยังอยู่ในลักษณะเปลือย ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเรียกตรวจสอบพยานหลักฐานและพยานบุคคลเพื่อที่จะได้สามารถจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษได้ เชื่อว่าไม่นานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะจับคนได้มาลงโทษได้อย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย.  สมัคร Gclub

เถียงกันสนั่นโซเชียลเกี่ยวกับการซื้อถังแก๊สใหม่ต้องจ่ายแพงแต่พอจะคืนกลับถูกกดราคา

          มีการถกเถียงกันในเพจดังเพจหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องของการซื้อถังแก๊สถังใหม่โดยมีคนนำมาโพสต์เกี่ยวกับการซื้อถังแก๊สใหม่นั้นว่าเขาต้องเสียเงินในการซื้อถังใหม่อยู่ที่ 2800 บาทในขณะที่เมื่อมีการใช้งานไปสักพักนึงจะขายถังแก๊สคืนให้กับร้านค้าปรากฏว่าถูกกดราคาเพราะขายร้านค้ารับซื้อคืนเพียงแค่หลังละ 1000 บาทเพียงเท่านั้นพวกเขามองว่าพวกเขากำลังถูกเอารัดเอาเปรียบเป็นอย่างมาก

        ในขณะที่มุมมองของร้านค้าที่รับซื้อถังแก๊สนั้นมองว่าทางใดที่ถูกนำมาขายให้กับร้านค้านั้นคือถังแก๊สเก่าที่มีการใช้งานแล้ว  ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถที่จะให้ราคาที่สูงกว่า 1000 บาทได้  โดยราคา 1000 บาทนี้เป็นราคาที่สามารถจ่ายได้สูงสุดเพราะโดยปกติแล้วร้านค้าที่รับซื้อถังแก๊สจะต้องตรวจสอบสภาพถังแก๊สก่อนว่ามีความเก่ามากน้อยแค่ไหนโดยจ่ายเงินให้ตามสภาพโดยรวมแล้วก็จะได้รับเงินคืนอยู่ที่ประมาณ 800-1000 บาทนั่นเอง

        อย่างไรก็ตามหลายคนกลับมองว่าเวลาที่เราซื้อถังแก๊สมาใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้วในขณะนั้นของแก๊สของเราคือถังแก๊สใหม่แต่เมื่อใช้งานแก๊สหมดแล้วแต่ก็มีการเปลี่ยนแก๊สถังใหม่ปรากฏว่าร้านค้าส่วนใหญ่ที่นำถังมาเปลี่ยนให้กับเรานั้นมักจะนำถังเก่าของร้านมาเปลี่ยนให้กลายเป็นว่าถังแก๊สของเราก็กลายเป็นถังต่อทันที

และนี่เองคือปัญหาที่ทำให้หลายคนมองว่าเป็นการถูกเอารัดเอาเปรียบนั่นเองเพราะร้านค้าที่นำแก๊สมาเปลี่ยนนั้นไม่ยอมเอาถังใหม่มาเปลี่ยนให้ดังนั้นถึงแม้ว่าจะมีการผ่านการใช้งานเพียงแค่ถังเดียวก็อาจจะทำให้เจ้าของถังแก๊สที่เพิ่งซื้อใหม่ได้ใช้ถังใบที่ 2 เป็นถังเก่าได้นั่นเองและเมื่อนำไปขายก็จะทำให้ราคาตกลงมา 

          อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในโลกออนไลน์ก็หลายคนก็มองตามสภาพของความเป็นจริงว่าเมื่อมีการซื้อถังแก๊สมาแล้วมีการใช้งานก็นับว่าเป็นถังแก๊สมือสองเปลี่ยนสภาพว่ามีการใช้งานแล้วและเก่าแล้วนั่นเองดังนั้นการที่จะให้คืนเงินทั้งหมด 2800 บาท

จึงไม่สามารถทำได้อยู่แล้วขอให้สังเกตที่ถูกนำมาขายนั้นจะไม่ใช่สภาพเก่ามากนักแต่เมื่อมีการใช้งานแล้วก็ถือว่าถังแก๊สนั้นมีการใช้งานและเสื่อมสภาพแล้วดังนั้นการคืนในราคาอยู่ที่ 1,000 บาทก็ยังถือว่าเหมาะสมและสามารถนำรับได้

        ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่าเกี่ยวกับเรื่องของการ ขายถังแก๊สคืนแล้วควรจะต้องคืนเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่นั้นคงไม่สามารถหาข้อยุติได้เพราะเนื่องจากการใช้งานถังแก๊สนั้นเป็นลักษณะของการใช้งานผังเวียนดังนั้นเราอาจจะเจอสภาพถังต่อและถังใหม่แตกต่างกันออกไป  แต่ถ้าหากใครไม่อยากที่จะถูกเอารัดเอาเปรียบอยากจะใช้ถังแก๊สใหม่ของตนเองตลอดก็สามารถใช้เป็นวิธีการนำถังแก๊สของตนเองไปเติมตามร้านแก๊สแทนได้

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บหลัก

เจ้าหนี้โพสต์ทวงเงินผ่าน facebook

เจ้าหนี้โพสต์ทวงเงินผ่าน facebook ไม่มีรูปภาพและไม่ได้ระบุชื่อลูกหนี้แต่ถูกตำรวจไลน์เรียกคุย 

        มีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการโพสต์ Facebook ผ่านทางเฟซส่วนตัวของตนเองโดยในเฟซนั้นเธอได้มีการนำข้อความของเธอซึ่งคุยกับชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตำแหน่งเป็นสารวัตรขอมาเคลียร์เกี่ยวกับเรื่องของที่หญิงสาวนั้น

ได้มีการโพสต์ข้อความลง Facebook จำนองเป็นการทวงหนี้ผ่านทางเฟสซึ่งสร้างความอับอายให้กับลูกหนี้และได้มีการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวจึงได้มีการทัก LINE มาหาเจ้าหนี้เพื่อที่จะเรียกตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ

       อย่างไรก็ตามข้อความที่เธอได้มีการแสดงให้ดูนั้นมีการระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวนั้นในขั้นแรกบอกให้เธอนั้นไปพบเพื่อทำการรับหมายเรียกแต่เมื่อเธอยืนยันที่จะไปพบและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยประสานงานลูกหนี้มาพบเธอด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกับบ่ายเบี่ยง

และยังอ้างกับเธอว่าถ้าเธอไม่มาจะออกหมายจับเธอซึ่งเธอนั้นก็ยืนยันว่าเธอจะไปโดยลูกแม่ต้องไปด้วยเพราะลูกหนี้นั้นติดเงินเธอถึง 5 แสนบาทแต่ไม่เคยที่จะนำเงินมาชดใช้เธอเลยอีกทั้งใน Facebook ส่วนตัวของลูกหนี้ก็ยังมีการอัพเดทวิถีชีวิตของตนเองใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยและเธอไม่เคยติดต่อลูกหนี้ได้เลยที่สำคัญข้อความที่เธอโพสต์ลงติดตามทวงหนี้นั้น

เธอไม่เคยเอ่ยชื่อถึงใครและไม่ได้เอ่ยพาดพิงไปถึงลูกหนี้คนดังกล่าวและแน่นอนว่าไม่มีรูปภาพใดๆที่จะสอนให้รู้เลยว่าลูกหนี้ที่เธอกำลังโทรอยู่นั้นเป็นใครแต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้ติดต่อมาเธอก็ต้องการพูดคุยกับลูกหนี้คนดังกล่าวเพื่อขอเงินห้าแสนบาท ของ เธอคืนซึ่งในข้อความ LINE ที่มีการคุยกันระหว่างเธอและเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นแสดงให้เห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นพวกเดียวกัน

กับลูกหนี้และหลายคนที่ได้อ่านข้อความในไลน์ต่างก็มองว่าชายหนุ่มคนดังกล่าวไม่น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงเพราะไม่มีความรู้ใดๆในการที่จะดำเนินคดีกับเจ้าหนี้เลยที่สำคัญการที่เจ้าหนี้พบข้อความไปแบบนั้นก็ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไรเพราะไม่ได้มีการอ้างถึงเลยว่าลูกหนี้ที่ใช้กำลังพูดถึงนั้นเป็นใคร

          สำหรับเรื่องราวในครั้งนี้ฝ่ายทั้งเจ้าหนี้สาวยืนยันว่าเธอจะดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุดในต้องต่อสู้กันในชั้นศาลก็ตามเพราะเงินจำนวนที่ลูกหนี้ของเธอยืมไปนั้นค่อนข้างสูงมากดังนั้นเธอต้องการที่จะได้เงินของเธอและครอบครัวของเธอคืน

         หากใครก็ตามที่ได้มีการติดตามข่าวนี้และอ่านข้อความใน LINE และค่อนข้างรู้สึกว่าข้อความที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเขียนถึงเจ้าหนี้นั้นเหมือนกับไม่ใช่เป็นตำรวจจริงซึ่งต้องรอดูการพิสูจน์ต่อไปว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ระบุชื่อและนามสกุลและลดตามที่มีการติดต่อมานั้นมีการสังกัดอยู่ที่สนไหนเป็นตำรวจจริงหรือไม่เพราะถ้าหากไม่ใช่ตำรวจจริงก็จะสามารถดำเนินคดีกับชายหนุ่มคนดังกล่าวที่แอบอ้างเป็นตํารวจได้เช่นเดียวกัน

 

สนับสนุนโดย  gclub ฟรีสปิน

ศาลพิพากษาแล้วคดีล่อซื้อกระทงติดลิขสิทธิ์ที่โคราชเมื่อปีที่แล้ว

         เชื่อว่าหลายคนคงยังจำเหตุการณ์ที่มีเด็กหญิงอายุ 15 ปีคนหนึ่งได้มีการประกาศทำกระทงขายใน Facebook ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงซึ่งหลังจากนั้นเธอได้ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมโดยมีชายหญิงคู่หนึ่งไปแจ้งความดำเนินคดีกับเธอด้วยข้อหาทำกระทงละเมิดลิขสิทธิ์

       ซึ่งในตอนนั้นมีการศึกษาเราเรื่องกันจนพบว่าชายหญิงดังกล่าวที่เป็นคนไปแจ้งความให้ตับเด็กหญิงอายุ 15 ปีนั้นได้เป็นคนติดต่อเด็กหญิงวัย 15 ปีให้ทำกระทงไปขายให้โดยสั่งในปริมาณที่ค่อนข้างสูงและยังกำหนดไว้ว่ากระทงที่ต้องการนั้นเป็นกระทงรูปการ์ตูนลายลิขสิทธิ์ หลังจากนั้นก็มีการโอนเงินค่ามัดจำให้กับหญิงสาววัย 15 ปีเร่งเงินเพียง 200 บาทเท่านั้นและเมื่อทำกระทงเสร็จเรียบร้อยมีการพับกระทงกันปรากฏว่าหญิงชายคู่นั้นได้มีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมเด็กวัย 15 ปี

        ในที่สุดก็นำมาซึ่งการสอบสวนเนื่องจากว่าเด็กหญิงวัย 15 ปียืนยันว่าชายหญิงที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับเธอนั้นเป็นคนสั่งให้เธอทำกระทงแบบผิดลิขสิทธิ์เอง   และเมื่อมีการขยายผลไปจึงพบว่าชายหญิงดังกล่าวนั้นทำเป็นขบวนการและทำมาหลายครั้งแล้วโดยหลอกลวงให้คนทำกระทงตัวการ์ตูนที่ติดลิขสิทธิ์หลังจากนั้นก็แจ้งความจับเพื่อต้องการได้เงิน   โดยทั้งคู่ได้เรียกร้องเงินจากผู้ปกครองของเด็กหญิงวัย 15 ปีเป็นจำนวน 5,000 บาทเพื่อไม่ต้องการให้เป็นคดีความ  และทั้งคู่ยืนยันว่าถ้าหากได้รับเงิน 5,000 บาทแล้วจะไม่ให้เด็กหญิงติดคุกอย่างแน่นอนจึงทำให้ผู้ปกครองของเด็กหญิงชำระเงิน 5,000 บาทให้

  จากนั้นทางด้านผู้ปกครองของเด็กหญิงจึงได้แจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีในข้อหาแอบอ้างเป็นตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์และข่มขู่เพื่อเอาเงินทองจากเด็กหญิงวัย 15 ปี ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา 

          อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้หญิงชายคู๋ดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีทัน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ผ่านมาได้ 1 ปีแล้วอย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 29 เดือนตุลาคมปีพศ2563

ศาลพิพากษาชั้นต้นได้มีการประกาศผลการพิพากษาคดีนี้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วยืนยันว่าชายหญิงที่ก่อคดีตับลิขสิทธิ์เพื่อที่ต้องการจะกรรโชกเงินจากเด็กหญิงวัย 15 ปีนั้นมีความผิดตามกฎหมายซึ่งจะต้องถูกจำคุก  โดยรวมระยะเวลาทั้งคู่แล้วอยู่ระหว่างประมาณ 2-3 ปีและกัน

          อย่างไรก็ตามแต่ทางด้านผู้ต้องหาเองขณะนี้ได้มีการขอยื่นเรื่องประกันตัวเองออกไปเพราะต้องการที่จะสู้คดีนี้   ซึ่งคดีนี้นับได้ว่าเป็นคดีตัวอย่างที่ศาลควรจะสั่งเอาผิดผู้ต้องหาให้ได้ เพื่อที่จะได้ไม่มีใครทำเลียนแบบนั่นเอง 

          

สนับสนุนโดย  gclub