สาวโดดตึกหนีตาย โดนแฟนทารุณอาการสาหัส

 นางสาวเอ นามสมมุติอายุ 27 ปีได้อยู่กินกับสามี ชื่อนายบี นามสมมุติอายุ 33 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้รู้จักกับสามี เพียงแค่ 9 วัน

และถูกขอแต่งงาน เธอก็ตัดสินใจที่ตกลงแต่งงานอยู่กินกันแบบครอบครัว  มาเป็นเวลาปีกว่า หลังจากนั้น ทางสามีก็ได้เปิดเผยพฤติกรรม อันเลวร้าย ชอบเสพยาเสพติด และคุ้มคลั่งควบคุมสติอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หรือทุกครั้งที่มีอาการอยากยาเสพติดก็จะทำลายข้าวของแม้กระทั่งทำร้ายนางสาวเอง

ด้วยพฤติกรรมต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอก็ถูกทำร้ายอยู่บ่อยครั้งโดนแม้กระทั่ง กระแสไฟจาก  ที่ช็อตปลา  ทุกครั้งเริ่มอยู่กันอย่างไม่มีความสุข

เพราะธาตุของยาเสพติด หลังจากที่เริ่มมีการทะเลาะ กันมา เรื่อยๆ ทางนางสาวเอ ก็ได้ ขอเลิกกับทางสามี แต่ทางสามีไม่ยอมที่จะเลิก และยังพูดว่าหากเลิกหรือหนีไปจะ ฆ่าทิ้งเป็นคำขู่ที่เธอเองนั้นก็กลัว นึกถึงคำที่แม่เตือนตั้งแต่ตอนที่ตัดสินใจแต่งงาน จนตอนนี้ คิดได้แล้ว

ซึ่งล่าสุด เธอเอง ได้พักอาศัยอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งย่านสมุทรปราการ ได้พักอาศัยอยู่กับสามี อยู่อาศัยอยู่ชั้น 4 ของที่พัก แถว ต.บางปลา อ.บางพลี

ซึ่งเธอเล่าว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2566 ช่วงเวลาประมาณเกือบ 6 โมงเย็น เธอได้ทะเลาะกับสามีครั้งใหญ่จึงเป็นเหตุให้เธอรอดออกมาครั้งนี้ได้ ซึ่งก่อน หน้านี้เธอถูกสามีขังให้อยู่ในห้องพักเพียงลำพังและตัวสามีเองได้ออกไปข้างนอก

แต่ครั้งนี้ สามีได้เสพยาเสพติดเกิดอาการคลุ้มคลั่งควบคุมตัวเองไม่ได้ ได้นำขวดเบียร์ ยัดเข้าไปที่อวัยวะเพศของตนเอง และยังตกกระแทกจนเธอนั้นเจ็บช้ำ จุกไปทั้งร่างกาย แถมมิหนำซ้ำยังนำขวดเบียร์ที่ยัดเข้าไปในอวัยวะเพศของเธอนั้น ดึงออกมา ตีเข้าที่หัวของเธออีก

จนหัวของเธอนั้นแตกมีเลือดไหลลงบนใบหน้าแต่ตัวสามีกลับไม่สงสารหรือใยดีกับเธอเลย ยังจะไปต้มน้ำให้เดือดในห้องครัว และพูดว่า จะนำมาราดบนตัวของนางสาวเอ้ซึ่งนางสาวเอ คิดว่า ผู้เป็นสามีไม่น่าจะทำตนเองได้ลงคอ

แต่ไม่เลย ทางตัวสามี ได้นำน้ำร้อนที่เดือดพลุกพล่านมาเทราดบนตัวเธอ จากนั้น ตัวสามีเองก็ได้เดินออกจากห้องไป โดยที่ล็อคประตูจากข้างนอก ทำให้เธอนั้น หนีออกไม่ได้ เธอจึงขึ้นใจขึ้นมา โดดหนีลงป่าข้างหอพักเพื่อไปขอความช่วยเหลือ จากคนใกล้เคียง

โดยที่แรกเธอได้เป็นถ้ำรั้วไปที่แคมป์คนงานให้ช่วยเหลือแต่กลับถูกปฏิเสธเธอจึงไม่ย่อท้อ จึงได้ว่ายน้ำข้ามคลองไปที่ร้านตรวจสุขภาพรถเพื่อขอความช่วยเหลือ พอไปถึงทางที่ร้านก็พร้อมที่จะช่วยเหลือติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือเธอ เบื้องต้นจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาถึงก็พบว่าลำตัวเธอนั้น

แดงกรรมและ ถูก พ่อด้วยสำลีชุบน้ำเพราะร่างกายเธอโดนน้ำร้อนราดไปทั้งเดือนร่างเบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึง ประถมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเพื่อนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลให้ตรวจสอบร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนผู้ต้องหา คือสามี ของเธอนั้นเธอบอกว่าจะไม่กลับไปคืนดี

และจะกลับไปอยู่กับแม่ที่จังหวัดอุบลราชธานี จะดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุดเธอก็วอนให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมสามีมาดำเนินการ ให้ถึงที่สุด ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาทำให้เสียโฉม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรับเรื่องไว้และจะทำการสืบค้นหาผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ufabet

หนุ่มซ่อนเงินครึ่งล้านใต้ที่นอน ไฟไหม้บ้านแม้แต่ซากเงินก็ไม่เห็น

         Sinchew เว็บไซต์ชื่อดังของประเทศจีนได้มีการออกมาเปิดเผยเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองหางโจวมณฑลเจ้อเจียงเมื่อวันที่ 16 เดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2565 

สำหรับเรื่องราวของชายหนุ่มชาวจีนรายนี้ถูกระบุว่าเขาต้องสูญเสียทรัพย์สินเป็นเงินจำนวนกว่าครึ่งล้านเนื่องจากว่าเขาได้นำเงินสดไปเก็บซุกซ่อนไว้ใต้ที่นอนแล้วอยู่ดีๆก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อไฟเกิดไหม้บ้านที่เขาอาศัยอยู่ทำให้ทรัพย์สินของเขาเสียหายทั้งหมดรวมถึงเงินที่เขานำไปซ่อนเอาด้วยเช่นกัน 

        จากการรายงานข่าวระบุว่าชายหนุ่มรายนี้อายุเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้นเขาอาศัยอยู่ในห้องเช่าซึ่งมีขนาดประมาณ 10 ตารางเมตรอย่างไรก็ตามเงินเก็บทุกบาททุกสตางค์ที่เขามีอยู่เขาไม่เคยนำไปฝากธนาคารเลยเนื่องจากเขามีความเชื่อว่าธนาคารไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยที่จะเก็บเงินสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับชายหนุ่มรายนี้ก็คือการเก็บเงินไว้ใกล้ตัวและจุดที่เขาจะนำเงินไปซ่อนก็คือบริเวณใต้ที่นอน

เนื่องจากว่าความคุ้นชินตั้งแต่เด็กทุกครั้งที่ได้เงินมาจากผู้ปกครองเขาจะ นำเงินหรือซองแดงมาเก็บไว้ใต้ที่นอนดังนั้นเขาจึงทำแบบนี้เรื่อยมาจนปัจจุบันเขามีเงินมากกว่า 100000 หยวนแต่ก็ยังคงเก็บเอาไว้ใต้ที่นอนเหมือนเดิม 

          อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2565 ใช่หนุ่มรายนี้ได้ออกไปทำธุระด้านนอกปรากฏว่าระหว่างที่อยู่นอกบ้านนั้น

เพื่อนบ้านได้ส่งข้อความมาแจ้งว่าบ้านของเขาเกิดไฟไหม้เมื่อเขาเดินทางกลับมาถึงก็พบว่ามีหน่วยดับเพลิงกำลังช่วยกันดับไฟแต่สภาพบ้านโดยรวมของเขานั้นได้รับความเสียหายถูกเผาวอดเหลือแต่ซากและเมื่อไปดูบริเวณที่นอนก็พบว่าที่นอนนั้นไม่จนไม่เห็นซากของเงินจำนวน แสนกว่าหยวนที่ซ่อนเอาไว้เลย  

          อย่างไรก็ตามชายหนุ่มรายนี้ไม่มีหลักฐานว่าตนเองเก็บเงินไว้ใต้ที่นอนจำนวนหนึ่งแสน หยวนอย่างที่กล่าวอ้างหรือไม่เพราะเขาไม่มีทั้งรูปถ่ายและยังไม่มีร่องรอยของเงินสดที่ถูกเผาไหม้ให้เห็นอีกด้วยซึ่งทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ได้ให้ข้อมูลว่ากระดาษนับเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีเมื่อมีการถูกไฟไหม้จึงถูกเผาได้อย่างรวดเร็วและถ้าหากว่าถูกฉีดน้ำเข้าไปแม้แต่ฝุ่นเศษผงของกระดาษก็จะปลิวหายไปด้วยทำให้ไม่เหลือหลักฐานใดๆเอาไว้ยืนยันให้เห็นอย่างแน่นอน 

          สำหรับเรื่องราวของชายหนุ่มชาวจีนรายนี้สามารถเป็นอุทาหรณ์ให้ใครก็ตามที่คิดอยากจะเก็บเงินไว้กับตัวทั้งหมดให้ตัดสินใจใหม่แบ่งแยกเก็บไว้กับตัวสักครึ่งหนึ่งและนำไปฝากธนาคารครึ่งหนึ่งเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินของเราเอง 

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง

อย่าเชื่อ ป้ายลดราคา  จนกว่าจะได้เห็นด้วยตาตนเอง 

              เชื่อว่าหลายคนที่เคยมีโอกาสไปเดินห้างสรรพสินค้าหรือไปเดินตามศูนย์การค้าต่างๆมากจะพบเห็นเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องของป้ายลดราคาสินค้าว่ามีการเซลล์สินค้าหรือมีโปรโมชั่นอื่นๆเยอะแยะมากมายเป็นการลดสินค้าแบบนาทีทอง

ซึ่งถ้าหากว่าใครที่ชอบซื้อของเซลล์จะต้องอดใจไว้ไม่อยู่และอยากจะเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอย่างแน่นอน

ถึงแม้ว่าสินค้าดังกล่าวนั้นอาจจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อมาเก็บไว้มากนักแต่เมื่อมองเห็นว่าสินค้ากำลังลดราคาอยู่ผู้คนส่วนใหญ่ก็มักจะต้องการซื้อเอาไว้เพราะมองว่าคุ้มเผื่อในอนาคตอาจจะมีเหตุจำเป็นได้ใช้

         อย่างไรก็ตามแต่เรื่องราวต่อไปนี้อาจจะเป็นการนำไปสู่การตัดสินใจครั้งใหม่สำหรับคนที่ชื่นชอบการซื้อสินค้าลดราคาก็เป็นไปได้

เพราะการซื้อสินค้าลดราคานั้นจำเป็นที่จะต้องดูให้ดีอย่าหลงเชื่อป้ายสีเหลืองที่มีการติดประกาศเอาไว้ว่ามีการลดล้างสต๊อกเพราะอันที่จริงแล้วสินค้าดังกล่าวอาจจะไม่ได้ลดจริงอย่างที่เราเห็นกันอยู่ก็เป็นไปได้

       เมื่อวันที่ 15 เดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2565 ผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งได้มีการแชร์ภาพที่ตนเองไปเดินห้างสรรพสินค้าแล้วไปเจอสินค้าชนิดหนึ่งลดราคาด้วยสินค้าดังกล่าวนั้นคือกระทะเกาหลีโดยมีการติดป้ายประกาศลดราคาแบบล้างสต๊อกเหลือเพียงแค่ใบละ 494 บาทเพียงเท่านั้น 

         อย่างไรก็ตามเจ้าของโพสต์ได้มีการเข้าไปตรวจราคาสินค้าโดยมีการดึงป้ายสีเหลืองออกแล้วดูราคาจริงก่อนที่จะมีการนำมาวางขายแบบลดล้างสต๊อก

พบว่าราคาเดิมก่อนที่จะนำมาติดป้ายลดราคานั้นขายเพียงใบละ 345 บาทเท่านั้น ดังนั้นเจ้าของโพสต์จึงได้มีการถ่ายภาพดังกล่าวแล้วนำมาแชร์ในโลกออนไลน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการนำไปแชร์ในเพจผู้บริโภคเพื่อให้ระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องการซื้อสินค้าลดล้างสต๊อกให้ดี 

          อย่างไรก็ตามหลังจากโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวโซเชียลหลายคนก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นซึ่งส่วนใหญ่มองว่าการติดป้ายลดราคาที่สูงกว่าราคาเดิมที่มีการติดป้ายประกาศขายเอาไว้นั้นมีให้เห็นอยู่เป็นประจำ

เพราะฉะนั้นผู้บริโภคควรจะต้องมีการตรวจสอบและระมัดระวังเกี่ยวกับสินค้าให้ดีไม่ควรจะรีบซื้อเพราะเพียงแค่เห็นป้ายคำว่า sale หรือคำว่าลดราคาเท่านั้น

          นอกจากนี้หลายคนยังมองว่าพนักงานอาจจะมีการติดป้ายราคาผิดก็ได้เช่นเดียวกัน  อย่างไรก็ตามหลายคนมองว่าถ้าหากว่าสินค้าที่ถูกนำมาขายผู้บริโภคพอใจที่จะซื้อก็ไม่ควรที่จะสนใจว่าสินค้านั้นจะขายในราคาเท่าไหร่เพราะหากว่าถูกใจและมีความจำเป็นที่ต้องใช้งานก็สามารถซื้อมาใช้งานได้เช่นเดียวกัน

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย   ufabet