คนโรคจิตตำรวจเอาผิดไม่ได้

เพียงเพราะแค่เป็นคนโรคจิตตำรวจเอาผิดไม่ได้เหตุการณ์จิตรลดาแทงเด็ก 4 ขวบดับ 

      เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่รองลงมาจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกเรื่องนึงเลยก็ว่าได้จากกรณีที่นางสาวจิตรลดา   ฆาตกรที่เพิ่งพ้นโทษออกมาจากคุกและยังเป็นฆาตกรผู้ป่วยโรคจิตที่เคยก่อเหตุโด่งดังมาแล้วเมื่อ 15 ปีก่อน

เคยเคยบุกเข้าไปแทงเด็กนักเรียนผู้หญิงที่โรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์จนมีเด็กนักเรียนหญิงได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 4 คนด้วยกัน ผ่านมา 15 ปีที่ออกมาจากคุกและมาก่อเหตุฆาตกรรมเด็กหญิงวัย 4ปี อีกครั้งหนึ่ง  โดยเจ้าหน้าที่ผู้สื่อข่าวได้มีการลงไว้ยังจุดเกิดเหตุ

ซึ่งเป็นบ้านของเด็กผู้หญิงวัย 4 ขวบที่เพิ่งเสียชีวิตโดยเธอชื่อว่าน้องเอมเรื่องนี้ยากของน้องเอ็มเป็นคนเล่าให้นักข่าวฟังว่า บ้านของนางสาวจิตรลดาอยู่ใกล้กับบ้านของย่าของน้องเอมห่างกันแค่เพียง 5 เมตรเท่านั้นซึ่งก่อนหน้านี้นางสาวจิตรลดาก็เป็นลูกค้าประจำร้านของย่าน้องเอมโดยเธอจะมาซื้อข้าวกล่องที่ร้านของย่าของน้องเอม

  และเมื่อมาซื้อของทุกครั้งเธอก็จะไปยืนเกาะหน้าต่างประตูห้องครัวที่ยากน้องเอมสัมผัสกับข้าวยาของน้องเองจึงไม่ได้เฉลียวใจว่านางสาวจิตรลดาจะมาทำร้ายน้องเอมแต่ในวันเกิดเหตุขณะที่นางสาวเจษฎาเดินทางมาสั่งข้าวกล่องย่าน้องเอมซึ่งสั่งไปทั้งหมด 6 กล่อง แต่ครั้งนี้ต่างไปกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาเพราะว่านางสาวศิรดาไม่ได้เดินมาเกาะประตูมองเหมือนทุกครั้ง

แต่กลับเดินไปมองหลานสาวก็คือน้องเอมซึ่งกำลังนอนหลับอยู่แต่ย่าของน้องเอมก็ไม่ได้คิดอะไรยังคงทำกับข้าวต่อไปขณะที่ย่าไม่ทันตั้งตัวนางสาวจิตรลดาก็ใช้มีดที่พบมาจากที่บ้านแทงไปที่น้องเอง ซึ่งตอนนั้นก็อยู่ในครัวจึงไม่ทันระวังด้วยเหลือหลานได้ทันทีหลังจากแท้งเสร็จนางสาวจิตรลดาก็เดินออกไปจากบ้านย่าเอง

ก็วิ่งไปดูหลานหลังจากนั้นจึงได้แจ้งความที่สถานีตำรวจ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางครอบครัวของนางสาวจิตรลดาก็ยอมรับว่าลูกสาวตัวเองน่าจะก่อเหตุจริงเพราะนี่ก็เป็นมีดของที่บ้าน และครอบครัวของนางสาวจิตรลดาจะช่วยเหลือเงินค่าทำศพ  ปัจจุบันตำรวจสามารถกำจัดตัวนางสาวจิตรลดาได้แล้วแต่ปัญหาที่พบก็คือนางสาวจิตรลดาพูดไม่รู้เรื่อง

เพราะมีอาการทางประสาทซึ่งถ้าหากเป็นแบบนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะไม่สามารถเอาผิดนางสาวจิรดาได้เลยคุณย่าของน้องเองรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเพราะแค่เพียงว่าคุณเป็นบ้าคุณก็สามารถออกมาฆ่าใครก็ได้แล้วไม่มีความผิดซึ่งอาทิตย์จริงแล้วครอบครัวของนางสาวจิตรลดาเองก็ถือว่ามีความผิดเนื่องจากว่ารู้ว่านางสาวจิรดาป่วยแต่ก็ยังปล่อยให้ออกมาเพ่นพ่านนอกบ้านจนมาก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายแบบนี้ดังนั้นครอบครัวของนางสาวจิตรลดาควรจะมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบในครั้งนี้ด้วย 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  สมัครจีคลับ ไม่มีขั้นต่ำ

เรื่องนี้ถูกเขียนใน ข่าวที่น่าสนใจ และติดป้ายกำกับ , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร