รวมข่าว ข่าวสาร ข่าวฮิต เกาะติดข่าวของสถานการณ์บ้านเมือง

ดร. สันติธารแชร์ประสบการณ์การ ติดไวรัส covid -19 สายพันธุ์โอไมครอน ทั้งบ้านแม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนป้องกันเรียบร้อยแล้ว

       สำหรับใครที่เคยติดตามข่าวสารบ้านเมืองหรือติดตามข่าวสารด้านการเมืองน่าจะรู้จัก ดร. สันติธรกันเป็นอย่างดีโดยด็อกเตอร์ท่านนี้เขาเป็นอดีต รองนายกรัฐมนตรีซึ่งเขาเป็นบุตรชายของนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย  อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ ดร. สันติธรไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทย

        เขาและครอบครัวได้เดินทางไปอาศัยอยู่ในประเทศสิงคโปร์ซึ่งเมื่อวันที่ 13 เดือนมกราคม ปี พ.ศ 2565  ที่ผ่านมา ดร. สันติธรได้มีการโพสต์ Facebook ส่วนตัวแชร์ประสบการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ตัวเขาเองและคนในครอบครัวของเขานั้นต่างก็พากันติดเชื้อชนิดนี้กัน โดยไวรัส covid -19 ที่ติดนั้นเป็นไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน  นั่นเอง 

      จากข้อมูลประสบการณ์ที่ทาง Doctor ได้มีการเล่าเอาไว้ใน Facebook นั้นระบุว่าตัวเองและภรรยารวมถึงแม่บ้านได้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ครบ 2 เข็มเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยวัคซีนที่มีการฉีดนั้นเป็นแบบ mRNA  อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ตัวดอกเตอร์และคนในครอบครัวก็ยังติดไวรัสโควิตสายพันธุ์โอไมครอนจนได้ซึ่งได้มีการแพร่เชื้อไวรัสชนิดนี้มายังลูกทั้งสองคนของดอกเตอร์ด้วย

     อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดอกเตอร์ต้องการที่จะซื้อนั่นก็คือหากติดเชื้อไวรัสชนิดนี้แล้วอาการของแต่ละคนนั้นจะแตกต่างกันออกไปสำหรับไวรัสชนิดนี้สามารถแพร่กระจายได้ง่ายและถึงแม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนแล้วก็ไม่สามารถที่จะป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้และไวรัสชนิดนี้อาการจะเหมือนเป็นคนเป็นไข้หวัดธรรมดาทั่วไปซึ่งในตัวเด็กๆเองนั้นจะมีอาการไข้

ซึ่งมีความร้อนสูงเกินกว่า 40 องศาเซลเซียสโดยค่ายนั้นจะมีใครเป็นช่วงช่วงดังนั้นผู้ปกครองต้องเช็ดตัวให้อยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ไข้ลดนอกจากนี้เด็กยังมีอาการเจ็บคอและอ่อนเพลียรวมถึงบางคนยังมีอาการปวดหัวแต่เด็กจะสามารถฟื้นตัวได้เร็วแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของเด็กว่ามีความแข็งแรงสามารถต่อสู้กับโรคภัยได้มากแค่ไหนอีกด้วย

       อย่างไรก็ตามในผู้ใหญ่นั้นก็มีอาการไม่แตกต่างกันมากนักถึงแม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนแล้วแต่อาการก็ยังคงมีอยู่ถึงแม้ว่าจะไม่รุนแรงเท่ากับเด็กก็ตามซึ่งที่ประเทศสิงคโปร์นั้นหากใครติดเชื้อไวรัส covid ถ้าอาการไม่รุนแรงมากทางรัฐบาลจะไม่อนุญาตให้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจะให้รักษากันเองที่บ้านดังนั้นตัวเองและคนในครอบครัวรวมถึงแม่บ้านนั้นจึงสังเกตอาการภายในคอนโดที่พักเพียงอย่างเดียวเท่านั้น  

       นอกจากนี้ ดร. สันติธรยังแนะนำด้วยว่าการที่ซื้อชุดตรวจ ATK มาตรวจนั้นไม่สามารถที่จะให้ผลที่แน่นอนเสมอไปได้เพราะผลตรวจนั้นอาจจะยังไม่เกิดโชว์ให้เห็นถึงแม้ว่าจะเป็นการติดเชื้อไวรัสโควิดแล้วก็ตามดังนั้นการตรวจด้วยชุดตรวจ ATK จึงควรตรวจซ้ำหลายๆครั้งไม่ควรตรวจแค่ครั้งเดียวแล้วเชื่อผลการตรวจพบผลที่ได้รับมานั้นมักจะไม่แน่นอน 

สนับสนุนโดย.    ufabet ฝากเงิน ออโต้

     หนุ่มญี่ปุ่นประกาศตามหาพ่อ   มีการเปิดเผยออกมาจากทางมูลนิธิกระจกเงาเมื่อวันที่ 27 เดือนมกราคมปีพ.ศ. 2565 ผ่านทางเพจของมูลนิธิกระจกเงาเองเนื่องจากว่าต้องการตามหาตัวชายชราชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งซึ่งมีอายุ 82 ปีเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยตั้งแต่ช่วงประมาณปีพศ 2561

และเกิดหายหลงพลัดหลงกับลูกชายที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งตรงบริเวณที่พลัดหลงกันนั้นก็คือแถวบริเวณอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์นั่นเอง 

         จากข้อมูลของทางมูลนิธิกระจกเงาระบุว่าชายชราวัย 82 ปีที่หายสาบสูญไปแนนชื่อว่านายคินยาซึ่งเป็นคนประเทศญี่ปุ่นเดินทางมาหาลูกชายที่แต่งงานกับสาวไทยและลูกชายได้พาไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 9 เดือนเมษายนปีพ.ศ. 2561

ระหว่างที่เที่ยวอยู่บนดอยอินทนนท์กันนั้นเองปรากฏว่าชายชราชาวญี่ปุ่นได้พลัดหลงกับลูกชายซึ่งในวันดังกล่าวลูกชายพยายามตามหาแต่ก็ไม่พบร่องรอยการสูญหายของผู้เป็นพ่อ

        นับตั้งแต่ชายชราวัย 82 ปีหายตัวไปลูกชายก็ได้มีการพยายามออกตามหาผู้เป็นพ่ออยู่เสมอถึงแม้ว่าลูกชายเองก็จะต้องมีการหยุดงานและต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายทุกครั้งที่มีการออกตามหาพ่อแต่ก็ยังมีการพยายามออกตามหาซึ่งมีการตามหาด้วยการเดินแจกใบปลิวเดินตามบ้านเรือนต่างๆเพื่อสอบถามประชาชนในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

แต่ก็ยังไม่พบดังนั้นลูกชายของนายคินยาจึงได้มีการติดต่อมูลนิธิกระจกเงาเพื่อให้ช่วยตามหาพ่อของตนเองซึ่งในขณะนี้ระยะเวลาในการสูญหายของชายชราวัย 82 ปีก็เนิ่นนานผ่านมาถึง 4 ปีแล้วแต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะตามหาพบ

       สำหรับชายชราวัย 82 ปีนี้เขามีอาชีพเป็นวิศวกรซึ่งโดยปกติแล้วก่อนที่จะมาสูญหายนั้นเขาก็ทำงานตามต่างประเทศซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องของการเดินทางไปประเทศอื่นๆทั่วโลกและมีความเข้าใจทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษเป็นอย่างดีอย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าก่อนที่จะสูญหายนั้นเขาต้องการมาเยี่ยมลูกชายที่มาอาศัยอยู่ในประเทศไทยจึงได้มาที่ประเทศไทยและพากันไปเที่ยวแล้วเกิดการสูญหายในครั้งนี้

          ทางด้านมูลนิธิกระจกเงานั้นก็ได้มีการประสานงานเจ้าหน้าที่ดูแลอุทยานแห่งชาติเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพื่อไปยังจุดตรงบริเวณที่ลูกชายของนายคินยา ระบุว่ามีการพลัดหลงกับผู้เป็นพ่อแถวบริเวณอุทยานแห่งชาตินั่นเองโดยจะเริ่มต้นการค้นหาทั่วทุกตารางนิ้วในอุทยานแห่งชาติเผื่อว่าอาจจะเจอร่องรอยหรือถ้าหากใครที่พบเห็นชายชราชาวญี่ปุ่นก็สามารถแจ้งไปที่ทางมูลนิธิกระจกเงาได้ซึ่งในเพจของมูลนิธิกระจกเงาก็ได้มีการแชร์รูปของชายชราที่หายไปอีกด้วย 

สนับสนุนโดย.    ufabet ฝากเงิน ออโต้