ดราม่า งานแต่งสินสอดหนึ่งหมื่น จากกรณีที่มีในโลกออนไลน์ได้มีการพูดถึงงานแต่งงานที่จังหวัดเลยซึ่งเป็นการจัดงานแต่งงานที่ล้มเหลวเนื่องจากว่าเจ้าบ่าวมาร่วมพิธีแต่งงานช้าและนำเงินสินสอดมาไม่ครบตามที่ตกลงกันเอาไว้
จนเกิดการทะเลาะและชกต่อยกันเกิดขึ้นซึ่งทางญาติของฝ่ายเจ้าสาวก็ได้มีการนำคลิปและนำเรื่องราวมาโพสต์ลงโซเชียล
อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ผู้คนต่างก็รู้สึกสงสารฝ่ายเจ้าสาวเป็นอย่างมากที่ถูกผู้บ่าวเทงานแต่งแล้วยังต้องอับอายเพื่อนบ้าน ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 นักข่าวได้มีการเดินทางไปยังบ้านที่จัดงานแต่งงานเพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งทั้งแม่ของเจ้าสาวเองนั้น
ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าในวันที่ 6 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ 2565 ได้มีการจัดงานแต่งงานจริงและงานแต่งงานก็ล้มไม่เป็นท่าจริงเพราะเจ้าบ่าวนำเงินสินสอดมาเพียงแค่ 1 บาทจากที่ตกลงกันไว้เกือบ 1 แสนบาท
แม่เจ้าสาวเราให้กับนักข่าวฟังว่าเจ้าบ่าวและเจ้าสาวรู้จักกันได้แค่ประมาณเดือนเดียวหลังจากนั้นฝ่ายชายก็มาขอหมั้นโดยตกลงกันว่าจะแต่งงานในวันที่ 30 เดือนมีนาคม ปี พ.ศ 2565 แต่ในช่วงนั้นสถานการณ์โควิดยังค่อนข้างระบาดรุนแรงจึงได้มีการเลื่อนการจัดงานมาเป็นจัดวันที่ 6 เดือนพฤษภาคมปีพศ. 2565
อย่างไรก็ตามเมื่อถึงวันงานปรากฏว่าพิธีจัดงานต้องทำตั้งแต่ช่วงประมาณ 7:30 น แต่เจ้าบ่าวยังไม่มาเมื่อมีการโทรตามก็แจ้งแต่เพียงว่าออกจากบ้านมาแล้ว
แต่ยังไม่ถึงให้รอก่อนจนช่วงเวลาประมาณ 11:00 น เจ้าบ่าวถึงมาถึงในงานแต่เมื่อมาถึงก็ไม่มีเงินค่าสินสอดบอกให้รอแม่ซึ่งกว่าแม่เจ้าบ่าวจะเดินทางมาก็เป็นช่วงเวลาเที่ยงและมีคนมาร่วมงานทางฝั่งเจ้าบ่าวแค่เพียงประมาณ 5 คนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ทะเลาะกันเกิดขึ้นเมื่อทางฝั่งเจ้าบ่าวนั้นนำเงินมาเพียงแค่ 10,000 บาทและแม่เจ้าบ่าวยังบอกว่ามีให้เพียงเท่านี้ถ้าหากจะเอามากกว่านี้ก็ไม่ต้องจัดงานแต่งงานพอไม่มีค่าสินสอดนอกจากนี้แม่เจ้าบ่าวยังระบุว่าไม่รู้เรื่องว่าลูกชายของตนเองนั้นจะมีการจัดงานแต่งงานทำให้ครอบครัวของฝ่ายเจ้าสาวไม่พอใจและเกิดทะเลาะกันวันสุดท้ายแล้วครอบครัวทางฝ่ายเจ้าบ่าวก็พากันออกจากงานและงานแต่งงานก็สิ้นสุดลงจึงทำให้ครอบครัวของฝ่ายเจ้าสาวนั้นอับอายคนในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก
ล่าสุดครอบครัวของฝ่ายเจ้าสาวได้มีการอัพเดตเรื่องราวดราม่านี้ผ่านทางโลกออนไลน์อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 8 เดือนพฤษภาคมโดยระบุว่าหากใครที่กำลังสงสารเจ้าสาวที่ถูกทิ้งในวันแต่งงานนั้นไม่ต้องสงสารแล้วเนื่องจากว่าเจ้าสาวได้หนีครอบครัวของตนเองหนีพ่อแม่ตามเจ้าบ่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยเจ้าสาวหนีไปอยู่กับเจ้าบ่าวที่ประเทศญี่ปุ่น
สนับสนุนเนื้อหาโดย ufabet เว็บหลัก