ที่ เชียงใหม่ มีเจ้าของร้าน ขาย ของชำ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้แชร์ คลิปวีดีโอ ของลูกจ้าง ที่จ้างงานให้มาช่วยขายของ แต่กลับถูกลูกน้องเป็นหญิงสาวอายุ 21 ปี
ขโมยเงิน รวมแล้ว น่าจะประมาณ 1 ล้านบาท โดยเจ้าของร้าน ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ได้เปิดร้านขายของแต่ไม่มีคน ช่วยดูแลร้าน และต้องการพนักงาน ช่วยขายของ ให้อยู่พอดี มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินมาที่ร้านอุ้มลูกมา บอกว่ามาของานทำ ไม่มีงาน และไม่มีเงินให้ลูก
ตนเห็นจึงสงสาร จึงรับมาเป็นพนักงานของร้าน โดยแรกๆที่รับเข้ามาทำงาน พิมพ์ชนก คนที่ขโมยเงิน ขยันมาก ทำดีมาตลอด ตอนก็ไว้ใจ ให้ดูแลบัญชีการเงินตรวจนับสต๊อคสินค้าทุกอย่าง โดยที่ไม่ต้องเข้ามาที่ร้าน ให้พิมพ์ชนกดูแลร้านเองเพียงคนเดียว
อาจจะเข้ามาเป็นบางวัน และทำการซื้อของเข้าร้านเพื่อจำหน่าย เจ้าของร้าน ยังพูดอีกว่า ที่มารู้ ว่า พิมพ์ชนก ขโมยเงินไปนั้น ก่อนหน้านี้ มีการตั้งข้อสงสัย สังเกตมาตลอดว่าที่ร้าน ทำไมถึงขาดทุน มาเรื่อยๆ
โดยปีแรกที่รับเข้ามาทำงาน ทางพิมพ์ชนกเองก็บอกว่าร้านขายไม่ค่อยดี ก็ยังพอเข้าใจได้เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่โควิดระบาดหนัก แต่ช่วง 2 ปีหลังนั้น ของที่ร้านก็ขายเหมือนเดิมปกติ และเหมือนจะขายดีกว่าเดิม เพราะมีการ แจ้งให้ซื้อรายการสินค้าเพิ่มมากขึ้น
แต่รายรับ ได้กำไรแค่วันละพันกว่าบาท ซึ่งมันเป็นไปได้ยากในเมื่อลูกค้าเข้าร้านทุกวัน ปกติ เธอและสามี จึงตัดสินใจ ติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม
จากที่มีอยู่แล้ว 4 จุดเพิ่มเป็น 8 จุด โดยที่ไม่แจ้งพนักงาน พิมพ์ชนกคนนี้ ตอนแรกก็ไม่ได้คิด ว่าพิมพ์ชนกจะเป็นคนขโมยเงินที่ร้านไป
ขโมยเงินแต่ละที่ วันหนึ่ง 3 ครั้งวิธีที่ท้องที่น้องพิมพ์ชนกทำนั้นแนบเนียนที่สุด โดยใช้จังหวะที่ลูกค้ามาชำระเงิน เพื่อเปิดเก๊ะ และนับเงินทอน แต่ไม่ปิดให้สนิทโดยล้อที่ลูกค้าเดินออกจากร้าน และทำเป็น นับเงินแบงค์พันบ้างแบงค์ 500 จากนั้น ก็เก็บใส่กระเป๋า ของ พิมพ์ชนก
ลูกจ้างคนนี้ เธอรู้สึกเสียใจมาก ที่รับและไว้ใจลูกจ้างคนนี้มาโดยตลอด ทุกวันนี้ที่ร้านอยู่ได้เห็นว่าขาดทุนเราก็ได้เอาบ้านไปรีไฟแนนซ์เพื่อนำทุนมาลงทุนเพิ่ม แต่กลับไม่ได้กำไร ขาดทุนลงทุกวันจนกิจการแทบจะเจ๊ง จนล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566
สามีของตนเอง จึงบอกให้ไปรีดูกล้องวงจรปิด ให้ดูในจุด เคาน์เตอร์ชำระเงิน เธอก็ได้ไปนั่ง เฝ้าลีย้อนดู ก็พบว่า พิมพ์ชนกลูกจ้างคนนี้ ขโมยเงินทุกวัน วันละหลายรอบ แต่ละรอบ ยอดเป็นหมื่น ที่เก็บใส่กระเป๋าไป ซึ่งเธอก็สงสัยตั้งแต่ช่วง ปีที่ 2 ว่าทำไมลูกจ้างคนนี้ ซื้อของออนไลน์บ่อย กินข้าวแต่ละมื้อ แพงกว่าค่าจ้างรายวันที่ได้รับ ทำตัวอู้ฟู่เงินเยอะ ตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจ
จนตอนนี้มารู้แล้วว่าเงินที่หาย ที่ขาดทุนไป เป็นเพราะพิมพ์ชนก ขโมยไปนี่เอง จากที่ดูกล้องวงจรปิด น้ำตาก็ไหลทุกครั้งที่เห็นลูกจ้างคนนี้ขโมยเงิน จึงได้ตัดสินใจไปแจ้งความ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้มา ที่ร้านเพื่อจับตัวลูกจ้างคนนี้ ไปดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มารอจับพนักงาน ลูกจ้างคนนี้ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2566 ซึ่งเจ้าตัวลูกจ้างก็มาทำงานตามปกติ และ ให้เจ้าหน้าที่จับกุมทันที เจ้าตัวเองก็สารภาพว่าได้นำเงิน จากที่ร้านไปจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจถามว่านำเงินไปทำอะไรตัวลูกจ้างก็แจ้งว่านำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว จึงนำตัว ไปฝากขัง ที่สถานีตำรวจและดำเนินคดีตามกฎหมาย
สนับสนุนโดย หวยดี