หลานวัย 12 ปีโอนเงินออกจากบัญชีปู่เพื่อไปซื้อของหมดไปล้านกว่าบาท 

         หลานวัย 12 ปีโอนเงินออกจากบัญชีปู่ เมื่อวันที่ 14 เดือนเมษายน ปีพ.ศ. 2565 เว็บไซต์ชื่อดังของต่างประเทศได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของชายชาวจีนคนหนึ่งซึ่งอยู่ในมณฑลเหอหนานเบอร์โทรอาศัยอยู่กับหลานชายวัย 12 ปี

  อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่มีการเปิดเผยในโลกออนไลน์นั้นระบุว่าเด็กชายวัย 12 ปีได้ไปกินอาหารกับปู่หลังจากนั้นมาถึงช่วงจ่ายตังค์ปู่ได้มีการกดเงินจ่ายค่าอาหารผ่านทางอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้งซึ่งหลานชายวัย 12 ปีได้เห็นและจำรหัสผ่านได้หลังจากนั้นจึงได้แอบเข้าไปในบัญชีของปู่แล้วนำเงินออกมาไปซื้อของที่ตนเองอยากได้  ซึ่งเงินในบัญชีของปู่นั้นมีมากกว่า 1.2 ล้านบาท

           อย่างไรก็ตามกว่าปู่จะรู้ตัวว่าหลานชายแอบกดเงินในบัญชีออกมาใช้จ่ายนั้นเงินบัญชีของปู่ก็เหลือเพียงแค่ 25 บาทแล้ว  เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ปู่รู้สึกชอบมากเนื่องจากว่าเงิน 1.2 ล้านบาทนั้นคือเงินสำหรับเอาไว้ใช้จ่ายยามชราเป็นเงินเกษียณอายุของคุณปู่เป็นเงินที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตทั้งหมดของปู่เลยทีเดียว 

โดยคุณปู่รายนี้ได้ให้สัมภาษณ์กับทางนักข่าวว่าหลังจากที่รู้ว่าหลานแอบยักยอกเอาเงินออกไปใช้จ่ายหมดไปล้านกว่าบาทหรือเกลี้ยงบัญชีนั้นก็ทำให้รู้สึกปวดใจมากถึงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ไม่คิดว่าหลานของตนเองจะทำกับตนเองแบบนี้ 

           อย่างไรก็ตามทางด้านผู้ปกครองของเด็กชายวัย 12 ขวบหรือคุณแม่ของเด็กชายนั้นเมื่อรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็รู้สึกตกใจและวิ่งเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้เมื่อมาที่บ้านแล้วพบว่ามีข้าวของส่งมาถึงที่บ้านมีของกล่องเล็กน้อยเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดโดยส่งมาจากออนไลน์ซึ่งตรวจสอบและเป็นการสั่งซื้อสินค้าเหล่านี้ผ่านระบบออนไลน์ก็ทำให้เธอรู้สึกตกใจมากโดยมีของเล่นรวมถึงกล่องสุ่มและอื่นๆอีกมากมายนอกจากนี้ยังมีเตาอบลมร้อนอีกด้วย

          อย่างไรก็ตามเข้าของที่ถูกนำไปวางไว้ในบ้านของแม่ของเด็กชายวัย 12 ขวบนั้น  มาจากการที่เด็กชายวัย 12 ขวบมีการเข้าไปสั่งซื้อสินค้าออนไลน์และนำเงินของปู่ออกมาซื้อสินค้าเหล่านั้น  เด็กชายวัย 12 ขวบเป็นคนที่ชื่นชอบการดูไลฟ์สดขายของเป็นอย่างมากเขาจึงนำเงินไปซื้อของเล่นที่เขาอยากได้หรือสินค้าทุกอย่างที่เขาอยากได้

           จากการให้ข้อมูลของเด็กชายวัย 12 ขวบยืนยันว่าเขาได้รหัสผ่านมาตอนที่เขาไปกินข้าวกับปู่ของเขาโดยเข้าแอปจำรหัสผ่านเอาไว้ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วหลังจากนั้นเขาก็อยากที่จะถอนเงินเพื่อมาซื้อของที่เขาอยากได้เช่นแว่นตา VR จาก Huawei หรือแม้แต่ซื้อ Apple Watch    จากจำนวนสินค้าที่มีการซื้อผ่านทางออนไลน์โดยเด็กชายวัย 12 ขวบนั้นปรากฏว่ามีการกดซื้อสินค้ามาทั้งหมด 61 รายการด้วยกันโดยสินค้าแต่ละชนิดนั้นราคาก็จะแตกต่างกันออกไปซึ่งมีการซื้อสินค้าครั้งเดียวมากสุดถึง 1.5 แสนบาทเลยทีเดียว

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ufabet บาคาร่า

แทบช็อกเจอบิลค่าไฟเรียกเก็บสามแสนบาทภายในเดือนเดียวทั้งทั้งที่บ้านมีแอร์แค่ตัวเดียวเท่านั้น 

       มีการเปิดเผยออกมาจากชายคนหนึ่งอายุ 35 ปีซึ่งบ้านของเขานั้นอยู่ในจังหวัดชลบุรีโดยอยู่ในเขตตำบลบางเสร่ชายคนดังกล่าวนั้นมีชื่อว่านายเจนรบด้วย

เขาให้ข้อมูลกับนักข่าวว่า  เขาได้รับบิลค่าไฟเดือนล่าสุดที่มีการส่งไปเรียกเก็บโดยบิลค่าไฟที่เขาได้รับนั้น  จำนวนยอดสูงมาก จนทำให้เขาแทบช็อคเลยทีเดียว

       นายเจนรบ ให้ข้อมูลกับนักข่าวว่า  บ้านของเขานั้นเป็นเพียงแค่บ้านชั้นเดียวเท่านั้นมีคนอาศัยอยู่ภายในบ้านเพียงแค่ 3 คนและบ้านของเขานั้นมีการติดตั้งแอร์คอนดิชั่นแค่เครื่องเดียวเท่านั้น

โดยปกติแล้วบ้านของเขาจะถูกเรียกเก็บค่าไฟอยู่ที่ประมาณเดือนละ 700 บาทต่อมาในช่วงประมาณเดือนเมษายน ค่าไฟเพิ่มมาอยู่ที่ 1,000 บาทเพราะว่าเป็นช่วงที่อากาศร้อนซึ่งเขาเข้าใจได้ว่าบ้านทุกหลังนั้นค่าไฟถูกเรียกเก็บเพิ่มเหมือนกันหมด

     แต่พอเดือนต่อมาเขาถูกเรียกเก็บค่าไฟเพียงแค่ 40 บาทเท่านั้นและล่าสุดก่อนที่เขาจะได้รับค่าไฟที่ช็อกเขามากนี้เขาก็เสียค่าไฟไปที่ 2,000 บาทอย่างไรก็ตามพอเข้ามาเห็นค่าไฟของมีนเดือนกรกฎาคมปรากฏว่าเขาแทบช็อกโกแลตเดียว

เพราะในบิลนั้นมีการแจ้งเลขเก็บค่าไฟของเขามาสูงถึง 3  แสนกว่าบาทเลยทีเดียวทั้งๆที่เขานั้นอยู่กันแค่เพียง 3 คนเท่านั้นและที่สำคัญพวกเขาก็แทบจะไม่ค่อยได้เปิดแอร์ใช้งานเลย 

        สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเขาเพิ่งได้รับบิลค่าไฟจึงยังไม่ได้มีการปะติดต่อกับการไฟฟ้าเพราะว่าติดเสาร์- อาทิตย์  โดยในวันจันทร์นายเจนรบจะรีบดำเนินการติดต่อที่การไฟฟ้าทันทีเพื่อให้ทำการตรวจสอบเนื่องจากว่าประวัติที่ผ่านมา

เขาไม่เคยมีการใช้ไฟเยอะแบบนี้มาก่อนและเขาคงไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายค่าไฟ 3 แสนกว่าบาทนี้ได้อย่างแน่นอนถึงแม้ว่าเขาจะขายบ้านขายรถก็คงไม่เพียงพอกับการจ่ายค่าไฟแค่เพียงเดือนเดียว

       อย่างไรก็ตามนายเจนรบให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่วันทางด้านการไฟฟ้าได้มีการนำมิเตอร์มาเปลี่ยนให้ใหม่ซึ่งเขาเองไม่แน่ใจว่าอาจจะเกิดจากสาเหตุนี้หรือไม่ที่ทำให้มีการเรียกเก็บค่าไฟสูงผิดปกติเดี๋ยวรอวันจันทร์ให้ทางการไฟฟ้ามาตรวจสอบ

ดูก็น่าจะทราบผลการตรวจสอบเป็นที่แน่นอนแต่อย่างไรแล้วเขาก็ยืนยันว่าเขาจะไม่มีการจ่ายเงินค่าไฟ 3 แสนกว่าบาทนี้แน่นอนเพราะเขาไม่ได้มีการใช้งานมากถึงขนาดนี้ 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ufabet บาคาร่า

ไวรัสระบาดไปทั่วแม้แต่ตำรวจก็ติดเชื้อถึง 21 คน

ไวรัสระบาดไปทั่วแม้แต่ตำรวจก็ติดเชื้อถึง 21 คนแล้วแถมยังต้องกักตัวดูอาการ 14 วันถึง 431 คน 

          เป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างมากเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าเพราะจากเดิมที่ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไว้ได้ปัจจุบันได้มีการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากและจำนวนผู้ติดเชื้อก็มาจากทุกข์สายอาชีพไม่ว่าจะเป็นคุณหมอ   พยาบาล  ประชาชนทั่วไป   นักการเมือง   เหล่าดาราต่างๆ 

รวมถึงตำรวจและทหารก็ยังติดเชื้อไวรัสโคโรนาเช่นเดียวกันเป็นที่น่าตกใจว่ามีการรายงานข่าวเข้ามาถึงจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพบว่าเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าใจหายซึ่งล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นที่ตรวจแล้วพบอาการแน่นอนว่ามีเชื้อนั้นมีจำนวนมากหรือ 21 คน

ด้วยกันโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านี้จะถูกส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตามจุดต่างๆที่เปิดให้บริการในการรักษาโรคเชื้อไวรัสโคโรน่าและยังมีอีกจำนวนถึง 431 คนที่เข้าข่ายว่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าซึ่งยังต้องมีการกักตัวเพื่อสังเกตอาการอยู่ที่บ้านเป็นระยะเวลา 14 วัน

จึงทำให้บุคลากรของทางราชการที่ต้องคอยมาช่วยเหลือดูแลประชาชนต้องลดจำนวนลงไปค่อนข้างมากสิ่งที่เราเห็นกันก็คือความพร้อมของอุปกรณ์ในการป้องกันการติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่านั้นของประเทศไทยตอนนี้มีน้อยมากเช่นหน้ากากอนามัยซึ่งไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับเชื้อโรคไวรัสโคโรน่าอย่างหมอและพยาบาลเองประเทศ

ไม่มีใช้งานรวมถึงเจลล้างมือก็เริ่มขาดแคลนดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากสำหรับบุคคลที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่อาจจะมีเชื้อไวรัสโคโรน่าอย่างคุณหมอพยาบาลทหารตำรวจที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ ซึ่งเริ่มแรกเดิมทีนั้นอย่างหน้าที่ตำรวจพบว่ามีการติดเชื้อไวรัส Coronaแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะได้ตามหัวหน้างานไปในสถานที่ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะมีการแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่า

และหลังจากนั้นข้อมูลข่าวสารก็มีการกระจายออกมาเรื่อยๆว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดตอนนี้ก็พบว่ามีจำนวนมากถึง 21 คนเข้าไปแล้วและยังต้องมารอลุ้นอีก 400 กว่าคนว่าจะติดเชื้อไวรัสทั้งหมดหรือไม่ซึ่งแค่จำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าและต้องคอยสังเกตอาการนี้ก็ทำให้จำนวนเตียงในโรงพยาบาลแทบ

จะไม่เพียงพอรักษาคนไข้คนอื่นแล้วดังนั้นทุกคนไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็ตามควรจะให้ความร่วมมือกันในการกักตัวเองอยู่แต่ในบ้านเป็นระยะเวลา 14 วันเพื่อดูอาการของตนเองก่อนว่าจะมีอาการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเกิดขึ้นหรือไม่เพื่อป้องกันการออกไป

แพร่ระบาดให้กับคนอื่นและลดการกระจายการแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่าออกไปเพราะถ้าหากเราสามารถควบคุมการแพร่เชื้อระบาดมีรายจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ในตอนนี้ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้เช่นเดียวกันและเราก็จะสามารถยุติการเป็นโรคไวรัสชนิดนี้ได้เช่นเดียวกัน 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ufabet บาคาร่า