รัฐบาลจ่อล็อกดาวน์หากยังไม่ดีขึ้น

ซึ่งตั้งแต่เมื่อวานนี้ที่ได้มีการพูดถึงอาจจะมีการประเมิลว่าจะกลับมาล็อกดาวน์เหมือนกับเดือนเมษายนปี2563หรือเปล่าถ้าหากว่าจำนวนของผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลงในเรื่องนี้ก็มีคำชี้แจงจากท่านเลขาธิการ สมช. ว่าเรื่องของการล็อกดาวน์คงจะต้องรอฟังการประเมิลจากกระทรวงสาธารณสุขก่อน

โดยอาจจะใช้เวลาในช่วงระยะ15วันนี้ในการประเมิลว่าจำนวนของผู้ป่วยลดลงมาหรือเปล่าเพื่อที่จะมาประกอบกับการตัดสินใจแล้วก็หากผู้ป่วยยังไม่ลดลงก็อาจจะพิจารณามาตรการที่เข้มข้นขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ ศบค. ก็รายงานว่าเรื่องของเชื้อกลายพันธุ์

โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตาตอนนี้จากกรุมเทพมหานครและปริมณฑลที่ถือว่ากลายมาเป็นตัวเชื้อหลักที่ควบคู่ไปกับอัลฟาที่ระบาดในรอบแรกในอังกฤษก็กระจายไปใน40จังหวัดของไทยเราด้วย

นอกจากนี้แพทย์หญิง อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19หรือ ศบค. รายงานว่าสถานการณ์โควิด-19เมื่อวานนี้มีผู้ที่หายป่วยเพิ่ม4,148รายส่วนผู้ที่ติดเชื้อรายใหม่พบเพิ่ม6,464รายมาจากเรือนจำ55รายผู้ป่วยสะสม272,309รายและกำลังรักษาอยู่66,614รายเป็นผู้ป่วยอาการหนัก2,496รายต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ676รายและเมื่อวานนี้พบเสียชีวิตเพิ่ม54ราย

สำหรับทั้งแนวโน้มในขณะนี้มีผู้ติดเชื้อในกรุงเทพและปริมณฑลรวมไปถึงต่างจังหวัดอยู่ในอัตราส่วน50/50สะท้อนถึงการเดินทางข้ามพื้นที่และก็มีการพบเชื้อใน40จังหวัดประกอบด้วยภาคเหนือ11จังหวัดติดเชื้อรวม88รายภาคกลางและภาคตะวันออก9จังหวัดพบผู้ติดเชื้อรวม65ราย

เนื่องจากนี้ทางภาคตะวันออกเฉียบเหนือ17จังหวัดพบผู้ติดเชื้อรวม218รายและพื้นที่ภาคใต้3จังหวัดพบผู้ติดเชื้อรวม6รายกรุงเทพมหานครและปริมณฑลพบสายพันธุ์เดลตาหรือที่ระบาดกันครั้งแรกในอินเดียเป็นส่วนใหญ่ก็กระจายกันต่อไปในต่างจังหวัดอีกด้วย

ส่วนสถานการณ์ในกุงเทพและปริมณฑลยังคงอยู่ในระดับสูงกรุงเทพพบกลุ่มก้อนใหม่สองแห่งก็คือจุดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเขตมินบุรีและโรงงานจิวเวลรี่เขตบางนารวมทั้งหมดที่กรุงเทพมหานครเฝ้าระวังอยู่มี118คลัสเตอร์หรือกลุ่มก้อนโดยขณะนี้มีผู้ป่วยรอเตียงระดับสีแดงราว40-50คนต่อวันสีเหลือง200-300คนต่อวันความสามารถในการบ้ายผู้ป่วยในขณะนี้มีราว500เที่ยวต่อวันในทุกระดับสี

ซึ่งข้อจำกัดในขณะนี้ก็คือจำนวนเตียงจำนวนการขนย้ายผู้ป่วยก็เตรียมที่จะเพิ่มการส่งต่อผู้ป่วยให้กับระดับผู้ป่วยสีแดงและสีเหลืองเข้มเป็นหลักส่วนผู้ป่วยที่มีอาการเบาหรือสีเขียวก็จะส่งต่อไปยังศูนย์พักคอยส่วนจังหวัดอื่นๆยังพบว่ามีกลุ่มก้อนใหม่ใน3จังหวัดประกอบด้วย นนทบุรี ปทุมธานี และ ตาก

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    gclub ทดลองเล่นฟรี

หญิงวัย 58 ปี ถูกใบสั่ง 200 ใบไม่เคยไปจ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาหาถึงบ้าน

            เมื่อวันที่ 22   เดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2564    ที่หมู่บ้านฟ้าไทย ในจังหวัดเชียงราย  เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นหน่วยงานของกรมทางหลวง  ได้เดินทางไปยังบ้านของหญิงคนหนึ่งอายุ 58 ปี  ชื่อว่านางสาวณิชาภัทร   ฐิติพงศ์ปรีดา   โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้มีการนำเอกสารที่ออกจากทางราชการเป็นหมายแสดงการจับกุมนางสาวณิชาภัทร 

           สาเหตุของการกระทำผิดนั้นในเอกสารระบุว่านางสาวณิชาภัทรได้มีการทำผิดการจราจรบนท้องถนนเนื่องจากว่ามีการขับรถฝ่าไฟแดงอยู่บ่อยครั้ง  ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งใบสั่งมาให้ถึงที่บ้านเป็นจำนวนถึง 200 ใบด้วยกันแต่ตลอดระยะเวลาที่นางสาวณิชาภัทรได้รับใบสั่งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นไม่เคยไปเสียค่าปรับเลย  

        ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการพูดคุยกับนางสาวณิชาภัทรถึงสาเหตุของการออกหมายจับกุมในครั้งนี้ว่าก่อนหน้านี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งเอกสารมาให้ที่บ้านโดยทำเป็นขั้นตอนต่างๆเริ่มตั้งแต่ส่งเรื่องของใบสั่งมาให้แต่ก็ถูกเพิกเฉยหลังจากนั้นก็มีการส่งใบเตือนให้ไปชำระค่าปรับแต่นางสาวณิชาภัทรก็ไม่ได้สนใจรวมถึงยังมีการส่งเอกสารตามขั้นตอนต่างๆทางกฎหมายเรื่อยมาและมีการออกหมายเรียกให้นางสาวณิชาภัทรไปติดต่อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจแต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อแต่อย่างไร

          ในที่สุดทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการส่งเอกสารไปยังศาลการปกครองเพื่อให้ศาลอนุมัติการออกหมายจับเพื่อนำตัวนางสาวณิชาภัทรไปดำเนินคดี  อย่างไรก็ตามนางสาวณิชาภัทรรับทราบข้อกล่าวหาทุกกรณีและยอมรับว่ามีใบสั่งส่งมาที่บ้านจริงและไม่เคยไปชำระเงินตามที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาจริง   

        สำหรับปัญหาการที่ผู้ขับขี่รถบนท้องถนนได้มีการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการจราจรนั้นส่วนใหญ่แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการส่งใบสั่งไปให้ถึงที่บ้านพร้อมทั้งยังมีภาพถ่ายขณะที่ก่อเหตุกระทำผิดเป็นหลักฐานเพื่อให้ประชาชนสามารถทำการตรวจสอบได้และเมื่อเราได้รับใบสั่งแล้วก็สามารถนำใบสั่งนั้นไปทำการชำระเงินที่สถานีตำรวจๆ  

        แต่ในขณะเดียวกันทุกวันนี้บางคนที่ได้รับใบสั่งนั้นก็จะมีการเพิกเฉยและไม่ยอมไปชำระค่าปรับต่างๆทำให้อาจกล่าวได้ว่าตอนนี้ผู้ที่ได้รับใบสั่งนั้นมีเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ไปเสียค่าปรับซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควรจะมีการปรับเปลี่ยนเกี่ยวกับกฎหมายการเสียใบสั่งใหม่ว่าหากมีการสะสมใบสั่งเกินจำนวนเท่าไหร่ให้มีการระงับใบขับขี่ถึงจะเป็นการทำโทษผู้กระทำผิดและเชื่อว่าถ้าหากมีบทลงโทษแบบนี้ผู้คนน่าจะหันมาสนใจการไปเสียค่าปรับกันมากขึ้น 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.  gclub ทดลองเล่นฟรี