ค่าโดยสารแท็กซี่ อาจปรับขึ้นราคา หลังไม่ได้ขึ้นมานาน 8 ปี

              ประชาชนคนทำงานกำลังจะเดือดร้อนเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากว่าในขณะนี้ทางด้านกระทรวงคมนาคมได้มีการพิจารณาเรียนที่จะมีการปรับขึ้นราคาค่า

โดยสารรถแท็กซี่โดยให้เหตุผลในการปรับขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่ในครั้งนี้ว่าทางด้านการบริการของรถแท็กซี่นั้นยังไม่มีการปรับขึ้นราคาและมีการชะลอการปรับขึ้นราคามานานกว่า 8 ปีแล้วทำให้คนขับรถแท็กซี่เองก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน   

           ยิ่งในขณะนี้ปัญหาเรื่องของค่าครองชีพสูงและยังมีปัญหาเรื่องของน้ำมันแพงเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้คนขับรถแท็กซี่ไม่ได้กำไรจากการขับรถแท็กซี่ดังนั้นเพื่อต่อลมหายใจและช่วยอาชีพของคนขับรถแท็กซี่และให้คนขับรถแท็กซี่มีกำลังใจที่จะทำอาชีพนี้ต่อไปจึงจำเป็นที่จะต้องพิจารณาช่วยเหลือกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ให้มีรายได้ด้วยการปรับค่าโดยสารรถแท็กซี่นั่นเอง 

          จากการให้ข้อมูลของด้านกระทรวงคมนาคมมีการระบุว่าทางด้านกลุ่มคนขับรถแท็กซี่เองก็ได้มีการรวมตัวกันร้องเรียนมาทางกระทรวงคมนาคมเพื่อทำเรื่องขอให้ทางกระทรวงนั้นอนุญาตให้มีการปรับค่าโดยสารรถแท็กซี่ให้มากขึ้นกว่าเดิม

เนื่องจากว่าในขณะนี้ทางกลุ่มคนที่ขับรถแท็กซี่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเพราะราคาน้ำมันที่สูงขึ้นราคาแก๊สที่สูงขึ้นแต่ค่าโดยสารนั้นยังคงอยู่ในปริมาณเท่าเดิมซึ่งทำให้คนขับรถแท็กซี่นั้นแทบจะขาดทุนและไม่ได้กำไรจากการขับรถแท็กซี่ในแต่ละเที่ยวในการรับส่งผู้โดยสาร

            อย่างไรก็ตามกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ได้ออกมาร้องเรียนว่าพวกเขากำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากปัญหาค่าครองชีพและปัญหาเรื่องค่าเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น

ดังนั้นจึงอยากให้ทางด้านกระทรวงคมนาคมได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องของการอนุมัติให้มีการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารซึ่งทางด้านกระทรวงคมนาคมเองก็ได้มีการส่งเรื่องไปยังกรมการขนส่งทางบกและกลุ่มคุ้มครองผู้บริโภครวมถึงทีดีอาร์ไอเพื่อประชุมปรึกษาหารือการเกี่ยวกับเรื่องของการพิจารณาการขึ้นค่า

โดยสารรถแท็กซี่ว่าควรจะขึ้นประมาณเท่าไหร่ที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลต่างๆแต่เชื่อว่าระยะเวลาไม่นานนี้จะได้มีการประกาศเกี่ยวกับเรื่องของการปรับราคาค่าโดยสารแท็กซี่อย่างแน่นอน 

         อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้กระทรวงคมนาคมจำเป็นที่จะต้องมีการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารรถแท็กซี่นั้นมองว่าในขณะนี้มีรถแท็กซี่คอยให้บริการผู้โดยสารน้อยมากเนื่องจากว่าคนขับรถแท็กซี่ส่วนใหญ่มองเห็นว่าการขับรถแท็กซี่ไม่คุ้ม

ดังนั้นคนขับรถแท็กซี่จึงได้มีการเปลี่ยนอาชีพบางคนก็เดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเพราะสู้ค่าครองชีพในกรุงเทพฯไม่ไหว ดังนั้นกระทรวงคมนาคมจึงจำเป็นที่จะต้องมีการเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มคนขับรถแท็กซี่   อย่างไรก็ตามได้มีการลงความเห็นว่าถึงแม้ว่าจะมีการปรับเพิ่มราคาค่าโดยสารแต่ก็จะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างแน่นอน 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย   gclub

หนุ่ม โดนเจ้าหนี้กู้นอกระบบ นายจ้างกักขังและทำร้ายร่างกาย 

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ทางเพจสายไหมต้องรอดได้ออกมาโพสถึงเรื่องราวของหนุ่มรายหนึ่ง อัดวีดีโอส่งมาให้ญาติว่าโดนขังและรุมทำร้าย ใบหน้าบอบซ้ำ เต็มไปด้วยคราบเลือดอาบใบหน้า

ทางญาติของชายหนุ่มคนนี้จึงได้ร้องเรียนมาเพจสายไหมต้องรอดให้เข้าช่วยเหลือ เก็บเงินกู้โดนจับกักขังอยู่ที่ย่านลำลูกกาโดยถูกล็อคตัวกุญแจจากด้านนอกเพื่อไม่ให้ออกมาเจอผู้คนคุณเอกภพ เพจสายไหมต้องรอดหลังทราบเหตุก็ได้ไปที่เกิดเหตุณห้องพักแห่งหนึ่งแถวลำลูกกาเป็นห้องพักพอไปถึง

ก็พบชายคนนึงวัยประมาณอายุ 35 ปีเล่าเหตุการณ์ว่า ถูกนายจ้างเจ้าของเงินกู้ทำร้ายร่างกายและกักขังต้นเนื่องจากว่าเก็บเงินกู้ไม่ได้ตามยอดที่ระบุไว้ เขาก็ทำร้ายร่างกายจนบอบช้ำและเลือดเต็มหน้าซึ่งก่อนหน้านี้ทางญาติพี่น้องก็พยายามหาเงินเพื่อให้มาได้ตามยอดของนายจ้างประมาณ 80,000 กว่าบาท

แต่พอได้เงินมาแล้วนั้นทางนายจ้างก็ไม่ยอมปล่อยตนเองออกมาก็ไม่ทราบเหตุผลเหมือนกันว่าเหตุใดถึงไม่ปล่อยออกมา

และยังทำร้ายร่างกายอยู่แบบนี้ถึงขั้นกักขังตอนนี้สภาพจิตใจย่ำแย่มากไม่คิดว่านายจ้างจะทำแบบนี้กับตนแค่เก็บเงินไม่ได้ตามยอดต้องทำถึงขนาดนี้จนตอนนี้ทางญาติพี่น้องก็ต้องหาเงินไปแทนที่ที่ยืมมาจ่ายนายจ้าง 80,000 บาท และตอนนี้หวั่นเกรงถึงความปลอดภัยของตนเองและครอบครัวรอบข้างกลัวว่านายจ้างที่เป็นเจ้าหนี้จะวนมาทำร้ายครอบครัวไม่มีหนทางออกญาติพี่น้องจึงแนะนำให้มาร้องที่เพจสายไหมต้องรอด

เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือตน ทางคุณเอกภพเขตสายไหมต้องรอดได้พาตนเองไปสน. คูคตเพื่อลงบันทึกประจำวันในกรณีที่โดนนายจ้างซ้อมทำร้ายร่างกายโดยชกต่อย ขวดตีหัว และยังมีปืนออกมาขู่เพื่อจะฆ่า ตอนนี้อย่างที่แจ้งไปตนเองรู้สึกกลัวว่าทางนายจ้างนั้น

จะมารอบยิงตนเองและครอบครัว ถ้าถามว่าทำไมถึงเลือกทำงานแบบนี้มีคนแนะนำว่าหากมาทำงานแบบนี้ตามเก็บเงินกู้จะได้เป็นเงินเดือนและเปอร์เซ็นต์ของยอดที่ตามได้ซึ่งทางชายหนุ่มคนนี้ทำมาได้ 6 เดือนไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้

ทุกวันนี้ส่วนมากจะทำงานตามเงินลูกค้าที่เป็นแม่ค้าอยู่แถวย่านละแวกนี้ลำลูกกาและรังสิต งานนี้เป็นการแนะนำมาจากเพื่อนฝูงซึ่งไม่เคยเจอกับเจ้าของเงินจริงๆและครั้งนี้ที่โดนทำร้ายนั้นมีมาหลายคนซึ่งจำหน้าไม่ได้

เพราะเขามีการปิดบังใบหน้าและมีการข่มขู่ให้หาเงินมาตลอดถึงจะปล่อยแต่พอเอาเงินมาให้แล้วกลับกลายเป็นว่าไม่ได้ปล่อยตนเองออกเหมือนที่บอกไว้จนต้องร้องเพจสายไหมต้องรอด เพื่อช่วยเหลือ และตอนนี้อาการของตนเองนั้นก็ยังมีปวดหัวปวดตามร่างกายต้องเข้าไปพบแพทย์

เพื่อเช็คร่างกายอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเรื่องของคดีนั้นก็ต้องปล่อยให้เป็นของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเจรจากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและทางเจ้าหนี้ต้องชดใช้หรือจ่ายค่าเยียวยาในการรักษาจิตใจครั้งนี้ด้วยคิดว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ

 

สนับสนุนโดย  gclub

นักแสดงชาวเกาหลี แจ้งจับสามีต่างวัย ข้อหาพยายามฆ่า 

          นักแสดงชาวเกาหลี  เมื่อวันที่ 14 เดือนมิถุนายน  ปี พ.ศ. 2565 เว็บไซต์ชื่อดังของประเทศเกาหลีได้มีการเปิดเผยเหตุการณ์ระทึกขวัญซึ่งเกิดขึ้นกับดาราสาวชาวเกาหลีวัย 40 กว่าปี

  โดยดาราสาวรายนี้ ถูกทำร้ายที่บริเวณล็อบบี้ของอพาร์ตเมนต์ ของตัวเธอเองในช่วงเวลา 8:40 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ดาราสาวกำลังจะเดินทางออกจากอพาร์ทเม้นท์ส่วนตัวเพื่อไปทำธุระ 

          อย่างไรก็ตามคนร้ายได้มาข้างหลังแล้วใช้มีดแทงไปที่บริเวณลำคอของเธอซึ่งทำให้ดาราสาวรายนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับอพาร์ทเม้นท์ของเธอโดยในขณะนี้ดาราสาวคนดังกล่าวอยู่ในระหว่างการรักษาตัวซึ่งเบื้องต้นทางโรงพยาบาลแจ้งมาว่าอาการปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแล้ว          

        อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้นั้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจสอบพบว่าอพาร์ทเม้นท์ของดาราสาวคนดังกล่าวอยู่แถวบริเวณย่าน อิแทวอน    เขตยงซาน  กรุงโซล   และคนร้ายที่บุกเข้ามาทำร้ายดาราสาวถึงในล็อบบี้ของอพาร์ทเม้นท์นั้นไม่ใช่คนอื่นไกลแต่เป็นสามีหนุ่มซึ่งเป็นสามีต่างวัยของดาราสาวคนดังกล่าวนั้นเอง 

         ตามรายงานข่าวไม่ได้ระบุว่าดาราสาวที่ถูกสามีต่างวัยบุกแทงจนได้รับบาดเจ็บนั้นชื่อว่าอะไรแต่ถูกระบุในสื่อต่างๆออกมาว่าดาราหญิงรายนี้มีอายุ 40 กว่าปี

ในขณะที่สามีของเธอนั้นอายุ 30 กว่า ปี ซึ่งเป็นคู่รักต่างวัยที่ชาวเกาหลีรู้จักกันดี สำหรับสาเหตุที่เกิดคดีทำร้ายร่างกายกันนั้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า  ทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะกันและได้มีการแยกกันอยู่โดยฝ่ายหญิงนั้นได้มีการแจ้งขอสิทธิ์การคุ้มครองจากศาลไม่ให้สามีหนุ่มเข้าใกล้ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีคดีทำร้ายร่างกายกันมาก่อน

         อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะมาดักรอซุ่มเพื่อรอเจอภรรยาของตนเองและเมื่อเห็นภรรยาออกมาจากบริเวณล็อบบี้จึงได้นำมีดที่พกติดตัวมาแพงไปที่บริเวณลำคอของภรรยาของตนเองทันทีหลังจากที่เห็นว่าทำร้ายภรรยาของตนเองเสร็จแล้ว

ชายหนุ่มก็พยายามที่จะฆ่าตัวตายตามแต่พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือและส่งโรงพยาบาลจนในขณะนี้คนร้ายฟื้นสติและสามารถให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แล้ว  เบื้องต้นในขณะนี้ดาราสาวได้แจ้งความดำเนินคดีกับสามีต่างวัยของตนเองในข้อหาพยายามฆ่า   

           อย่างไรก็ตามสื่อเกาหลีได้มีการระบุว่าดาราสาวที่ถูกสามีต่างวัยทำร้ายนี้เคยเป็นนางแบบและเคยเป็นนักร้องมาก่อนก่อนที่วงของเธอนั้นจะถูกยุบหลังจากนั้นเธอก็ผ่านตนเองจากนักร้องมาเป็นนักแสดงซึ่งปัจจุบันนั้นเธอก็ยังคงเป็นนักแสดงอยู่

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย   gclub

หน่วยงานราชการจ้างหมอรำ แสดงจ่ายค่าจ้างเพียง 500 บาท ทำเอาหมอลำอึ้ง

         หน่วยงานราชการจ้างหมอรำ  เป็นกระแสดราม่าร้อนแรงในโลกออนไลน์เป็นอย่างมากเมื่อหัวหน้าวงหมอลำ วงหนึ่งได้ออกมาโพสต์ต่อว่าหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งผ่านทาง Social Media

โดยมีการโพสต์เรื่องราวเอาไว้เมื่อวันที่ 6 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2565 ซึ่งหัวหน้าวงหมอลำคนดังกล่าวระบุว่าตัวเขาและทีมงานของเขานั้นมีด้วยกันทั้งหมด 7 คนถูกหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งซึ่งเป็นหน่วยงานราชการใหญ่ประจำจังหวัดขอนแก่นได้มีการติดต่อขอว่าจ้างให้ไปทำการแสดงในงานแห่งหนึ่ง  

      อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นนั่นก็คือหลังจากที่ทางบกวงหมอลำได้ทำการแสดงจบแล้วและเตรียมที่จะเดินทางกลับจึงได้มีการติดต่อขอรับเงินค่าจ้างปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการดังกล่าวได้มีการจ่ายเงินค่าจ้างเพียงแค่ 500 บาทเท่านั้นซึ่งทำให้หัวหน้าวงหมอลำนั้นค่อนข้างไม่พอใจเป็นอย่างมากโดยมองว่าการจ่ายเงินเพียง 500 บาทนั้นเป็นการดูถูกอาชีพหมอลำเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

         นอกจากนี้สถานที่ในการจัดงานนั้นก็เป็นถึงหน่วยงานราชการขนาดใหญ่ประจำจังหวัดไม่น่าจะมีการจ่ายเงินค่าการแสดงให้กับวงหมอลำเพียงเท่านี้เพราะวงหมอลำเองนั้นก็มีการพาทีมงานไปแสดงเป็นจำนวนมากซึ่งทางด้านหัวหน้าวงหมอลำมองว่าการจ่ายเงินแค่ 500 บาทนั้นถือว่าเป็นการดูถูกอาชีพของพวกเขาเป็นอย่างมากและเป็นการดูถูกศักดิ์ศรีของพวกเขามากเช่นกัน

            ดังนั้นพวกเขาจึงได้มีการปฏิเสธที่จะรับเงินค่าจ้างเพียง 500 บาทเท่านั้นอย่างไรก็ตามปรากฏว่าถึงแม้ว่าเขาจะรับไม่รับเงินสดมาแต่ปรากฏว่าทางหน่วยงานราชการก็ได้มีการโอนเงินมาให้เขา

ผ่านทางบัญชีเป็นจำนวนเงิน 500 บาทยิ่งทำให้หัวหน้าวงหมอลำเดือดดาลเป็นอย่างมากจึงได้มีการโพสต์ผ่านทางหน้า Facebook ส่วนตัวของตนเองด้วยถ้อยคำค่อนข้างหยาบคายยืนยันว่าเงิน 500 บาทนั้นพวกเขาไม่ขอรับและพวกเขาจะโอนเงินกลับคืนให้กับหน่วยงานราชการดังกล่าวซึ่งให้ทางหน่วยงานราชการเอาเงินดังกล่าวนั้นไปซื้ออาหารสุนัขเอาไว้เลี้ยงสุนัขจรจัดที่มาอาศัยอยู่หน้าบริเวณหน่วยงานราชการนั้นแทน 

          อย่างไรก็ตามหลังจากข้อความถูกโพสต์และมีการใช้เอาไปทำให้คน Social ต่างก็พากันตกใจมากเกี่ยวกับเรื่องของราคาค่าจ้างที่หน่วยงานราชการได้มีการจ่ายค่าจัดการแสดงให้กับวงหมอลำเพราะเงินจำนวน 500 บาทนั้นถือว่าน้อยมากๆในการจ้างงานวงดนตรีวงนึงไปจัดแสดง  นอกจากนี้ยังมีคนในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก

ที่มีการแนะนำว่าก่อนที่จะมีการรับเงินค่าจ้างไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการหรือที่ไหนก็ตามแต่ควรจะต้องมีการตกลงราคากันให้เรียบร้อยก่อนเดินทางไปแสดงเพื่อที่จะได้ป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องของราคาเหมือนกับเหตุการณ์ในครั้งนี้

 

สนับสนุนโดย    gclub

ศาลพิพากษาแล้วคดีล่อซื้อกระทงติดลิขสิทธิ์ที่โคราชเมื่อปีที่แล้ว

         เชื่อว่าหลายคนคงยังจำเหตุการณ์ที่มีเด็กหญิงอายุ 15 ปีคนหนึ่งได้มีการประกาศทำกระทงขายใน Facebook ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงซึ่งหลังจากนั้นเธอได้ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมโดยมีชายหญิงคู่หนึ่งไปแจ้งความดำเนินคดีกับเธอด้วยข้อหาทำกระทงละเมิดลิขสิทธิ์

       ซึ่งในตอนนั้นมีการศึกษาเราเรื่องกันจนพบว่าชายหญิงดังกล่าวที่เป็นคนไปแจ้งความให้ตับเด็กหญิงอายุ 15 ปีนั้นได้เป็นคนติดต่อเด็กหญิงวัย 15 ปีให้ทำกระทงไปขายให้โดยสั่งในปริมาณที่ค่อนข้างสูงและยังกำหนดไว้ว่ากระทงที่ต้องการนั้นเป็นกระทงรูปการ์ตูนลายลิขสิทธิ์ หลังจากนั้นก็มีการโอนเงินค่ามัดจำให้กับหญิงสาววัย 15 ปีเร่งเงินเพียง 200 บาทเท่านั้นและเมื่อทำกระทงเสร็จเรียบร้อยมีการพับกระทงกันปรากฏว่าหญิงชายคู่นั้นได้มีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมเด็กวัย 15 ปี

        ในที่สุดก็นำมาซึ่งการสอบสวนเนื่องจากว่าเด็กหญิงวัย 15 ปียืนยันว่าชายหญิงที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับเธอนั้นเป็นคนสั่งให้เธอทำกระทงแบบผิดลิขสิทธิ์เอง   และเมื่อมีการขยายผลไปจึงพบว่าชายหญิงดังกล่าวนั้นทำเป็นขบวนการและทำมาหลายครั้งแล้วโดยหลอกลวงให้คนทำกระทงตัวการ์ตูนที่ติดลิขสิทธิ์หลังจากนั้นก็แจ้งความจับเพื่อต้องการได้เงิน   โดยทั้งคู่ได้เรียกร้องเงินจากผู้ปกครองของเด็กหญิงวัย 15 ปีเป็นจำนวน 5,000 บาทเพื่อไม่ต้องการให้เป็นคดีความ  และทั้งคู่ยืนยันว่าถ้าหากได้รับเงิน 5,000 บาทแล้วจะไม่ให้เด็กหญิงติดคุกอย่างแน่นอนจึงทำให้ผู้ปกครองของเด็กหญิงชำระเงิน 5,000 บาทให้

  จากนั้นทางด้านผู้ปกครองของเด็กหญิงจึงได้แจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีในข้อหาแอบอ้างเป็นตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์และข่มขู่เพื่อเอาเงินทองจากเด็กหญิงวัย 15 ปี ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา 

          อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้หญิงชายคู๋ดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีทัน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ผ่านมาได้ 1 ปีแล้วอย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 29 เดือนตุลาคมปีพศ2563

ศาลพิพากษาชั้นต้นได้มีการประกาศผลการพิพากษาคดีนี้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วยืนยันว่าชายหญิงที่ก่อคดีตับลิขสิทธิ์เพื่อที่ต้องการจะกรรโชกเงินจากเด็กหญิงวัย 15 ปีนั้นมีความผิดตามกฎหมายซึ่งจะต้องถูกจำคุก  โดยรวมระยะเวลาทั้งคู่แล้วอยู่ระหว่างประมาณ 2-3 ปีและกัน

          อย่างไรก็ตามแต่ทางด้านผู้ต้องหาเองขณะนี้ได้มีการขอยื่นเรื่องประกันตัวเองออกไปเพราะต้องการที่จะสู้คดีนี้   ซึ่งคดีนี้นับได้ว่าเป็นคดีตัวอย่างที่ศาลควรจะสั่งเอาผิดผู้ต้องหาให้ได้ เพื่อที่จะได้ไม่มีใครทำเลียนแบบนั่นเอง 

          

สนับสนุนโดย  gclub