อดีต สห. มาตามเมีย ชัด.38 ยิงพ่อตาดับคา เหตุถูกห้ามเข้าบ้าน

         เมื่อวันที่ 13 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2565 ช่วงเวลาประมาณ สามทุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจสภเมืองเลยของจังหวัดเลยได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง

ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านป่าหมาก  หลังจากรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ประสานงานกู้ภัยและถ้าจากทางโรงพยาบาลได้ยังทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุทันที 

     สำหรับบ้านที่เกิดเหตุนั้นเป็นบ้าน 2 ชั้นซึ่งจุดที่มีคนถูกยิงเสียชีวิตนั้นอยู่ชั้นล่างโดยเสียชีวิตอยู่บริเวณตรงห้องรับแขกและเป็นเจ้าของบ้านอีกด้วยโดยผู้เสียชีวิตนั้นอายุ 72 ปีถูกยิงด้วยกระสุนปืนจำนวนทั้งหมด 3 นัดด้วยกันโดยกระสุนปืนยิงเข้าที่บริเวณใบหน้าลำคอและศีรษะเป็นอาวุธที่ใช้ยิงนั้นเป็นปืนสั้นขนาดจุด 38    อย่างไรก็ตามใกล้กับศพของผู้เสียชีวิตนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบปืนแก๊ปตกอยู่ 

          จากการตรวจสอบข้อมูลผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าคนที่ก่อเหตุยิงชายชราวัย 72 ปีจนเสียชีวิตนั้นเป็นลูกเขยของชายชราเองเป็นอดีต สห. ส่วนสาเหตุของการยิงพ่อตา จนเสียชีวิตนั้น เนื่องมาจากผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นลูกเขยมักจะทำร้ายตบตีภรรยาของตนเองเป็นประจำทำให้พ่อตาไม่ค่อยพอใจที่ลูกสาวของตัวเองถูกทำร้าย จึงแนะนำให้ลูกสาวเลิกกับสามี 

          หลังจากที่ลูกสาวของผู้เสียชีวิตทนพฤติกรรมของสามีอยู่นาน แต่ไม่ดีขึ้นจึงได้ตัดสินใจแยกกันอยู่ เพราะว่าถูกสามีทำร้ายอย่างหนัก 

อดีต สห. มาตามเมีย ชัด.38 โดยฝ่ายหญิงนั้นได้หลบหนีย้ายไปอาศัยอยู่ที่อื่นแต่ยังไม่ได้มีการจดทะเบียนหย่ากับสามีของตนเอง 

        อย่างไรก็ตามทางด้านลูกเขยนั้นเชื่อว่าภรรยากลับมาอาศัยอยู่กับพ่อของตนเองจึงได้พยายามกลับมางอนง้อขอคืนดีแต่ก็ถูกพ่อตาปฏิเสธไม่ให้เข้าบ้านซึ่งเป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง  ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจที่ถูกพ่อตาเกลียดกัน จนกระทั่งวันเกิดเหตุนั้นช่วงเวลาประมาณสามทุ่ม ปรากฏว่าลูกเขยได้เดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าวอีกรอบนึง

         เมื่อลูกเขตเดินทางมาถึงที่หน้าบ้านก็เจอกับพ่อตาที่ไม่ยอมให้เข้าบ้านก็ไม่พอใจจึงได้เกิดการทะเลาะกันหลังจากนั้นตัวลูกเขยเองก็ได้ใช้อาวุธที่พกมายิงไปที่พ่อตาในขณะที่พ่อตาเองนั้นก็ถือปืนแก๊ปอยู่ด้วยแต่ยังไม่ทันได้ยิงลูกเขยยิงเสียก่อนทำให้พ่อตาเสียชีวิต    หลังจากยิงพ่อตาของตนเองเสร็จเรียบร้อยแล้วลูกเขยปืนโหดก็ได้หลบหนีไปยังจุดเกิดเหตุทันทีพร้อมกับอาวุธปืนซึ่งชาวบ้านเองก็ไม่เห็นว่าหนีไปทางไหนเนื่องจากว่าเป็นช่วงเวลากลางคืนและมืดมาก 

         อย่างไรก็ตามในวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุซึ่งยังมีศพของชายชราอยู่บริเวณชั้นร่างของตัวบ้านนั้นปรากฏว่าไม่พบลูกสาวของชายชราซึ่งคาดว่าอาจจะยังไม่ทราบว่าพ่อของตนเองนั้นถูกสามีของตนเองยิงเสียชีวิตไปแล้ว 

           

ได้รับการสนับสนุนโดย    สล็อต ufabet เว็บตรง

สาวงง ถูกไล่ออกจากงานเพราะเลิกงานตรงเวลา 

    สาวงง ถูกไล่ออกจากงาน  มีการเปิดเผยเรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่งผ่านทางเว็บไซต์ของ CT want ซึ่งหญิงสาวรายนี้เป็นหญิงสาวนามสกุลหวังเรื่องราวของหญิงสาวนามสกุลหวังนี้

ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 4 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ 2566 โดยหญิงสาวรายนี้อาศัยอยู่ในนครเชียงรายประเทศจีน ตามรายงานของทางเว็บไซต์CT want  ระบุว่า หญิงสาวสกุลหวังรายนี้ได้เข้าทำการสมัครงานที่บริษัทโฆษณาแห่งหนึ่งและอยู่ในช่วงของการทดลองการทำงานอย่างไรก็ตามนางสาวสกุลหวังทำงานในบริษัทดังกล่าวเป็นระยะเวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นปรากฏว่าทางบริษัทได้ไล่นางสาว สกุลหวังออกจากงาน

โดยให้เหตุผลในการไล่พนักงานออกในครั้งนี้ว่าฤกษ์งานตรงเวลาทุกวันซึ่งแน่นอนว่าทางบริษัทนั้นมองว่า การที่นางสาวสกุลหวังเลิกงานตรงเวลาทุกวันทำให้บริษัทสูญเสียผลประโยชน์และนางสาวสกุลหวังเองก็ไม่ได้เห็นแก่ประโยชน์ของบริษัทแต่อย่างใด 

 ตามการรายงานข่าวมีการเปิดเผยว่านางสาวสกุลหวังได้ปฏิบัติหน้าที่ในบริษัทโฆษณาดังกล่าวในวันที่ 27 เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ 2566 เป็นวันแรกโดยเวลาเข้างานของนางสาวสกุลหวังนั้นจะอยู่ที่เวลา 9:30 น จนถึงเวลา 18:30

อย่างไรก็ตามนางสาวสกุลหวังเลิกงานในช่วงเวลา 18.34 นาทีโดยนางสาวสกุลหวังได้ระบุว่าเธอได้มีการสอบถามไปยังหัวหน้างานของเธอด้วย

การส่งข้อความไปว่ามีงานอะไรให้ เธอทำอีกหรือไม่แต่ปรากฏว่าทางหัวหน้างานไม่ได้มีการตอบอะไรกลับมาทำให้นางสาวสกุลหวังทำการเลิกงานทันที นอกจากนี้ในการปฏิบัติหน้าที่วันที่ 2 นั้นปรากฏว่านางสาวสกุลหวังก็ได้มีการส่งข้อความไปสอบถามทางหัวหน้างานเช่นเดิมหลังจากที่หมดช่วงเวลาของการทำงานโดยมีบันทึกข้อความว่ามีการส่งข้อความถามหัวหน้างานในช่วงเวลา 18.33 น.

แต่ทางหัวหน้างานก็ไม่มีการตอบกลับมาเหมือนเดิมทำให้นางสาวสกุลหวังเลิกงานเช่นเดิมจนสุดท้ายในวันที่ นางสาวสกุลหวังก็ยังคงส่งข้อความไปสอบถามหัวหน้างานเหมือนเดิมและเลิกงานตรงเวลาเช่นเดิมทำให้ในวันต่อมาทางด้านหัวหน้างานได้มีการเรียกนางสาวสกุลหวังเข้าไปพูดคุยและกล่าวตำหนิติเตียน นอกจากนี้หัวหน้างานยังได้ไล่นางสาวสกุลหวังออกจากงานโดยให้เหตุผลว่าละทิ้งหน้าที่โดยอ้างว่านางสาวสกุลหวังส่งข้อความมาสอบถามหัวหน้างานยังไม่ทันมีการมอบหมายงานนางสาวสกุลหวังก็ออกจากบริษัทไปแล้ว 

  สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับนางสาวสกุลหวังเป็นอย่างมากเพราะเธอนั้นได้มีการสอบถามทางหัวหน้างานแต่เมื่อไม่มีงานให้เธอทำเธอคิดว่าเธอสามารถเลิกงานได้ตามปกติดังนั้นเธอจึงได้มีการเข้าร้องเรียนต่อสำนักงานอนุญาโตตุลาการโดยหวังว่าเหตุการณ์ที่เธอถูกบริษัทไล่ออกจากงานนั้นบริษัทจะต้องมีการจ่ายเงินชดเชยให้กับเธอ 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    สล็อต ufabet เว็บตรง

แม่หอบลูก 6 ขวบหนีตายข้ามจังหวัด  หลังสามี คลั่งยา กลางดึก 

แม่หอบลูก 6 ขวบหนีตายข้ามจังหวัด เมื่อวันที่ 24 เดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2565   มีการเปิดเผยมาจากครูโรงเรียนบ้านค้อดอนแคน จังหวัดอุดรธานี   ว่าพบหญิงสาวและเด็กชายวัย 6 ขวบ

ซึ่งทั้งคู่นั้นเป็นแม่ลูกกันได้ขี่รถข้ามจังหวัดมาขอความช่วยเหลือ  โดยหญิงสาวรายนี้ได้พาลูกขี่รถมอเตอร์ไซค์มาตั้งแต่วันที่ 23 เดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2565 ซึ่งขับรถมาถึงที่จังหวัดอุดรธานีช่วงเวลาประมาณ 20:30 น.โดยจากการสอบถามเบื้องต้นพบว่าหญิงสาวรายนี้ได้พาลูกหลบหนีสามีของตนเองมาจากจังหวัดสกลนคร  โดยใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 40 กม. จึงมาถึงโรงเรียนบ้านค้อดอนแคน  รายได้ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน 

          อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการพูดคุยกับหญิงสาวคนดังกล่าวระบุว่าเธออายุ 41 ปีอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านบ้านบงเหนืออำเภอสว่างแดนดิน   โดยเธอมีสามีและลูกชายวัย 6 ขวบ อย่างไรก็ตามสาเหตุที่เธอพาลูกขี่รถมอเตอร์ไซค์หนีข้ามจังหวัดมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านนั้นเนื่องจากว่าเธอต้องการหนีจากสามีของเธอเพราะถูกสามีทำร้ายร่างกายเป็นประจำ 

โดยสามีของเธอนั้นติดยาเสพติดเมื่อเสพยาก็จะมีอาการคุ้มคลั่งหลังจากนั้นก็มักจะใช้ไม้ใช้กำปั้นทุบตีตามตัวและตามร่างกายของเธอซึ่งส่วนใหญ่แล้วสามีของเธอนั้นไม่ทำงานแต่จะมักจะขอเงินจากเธอเพื่อทำการไปซื้อยาบ้ามาเสพและเมื่อเธอไม่ยอมให้เงินก็จะถูกสามีทำร้ายร่างกายโดยสามีมักจะอ้างกับเธอเป็นประจำว่าที่ทำร้ายร่างกายเธอนั้นเพราะว่าเธอนั้นปันใจไปมีผู้ชายคนอื่น

        อย่างไรก็ตามในวันเกิดเหตุนั้นสามีของเธอก็มาทำร้ายร่างกายเธออีก ดังนั้นเธอจึงได้เก็บเสื้อผ้าบางส่วนแล้วพาลูกแอบขี่รถมอเตอร์ไซค์หลบหนีออกจากบ้านในช่วงที่สามีของเธอ

กำลังเสพยาอยู่กับเพื่อนซึ่งในขณะที่เธอขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกมานั้นเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะพาลูกไปไหนเธอจึงขับรถมาตามทางเรื่อยๆ โดยอาศัยแสงไฟริมถนนนำทางจนขับรถมาถึงโรงเรียนบ้านค้อดอนแคนซึ่งขณะที่เดินทางมาถึงที่โรงเรียนกำลังมีการจัดงานมีชาวบ้านและคุณครูเต็มไปหมดดังนั้นเธอจึงได้จอดรถขอความช่วยเหลือและเล่าเหตุการณ์ต่างๆให้ทุกคนฟัง  

         อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ยืนยันว่าเธอจะไม่ยินยอมกลับไปอยู่กินกับสามีของเธออย่างเด็ดขาดเธอต้องการพาลูกออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่เพราะเธอไม่อยากอยู่กับสามีที่ทำร้ายร่างกายเธอทุกครั้งที่เกิดอาการคลั่งยาเธอกลัวว่าในอนาคตเธอกับลูกจะไม่สามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้ซึ่งในขณะที่เล่าเรื่องราวให้ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังหญิงสาวรายนี้ก็ร้องไห้ไปด้วย

         เบื้องต้นชาวบ้านให้ความช่วยเหลือโดยให้พักอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยและได้มีการประสานงานไปยังหน่วยงานของรัฐให้เข้ามาช่วยเหลือดูแลแม่ลูกคู่นี้แล้ว 

 

สนับสนุนโดย    สล็อต ufabet เว็บตรง

ไรเดอร์หัวร้อนขี่รถจักรยานยนต์ชนคนบนทางเท้า  ไม่ขอโทษ แถมกระทืบซ้ำ 

    ไรเดอร์หัวร้อนขี่รถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์ปีพศ. 2565 ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวีดีโอเป็นคลิปที่ระบุว่า Rider หัวร้อนโดยในคลิปจะเห็นได้ว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นบนบริเวณทางเท้า

ซึ่งเป็นอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ชนคนที่เดินอยู่บนทางเท้าโดยจะเห็นได้ว่าคนที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์นั้นแต่งชุดพนักงานส่งอาหารของบริษัทที่มีชื่อเสียงดังแบรนด์หนึ่ง  อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในคลิปมีการรุนแรงขึ้นเมื่อมีเสียงตะโกนออกมาจากทางไรเดอร์ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ด่าทอคนบนทางเท้าหลังจากนั้นก็มีภาพไรเดอร์หนุ่มกำลังกระทืบชายเคราะห์ร้ายที่ถูก Rider ขับมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชน

       อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ได้ไม่นานปรากฏว่าเจ้าของคลิปที่นำมาแชร์และเป็นคนเดียวกันกับที่ถูก Rider ทำร้ายร่างกายนั้นได้มีการนำคลิปนี้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจสนสายไหมโดยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเขาได้เดินทางไปซื้อสินค้าเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าร้านดังกล่าวนั้นอยู่ตรงบริเวณริมถนนตรงปากซอยสายไหม 78 หลังจากที่เขาซื้อของเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาซึ่งยังอยู่บนทางเท้า

            อย่างไรก็ตามในจังหวะนั้นเองมีรถมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านมาบนทางเท้าและวิ่งมาด้วยความเร็วทำให้เขาหลบไม่ทันเกิดถูกมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวที่บริเวณแขนหลังจากที่ถูกเฉี่ยวแล้วแทนที่มอเตอร์ไซค์จะขอโทษปรากฏว่าคนขี่รถมอเตอร์ไซค์กับตะโกนด่าเขาว่าไม่ดูทาง

ซึ่งตัวเขาเองนั้นก็ไม่พอใจเพราะนอกจากถั่วเขียวแล้วยังถูกต่อว่าจึงได้มีการโต้ตอบกลับไปทางด้านคนขี่มอเตอร์ไซค์ไม่พอใจได้จอดรถแล้วลงมาทำร้ายร่างกายเขาด้วยการกระทืบจนเขาได้รับบาดเจ็บหลังจากนั้นคนขี่รถมอเตอร์ไซค์จึงได้ขับรถมอเตอร์ไซค์หลบหนีไป

        เบื้องต้นนั้นชายผู้โชคร้ายได้ขอคลิปจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านอุปกรณ์ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าจะเห็นได้ว่าคนขี่รถมอเตอร์ไซค์นั้นเป็นพนักงาน Rider ทางผู้เสียหายจึงต้องการที่จะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมชายในคลิปเพื่อมาดำเนินคดีพร้อมกับยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด 

       อย่างไรก็ตามหลังจากที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจช่วงประมาณ 16:00 น  ต่อมาในช่วงเวลาประมาณ 17:00 นคนขี่รถมอเตอร์ไซค์ซึ่งปรากฏภายในคลิปนั้นก็ได้มีการติดต่อไปที่สนสายไหมพวกเขามอบตัว    สล็อต ufabet เว็บตรง     โดยให้เหตุผลว่าตอนที่ทำนั้นเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบและตอนนี้รู้สึกผิดแล้ว  สำหรับชายที่ขี่มอเตอร์ไซค์ในคลิปนั้นอายุเพียงแค่ 20 ปีเท่านั้น

      อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องนี้เมื่อมีการถูกเปิดเผยว่าชายที่ขี่มอเตอร์ไซค์ในคลิปนั้นเป็นใครและทำงานอยู่ที่ไหนปรากฏว่าบริษัทที่ Rider รายนี้ทำงานอยู่ได้มีการตัดสิทธิ์ไม่ให้เป็นพนักงานทันทีทำให้เหตุการณ์ในครั้งนี้ส่งผลทำให้เขาตกงานทันทีเช่นเดียวกัน 

สาวโพสต์ร้องเรียนหลังเข้าร้านทำผม ถูกรีดเงินไปหมื่นกว่าบาท 

         ถูกรีดเงินไปหมื่นกว่าบาท   เว็บไซต์ของประเทศมาเลเซีย ได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งผ่านทางเว็บเมื่อวันที่ 15 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2565

  โดยเรื่องราวที่นำมาเปิดเผยนั้น ทางครอบครัวดังกล่าวได้มีการโพสต์ลงโซเชียล เพื่อเป็นการเปิดเผยสิ่งที่ครอบครัวของพวกเขาได้เจอมา เกี่ยวกับกลโกงของช่างทำผม  ซึ่งหลังจากที่ชาวโซเชียลได้พากันอ่านโพสต์ดังกล่าว ต่างก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมายจนทำให้เว็บไซต์ Moretify  จำเป็นที่จะต้องนำมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ซ้ำอีกครั้งหนึ่งนั่นเอง 

       สำหรับเรื่องราวที่มีการเปิดเผยนะดอกถูกว่ามีครอบครัวหนึ่งซึ่งมีพ่อและแม่และลูกชายรวมทั้งสิ้น 3 คนด้วยกันได้พากันเดินทางไปที่ร้านตัดผมแห่งหนึ่ง โดยทั้งสามคนเดินเรือเข้าไปใช้บริการทำผม   ซึ่งผู้เป็นพ่อนั้นก็ทำการตัดผมรวมถึงลูกชายเองก็ตัดผมเช่นเดียวกันส่วนผู้เป็นแม่นั้นจะใช้บริการเยอะกว่าเพราะมีการทำสีผมด้วยซึ่งจะต้องมีการฟอกสีผมและบำรุงผมให้นุ่มด้วยการทำทรีทเม้นต์   นอกจากนี้ยังมีการตัดแต่งทรงผม

           อย่างไรก็ตามหลังจากที่บิลค่าบริการออกมาปรากฏว่าทางร้านค้ามีการเรียกเก็บครอบครัวดังกล่าวเป็นเงินเกือบ 20,000 บาทเลยทีเดียวทำให้ทั้ง 3 คนนั้นถึงกับพูดไม่ออก  ซึ่งในบิลใบแจ้งที่ทางร้านทำผมได้มีการส่งเรียกเก็บนั้นระบุว่าการตัดผมของลูกชายและคนเป็นพ่อนั้นอยู่ที่ประมาณ 500 บาทหรือประมาณ 60 ริงกิตเพียงเท่านั้น  

แต่ยอดค่าใช้จ่ายที่สูงนั้นเป็นของทางผู้เป็นแม่ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1628 ริงกิตหรือถ้าหากคิดเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ประมาณ 13,000 บาททำให้เมื่อค่าใช้จ่ายทั้ง 3 คนรวมกันยอดจึงเท่ากับ 2193 ริงกิตหรือถ้าคิดเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ประมาณ 18,000 บาทนั่นเอง 

          นอกจากนี้ในใบรายการที่ทางร้านทำผมได้มีการแจ้งเรียกเก็บนั้นมีการเรียกเก็บค่าออกแบบทรงผมอีกด้วยซึ่งทางครอบครัวผู้เสียหายมองว่าค่าใช้จ่ายต่างๆเหล่านี้แพงมากจนเกินไปทั้งที่สภาพผมหลังจากที่มีการตัดออกมาหรือทำสีผมออกมาแล้วก็ไม่ได้ดีเท่ากับราคาที่มีการเรียกเก็บซึ่งครอบครัวที่ได้รับความเสียหายนี้มองว่าร้านมีการเรียกเก็บเงินไม่เหมาะสมกับสภาพผมที่ทำออกมาให้ดังนั้นจึงได้มีการโพสต์ผ่านทางโซเชียลเพื่อประจานร้านค้าในขณะเดียวกันก็ได้มีการส่งเรื่องไปร้องเรียนยังหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

         อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของคนในโซเชียลเป็นอย่างมาก  เนื่องจากว่าบางคนนั้นมองว่าทางร้านมีการเอารัดเอาเปรียบลูกค้ามากจนเกินไป เพราะค่าบริการที่ค่อนข้างแพง    สล็อต ufabet เว็บตรง    แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีชาวโซเชียลบางคนมองว่าส่วนใหญ่ทางร้านจะมีการเขียนราคาเอาไว้แล้วว่าค่าบริการ

แต่ละอย่างนั้นเท่าไหร่หรือถ้าหากว่าไม่ทราบควรจะต้องมีการสอบถามราคาก่อนที่จะทำผม ซึ่งเรื่องนี้ชาวโซเชียลยังคงต้องรอผลการตรวจสอบจากหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคว่าสุดท้ายแล้วทางร้านค้าจะผิดหรือทางลูกค้าที่ถูกเอารัดเอาเปรียบนั้นจะเป็นฝ่ายผิดกันแน่