พบผู้หญิงนอนเสียชีวิต ร่างกายมีแต่รอยบาดแผล  ไม่สวมเสื้อผ้า

พบผู้หญิงนอนเสียชีวิต ชาวบ้านพบหญิง วัย 55 ปี นอนเปลือยเสียชีวิต ร่างกายเต็มไปด้วยรอยกัด รอยซ้ำทั้งตัว แต่ไม่พบตัวสามีของหญิงสาวคนนี้ นอนสภาพน่าจะเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน มีทั้งน้ำเหลืองไหลเต็มที่นอน  แต่กลับไม่พบสามีคาดว่าจะเป็นการฆ่าภรรยาตัวเอง แล้วหนีไป  

ชาวบ้านใกล้เคียงยังยืนยันเสียงเดียวกันว่าทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกันบ่อย  กินเหล้าเมาทั้งคู่ เคยเข้าไปช่วยแล้วแต่กลับโดนด่าทอ ยุ่งเรื่องครอบครัว   

สถานที่ที่เกิดเหตุพบบ้านหลังหนึ่ง  ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ จ.บุรีรัมย์  พบศพ นางกมลา หรือ แดง   เป็นเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุนี้ นอนเสียชีวิตบนที่นอน  สภาพนอนหงายไม่สวมเสื้อผ้า มีแต่ผ้าห่มคลุมตัวไว้ ภายในบ้านไม่พบการรื้อค้นเลยสักจุด ร่างกายของผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเบื้องต้นพบหนอนมาเจาะบริเวณลำคอ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณไม่กี่วันที่ผ่านมา  

แล้วบริเวณปากและแก้มพบร่องรอยของการถูกกัด จนเป็นรอยจุดช้ำเลือด  อีกทั้งตามลำตัวหลายจุด เห็นรอยฟันมนุษย์กัดเห็นชัดเจน เขียวช้ำเป็นจุด ตามลำตัว  และอวัยวะเพศยังพบร่องรอยของการมีเพศสัมพันธ์ด้วย

ตำรวจได้นำร่างไปชันสูตรต่อตามกระบวนการกฎหมายและเตรียมออกหมายจับสามีของผู้เสียชีวิตตกเป็นผู้ต้องสงสัยรายแรก หนีหายไปหลังจากเกิดเหตุ ได้อยู่กินกันมาประมาณ 5 ปี หายตัวไปพร้อมจักรยานยนต์ซาเล้งคู่ใจไปด้วยยังติดต่อตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้ ได้ติดต่อสอบถามตัวลูกสาวของผู้เสียชีวิต เสียใจมากที่ต้องเสียแม่ไปเพราะความรุนแรงของผู้ชายคนนี้

ที่ไม่เคยเรียกมันว่าพ่อเลยสักครั้ง ทุกครั้งที่บ้านมันก็ไม่ได้ทำร้ายแม่แต่อย่างใด สงสัยคงกลัว แต่พอเรากลับไปทำงาน มันกินเหล้าเมาแล้วชอบมาทะเลาะกับแม่ ชาวบ้านแถวนี้เห็นทุกวัน 

ขณะที่เพื่อนบ้านอีกคนที่อยู่ติดกัน เล่าเหตุการณ์ว่าที่ผ่านมาเห็นทั้งสองตีกันทุกวันตั้งแต่เช้าถึงเย็น ส่วนมากจะเมาทั้งคู่ แต่ฝ่ายหญิงไม่เคยปริปากบ่น

และหากใครเข้าช่วยหรือคอยบอกคอยเตือนไม่ได้เลย จะโดนผู้ชายสวนกลับว่าครอบครัวใครครอบครัวของเขาอย่างมายุ่ง  เหมือนฝ่ายหญิงยอมทนให้มันทำร้าย เลยจำเป็นต้องปล่อยเลยตามเลย   และอีกอย่างบ้านหลังนี้ปกติจะไม่ค่อยสุงสิงกับเพื่อนบ้านเลย จะชอบอยู่แบบโดดเดี่ยว หารับจ้างทั่วไป  และทั้งสองยังชอบดื่มเหล้าทั้งคู่ 

แต่ช่วงสองวันนี้ ตนไม่เห็นนางกมลา ผู้เสียชีวิตออกจากบ้าน จนข้ามวันข้ามคืนบ้านเงียบสนิท สามีของนางก็ไม่อยู่บ้าน เลยตัดสินใจเดินเข้าไปดูพบว่าประตูหน้าบ้านล็อกสนิท จึงโทรเรียกเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงให้มาช่วยดู  ปรากฏว่าประตูหลังบ้านเปิดตัดสินใจเดินเข้าไปดู จึงพบว่านางกมลา  เรียกแล้วไม่มีการตอบรับเพื่อนบ้าน  ไปดูใกล้ๆ

พบว่ากลายเป็นศพ นอนใต้ผ้าห่มคลุม  ตำรวจได้ส่งชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิต ส่วนสาเหตุยังไม่มีใครทราบแน่ชัด

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย      ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

ทำทีเลือกซื้อทองเจ้าของเผลอฉกสร้อยวิ่งหนี

เจ้าของเผลอฉกสร้อยวิ่งหนี คนร้ายทำทีจะไปซื้อสร้อยบอกว่าตอนนั้นตั้งใจจะซื้อให้แฟนโดยขอถ่ายรูปหน่อย จังหวะที่คนกำลังขายทองนั้นหันหลังไปหยิบ เป็นอื่นเพื่อนำมาให้แป๊บเดียวเท่านั้น ชายคนนั้นก็ได้หยิบสร้อยไปเลยโดยหยิบ 2 เส้นเส้นละ 2 บาท แล้วไปแบบเนียนๆ 

โดยชายคนนี้ได้เข้ามาร้านทองเพื่อทำการซื้อทองซึ่งบอกกับเจ้าหน้าที่ทางร้านทองว่าตนต้องการที่จะซื้อทองนั้นไปเซอร์ไพรส์แฟนสาวจากนั้นตนก็ได้นำมือถือมาเพื่อขอถ่ายรูปและให้เจ้าหน้าที่หยิบทองมาให้ดูเรื่อยๆ ดังนั้นพอได้จังหวะที่เจ้าหน้าที่หันไปหยิบทองเข้ามาเพิ่มเขาพรุ่งนี้ก็ได้หยิบทองที่วางไว้จำนวน 2 เส้นเส้นละ 2 บาทโดยหายไปในทันที 

สันนิษฐานจากรูปของคนร้ายคาดว่าคนร้ายน่าจะมีอายุไม่ถึง 30 ปี

โดยจะมีลักษณะผิวคล้ำๆหน่อย ความสูงอยู่ที่ประมาณ 165 cm ใส่เสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีดำ ใส่กางเกงขาสั้นสีดำและรองเท้าแตะ และทำการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งในขณะที่คว้าทองแล้ววิ่งออกไปเลยนั้น ตำรวจสภรัตนาธิเบศร์ก็ต้องเข้าทำการตรวจสอบ 

โดยที่นี่คือห้างทองร้านศิริมงคล อยู่ที่ถนนสามัคคี ตำบลท่าทรายอำเภอเมืองนนทบุรี โดยเข้าไปพบเจอกับเจ้าของร้านทอง คือนางจิราพร อายุประมาณ 66 ปี โดยเธอให้การว่าตัวของเธอนั้นนั่งอยู่ที่ร้านกับสามีของเธอ ปรากฏว่าคนร้ายมาทำทีเลือกดูสร้อยเพื่อจะขอซื้อให้กับแฟนสาวของเขา

ซึ่งเขาได้แจ้งว่าเขาต้องการซื้อสร้อยคอประมาณ 2 บาทจึงทำให้เจ้าของร้านนั้นได้หยิบเลือกลวดลายมาให้เขาได้เลือกอยู่ประมาณ 2 เส้นด้วยกัน จากนั้นคนร้ายได้บอกอีกว่าขอถ่ายรูปให้แฟนดูเพื่อที่จะทำการเลือกลายระหว่าง 2 เส้นนี้อีกด้วย จากนั้นคนร้ายได้ที่ลาย ใหม่เพื่อที่จะขอดูลายเพิ่มอีก 

ทีนี้จังหวะที่เจ้าของร้านไปหยิบให้นี่แหละ คนร้ายประสบจังหวะเหมาะจึงฉวยโอกาสคว้าทอง แล้ววิ่งไปเลยโดย 2 เส้นมีน้ำหนักรวมกันทั้งหมด 4 บาทเนื่องจากว่ามันเป็นเส้นละ 2 บาทจำนวน 2 เส้น โดยประมาณ 1 แสนบาท จากนั้นคนร้ายได้ทำการ 6 แล้ววิ่งออกไปเพื่อขึ้นมอเตอร์ไซค์ Honda Wave โดยไม่ได้ทราบหมายเลขทะเบียนเพราะว่ามันจอดไว้ใกล้ร้าน และทำการขี่ไปทางปากซอยของสามัคคี ประชาชื่น 

จากนั้นเจ้าของร้านบอกให้สามีวิ่งตาม และสามีก็ได้มีการตะโกนเพื่อให้ผู้คนช่วยเหลือเกี่ยวกับผู้ร้ายที่ขโมยทองของตนนั้นเอง โดยขนาดประตูของร้านทองก็ทำการปิดอยู่แต่คนร้ายก็สามารถที่จะวิ่งหนีออกไปได้ในที่สุด หลังจากเกิดเหตุนี้แล้ว

ทำให้ตำรวจได้มีการสกัดจับผู้ร้ายคนนี้ แต่ว่าในขณะนี้ก็ยังไร้วี่แววอยู่เลยซึ่งไม่ทราบจริงๆว่าคนร้ายไปทางไหนและสามารถหลบหนีไปที่ใด แต่ทางตำรวจบอกเอาไว้ว่าพวกเขาจำเป็นที่จะต้องไปไล่ดูกล้องวงจรปิดเพื่อที่จะรู้ว่าคนร้ายนั้นมีทิศทางในการหลบหนีไปทางไหนกันแน่

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ทางเข้า ufabet ภาษาไทย

เควนติน ทารันติโน จำฝังใจคำพูดดูถูกของแม่ในวัยเด็ก

ผู้กำกับชื่อดัง เควนติน ทารันติโน จำฝังใจคำพูดดูถูกของแม่ในวัยเด็กสาบานโตขึ้นจะไม่ให้เงินแม่ใช้ ทุกวันนี้ยึดมั่นคำสาบานเสมอ

       เควนติน ทารันติโน จำฝังใจ    หากใครที่ชื่นชอบการชมเกี่ยวกับการประกาศผลรางวัลโดยเฉพาะเกี่ยวกับรางวัลออสการ์ผู้กำกับและผู้เขียนบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมย่อมรู้จักชื่อของผู้กำกับชื่อดังคนนี้กันเป็นอย่างดีเขาเป็นผู้กำกับที่ได้รับรางวัลมาแล้วหลายครั้งด้วยกันและเขาสามารถกำกับภาพยนตร์และเขียนบทภาพยนตร์จนมีชื่อเสียงโด่งดังรวยเป็นระดับหลายพันล้านเลยทีเดียว

     สำหรับผู้กำกับคนดังกล่าวนั้นก็คือ เควนติน ทารันติโน ซึ่งในขณะนี้เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากแน่นอนว่าเมื่อวันที่ 10 เดือนสิงหาคมปีพ..ศ 2564 ที่ผ่านมาเขาได้มีการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวจากเว็บไซต์เดลิเมล์ฉบับหนึ่ง

โดยมีการระบุถึงความหลังครั้งเยาว์วัยของเขา

ซึ่งเขาได้มีการสัญญาหรือสาบานเอาไว้กับตนเองตั้งแต่ตอนเขาอายุเพียงแค่ 12 ขวบว่าเมื่อโตขึ้นถ้าหากเขามีชื่อเสียงโด่งดังสามารถหารายได้จากการเขียนบทภาพยนตร์และการกำกับหนังของเขา  เควนติน ทารันติโน มีความคิดว่าเขาจะไม่ให้เงินแม่ของเขาใช้แม้แต่แดงเดียวเนื่องจากว่าในช่วงวัยเด็กของเขานั้นเขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากแม่ของเขาที่สำคัญแม่ของเขายังพูดจาดูถูกเขารวมถึงคุณครูที่โรงเรียนเองก็พูดจาดูถูกความฝันของเขา 

 ปัจจุบันนี้  เควนติน ทารันติโน มีอายุมากกว่า 40 ปีแล้ว

และนับตั้งแต่ที่เขามีชื่อเสียงและสามารถหาเงินจากความสามารถในการเขียนบทภาพยนตร์และเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ของเขาได้นั้นเขาก็ทำตามที่เขาได้มีการสาบานตั้งแต่เขาอายุ 12 ปีนั่นก็คือเขาไม่ใช่เงินแม่เขาใช้เลยนอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือรถก็ไม่เคยซื้อให้เช่นเดียวกัน

สิ่งที่เขาจะทำให้แม่ของเขาได้นั้นก็คือถ้าหากแม่เขามีปัญหากับกรมสรรพากรเขายังคงเข้าไปช่วยเหลือในฐานะที่เขาเป็นลูก  แต่ในส่วนรายจ่ายอื่นๆนั้นเขาไม่ดีมีการเข้าไปดูแลแม่ของเขาเลยนับตั้งแต่วันที่แม่ของเขาได้ดูถูกเขามาและประโยคนั้นมันก็คือประโยชน์ฝังใจเขามาจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเอง

      อย่างไรก็ตาม เควนติน ทารันติโน ได้ฝากไปเตือนยังผู้ปกครองของเด็กๆทุกๆคนว่า  เรื่องราวของเขานั้นเป็นเรื่องราวที่สามารถเป็นบทเรียนให้กับผู้ปกครองหลายคนได้ว่าคำพูดของผู้ปกครองนั้นควรจะต้องมีการคิดให้ดีก่อนที่จะมีการพูดกับลูกของตนเองเพราะเด็กๆนั้นจะจำฝังใจเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพูดเชิงประชดประชันและไม่ให้ความสำคัญกับความฝันของลูกๆนั่นเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ทางเข้า UFABET ภาษาไทย