ชายหนุ่มสำลักเอาพยาธิไส้เดือนออกมาจากปาก

                  เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2562 มีชายหนุ่มคนหนึ่งออกมาเล่าเหตุการณ์ ที่น่ากลัวมากให้ฟังว่า เมื่อคนในขณะที่ชายหนุ่มคนนี้กำลังนอนหลับเขาได้ไอและสำลักน้ำลายออกมา แล้วตอนที่สำลักน้ำลายนั้นอยู่ๆเขาก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาจากคอ

และพอเขาหยิบออกมาพบว่ามันคือพยาธิไส้เดือน เมื่อเห็นดังนั้นเขาตกใจมากรีบเก็บซากพยาธิไส้เดือนที่ยาวถึง 6 นิ้วไปที่โรงพยาบาลเปาโลรังสิตทันที ซึ่งคุณหมอได้ตรวจสอบและบอกว่านี่คือพยาธิไส้เดือนที่โตเต็มวัยแล้ว โดยบอกด้วยว่าพยาธิเหล่านี้อาจจะมาจากอาหารที่เล่ากินเข้าไปซึ่ง พยาธิไส้เดือนอาจจะมาจากอาหารประเภทสุกๆดิบๆ

หรือตามผักผลไม้สดที่เรากิน เพราะพยาธิไส้เดือนเหล่านี้จะวางไข่ไว้ตามผักผลไม้ หากไม่ล้างทำความสะอาดให้สะอาดพอ มันจะสามารถเข้าไปในท้องของเราแล้วฝังไข่เอาไว้ที่ลำไส้แล้วก็สามารถเจริญเติบโตในร่างกายของเราได้

                 จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้พวกเราควรตระหนักถึงความสะอาดของสิ่งเขาที่เรากินเข้าไป ควรมีการปรุงอาหารด้วยความร้อนให้สุก แล้วค่อยรับประทาน ส่วนผักสดต่างๆก็ควรล้างน้ำซ้ำๆหลายๆรอบก่อนมีการกินแบบสดๆ เพราะทุกวันนี้อาหารที่เราทานนอกบ้านอาจจะไม่ค่อยสะอาด ดังนั้นก่อนทานอาหารควรมีการตรวจสอบความสะอาดก่อนกิน

สำหรับใครที่ไม่แน่ใจว่าจะทำความสะอาดผักสดอย่างไร สามารถหาข้อมูลจากทางอินเตอร์เน็ตได้ มีวิธีการล้างผักให้สะอาดหลากหลายวิธี เช่น การล้างผักด้วยน้ำส้มสายชู การล้างผักด้วยด่างทับทิม

         และสำหรับใครที่ยังชอบกินลาบสด ก้อยสด กุ้งเต้น กุ้งแช่น้ำปลา ควรระวังเรื่องของพยาธิอย่างอื่นด้วย เพราะพยาธิไม่ได้มีแค่พยาธิไส้เดือนเท่านั้น ยังมีอีกหลายสายพันธ์ที่จะสามารถเข้ามาวางไข่ในท้องของเราแล้วเจริญเติบโตในท้องของเราได้ทั้งพยาธิตัวตืด  พยาธิเส้นด้าย พยาธิตัวจี๊ด พยาธิปากขอ และอีกหลายชื่อที่ไม่ได้พูดถึง พยาธิอยู่ได้ทุกที่ทั้งในผัก ผลไม้ หรือแม้แต่ในเนื้อหมู เนื้อไก่ เราจึงความทราบวิธีการเลือกซื้อเนื้อซื้อหมูเอาไว้ด้วย เพราะหลายครั้งที่เรามีพยาธิในร่างการเพราะเรากินเนื้อหมูที่มีไข่พยาธิฝั่งอยู่ 

       สำหรับข่าวในวันนี้เชื่อว่าคงมีหลายคนที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เลิกกินอาหารดิบๆสุกๆ หันมาสนใจความสะอาดของอาหารที่จะกินกันมากขึ้น แต่ที่สำคัญเหนืออื่นใด หากเราต้องการความมั่นใจว่าอาหารที่เรากินเข้าไปนั้นสะอาดจริงๆ

เราควรปรุงอาหารด้วยตนเอง เพราะเราสามารถดูแลความสะอาดของอาหารเราได้ตั้งแต่การเลือกซื้อวัตถุดิบ การล้างทำความสะอาดก่อนปรุงและการปรุงอาหารให้สุกก่อนรับประทาน หากทำได้เราก็จะปราศจากพยาธิแน่นอน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  Ufabet ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

หลักฐานชัด สรุปลูกชายฆ่าหั่นศพแม่เอง

          จากกรณีที่มีข่าวว่า มีคนไปพบชิ้นส่วนมนุษย์ในตู้เย็นแล้วสงสัยว่าลูกชายแท้ๆของผู้ตายเป็นผู้ลงมือฆาตกรรมนั้น ทางตำรวจได้มีการตวจสอบและปิดสำนวนคดีเรียบร้อยแล้วโดยมีไทม์ไลน์ดังนี้ 

  1. ในคืนวันอาทิตย์ผู้ตายและลูกชายพร้อมด้วยแฟนลูกชายทานข้าวเย็นด้วยกันที่บ้านของผู้ตาย
  2. ประมาณ 4 ทุ่มแฟนลูกชายผู้ตายลากลับบ้านผู้ตายอยู่กับลูกชายและมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน จนเป็นเหตุให้ลุกชายผู้ตายลงมือสังหารแม่ แล้วจัดการนำร่างของผู้ตายขึ้นไปห้องน้ำบนชั้นสอง แล้วนำมีดมาหั่นชิ้นส่วนทิ้งในชักโครกแต่ชิ้นส่วนติดทำให้กดน้ำไม่ลง ฆาตกรจึงหั่นร่างเป็นชิ้นใหญ่ๆแล้วนำไปใส่ถุงดำ เสร็จแล้วนำชิ้นส่วนทั้งหมดลงมาแช่ที่ตู้เย็นที่ชั้นล่าง ซึ่งระหว่างที่ก่อเหตุนี้แฟนสาวของฆาตกรพยายามโทรหาและไลน์หา แต่ฆาตกรไม่รับสายแต่มีการไลน์กลับแฟนไปว่ากำลังจะนอนแล้ว
  3. เช้าวันจันทร์เพื่อนผู้เสียชีวิตพยายามติดต่อผู้ตายแต่ติดต่อไม่ได้ จึงชวนกันมาหาผู้ตายที่บ้าน เมื่อมาถึงมองเห็นรถผู้ตายจอดอยู่แต่เมื่อกดกริ่งเรียกลูกชายผู้ตายออกมาเปิดประตูแล้วบอกว่าแม่ไม่อยู่บ้านไม่รู้ว่าออกไปไหน และไม่ยอมให้เพื่อนแม่เข้ามาในบ้าน หลังจากนั้นเพื่อนของแม่จึงเรียกเพื่อนอีก 1 คนมาสมทบเพิ่มและพากันเปิดประตูเข้าไปในบ้านผู้ตายโดยพยายามเดินหา แต่ก็ไม่พบ แต่สังเกตเห็นว่ากุญแจรถ กับกระเป๋าสตางค์ของผู้ตายยังอยู่ จึงมั่นใจว่าผู้ตายต้องยังอยู่ในบ้าน หลังจากหาอยู่นานก็เลยไปเปิดตู้เย็นจึงพบชิ้นส่วนมนุษย์ ระหว่างนั้นเอง ลูกชายของผู้ตายก็ได้ยิงตัวเอง และมีการนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

           ซึ่งปริศนาจึงเกิดขึ้นว่าใครเป็นคนฆ่าแม่ ลูกได้ฆ่าแม่หรือไม่ และถ้าทำใครช่วยหรือไม่ ทำเพราะอะไร เพราะญาติๆต่างให้ข้อมูลตรงกันว่าผู้ตายเป็นคนดี รักลูกและตัวลูกชายเองก็รักผู้ตาย จึงมองไม่เห็นมูลเหตุของคดีว่าลูกชายจะฆ่าแม่ทำไม  แต่เมื่อมีการสอบสวนหาพยานหลักฐานแล้ว

ตำรวจจึงมีการสรุปคดีว่าลูกชายเป็นคนก่อนเหตุและเป็นการทำคนเดียวโดยลงมือแทงแม่ก่อนก่อนจะทำการหั่นศพ ส่วนแรงจูงใจยังไม่ทราบ เพราะจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าบ้านแล้ว ไม่พบคนเข้าออกเลยมีเฉพาะแค่ผู้ตายและลูกชายเท่านั้นที่อยู่ในบ้าน

ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าลูกชายของผู้ตายกำลังมีอาการป่วยทางจิต แต่ทางแพทย์ยังไม่ได้ตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็นป่วยทางจิตแบบไหน และยังไม่ได้ทันรักษาก็มาก่อเหตุฆาตกรรมซะก่อน

          สังคมไทยตอนนี้มีผู้ป่วยที่ไม่รู้ตัวว่าป่วยอยู่มาก ดังนั้นหากพบเห็นคนใกล้ชิดมีอาการผิดปกติให้รีบพาไปให้แพทย์ตรวจรักษาโดยด่วน

 

สนับสนุนโดย  บาคาร่าขั้นต่ำ 10 บาท

ส่อเค้ารุนแรงขึ้นโรงพยาบาลพญาไท 2

 ส่อเค้ารุนแรงขึ้นโรงพยาบาลพญาไท 2 และโรงพยาบาลรามาประกาศปิดไม่รับตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่าแล้ว

              จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าภายในประเทศไทยที่มีการส่อเค้าว่าจะมีการทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากว่าจำนวนผู้ติดเชื้อยังมีทยอยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยกันและจากสาเหตุที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อที่มากขึ้นมาเอง

ทำให้หลายคนที่มีแนวโน้มว่าจะมีการติดเชื้อเพราะว่าอยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อเริ่มเดินทางมาที่โรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจว่าตนเองได้รับเชื้อไวรัสจากคนที่ป่วยหรือไม่ซึ่งสาเหตุนี้เองทำให้ทางโรงพยาบาลหลายๆแห่งในขณะนี้อุปกรณ์ทางการแพทย์และน้ำยาในการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่าเริ่มลดจำนวนลงหรือบางสถานที่น้ำยาก็ไม่มีแล้วดังนั้นทางโรงพยาบาลไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลพญาไท 2

หรือแม้แต่โรงพยาบาลรามาต่างก็ออกมาประกาศว่าณปัจจุบันนี้ทางโรงพยาบาลทั้งสองแห่งขออนุญาตไม่รับคนไข้ที่จะเข้ามาทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่า เนื่องจากว่าน้ำยาที่จะใช้ในการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นเหลือน้อยเต็มทีแล้วดังนั้นทางโรงพยาบาลจึงต้องขอสำรองน้ำยาเก็บเอาไว้เพื่อใช้ตรวจหาเชื้อให้กับคนไข้ที่ป่วยหนักจริงๆ

โดยทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้ออกมาพูดคุยเพิ่มเติมว่าตอนนี้แนวโน้มผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าดูจะเพิ่มมากขึ้นทุกๆวันซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปจำนวนเตียงที่จะให้ผู้ป่วยได้เข้ามานอนพักรักษาตัวอาจจะไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วยดังนั้นอาจจะต้องมีนโยบายออกมาเกี่ยวกับการเข้ามาตรวจรักษาโรคไวรัสโคโรน่าโดยถ้าหากผู้ป่วยคนใดมีอาการไม่มากไม่มีความรุนแรงอาจจะต้องให้ผู้ป่วยท่านนั้นรักษาตัว

และกักตัวเองไว้ที่บ้านแทนการมารักษาตัวนอนอยู่ที่โรงพยาบาลโดยโรงพยาบาลอาจจะต้องรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักเท่านั้นเพราะไม่เช่นนั้นแล้วจำนวนเตียงและจำนวนคุณหมอที่จะคอยดูแลรักษาคนไข้จะไม่เพียงพอกันรวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์และยาที่จะใช้ตรวจและรักษาคนไข้ก็จะไม่เพียงพอเช่นเดียวกันดังนั้นเพื่อเป็นการ เตรียมตัวป้องกันควบยาที่รักษาจะไม่เพียงพอ

อาจจะต้องมีการประกาศถึงวิธีการดูแลตัวเองวิธีการปฏิบัติตัวหากใครมีแนวโน้มว่าตัวเองจะติดเชื้อก็จะได้รู้ว่าตัวเองต้องปฏิบัติตัวอย่างไรหรือว่าดูแลตัวเองอย่างไรแต่ถ้าหากมีอาการหนักเมื่อไหร่ก็สามารถเดินทางมารักษาตัวที่โรงพยาบาลได้วิธีการนี้จะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดเพราะไม่เช่นนั้นแล้วหากเตียงนอนในโรงพยาบาลเต็มแล้วมีผู้ป่วยที่ป่วยหนักเข้ามารักษาจะทำให้ผู้ป่วยหนักไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีหรืออาจจะมียาไม่เพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วยหนักก็เป็นได้ 

 

สนับสนุนโดย  ดูบอล

ข่าวโครงการร้อยเดียวทั่วไทย

สำหรับโครงการร้อยเดียวทั่วไทย เปิดลงทะเบียนแค่วันเดียวคือวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ประชาชนสามารถเข้ามาลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ของโครงการได้เลยตั้งแต่ เวลา 06.00 น. เป็นต้นไปและรับแค่เพียงหนึ่งหมื่นคนเท่านั้น

และเงื่อนไขของคนที่ลงทะเบียนและมีสิทธิ์ซื้อของขวัญได้นั้น ต้องเป็นคนไทยอายุต้องสิบแปดปีบริบูรณ์  โดยจะให้ใช้สิทธิ์กับจังหวัดที่ไม่ตรงกับที่ระบุในบัตรประชาชนเท่านั้น

โครงการนี้หนึ่งคนซื้อได้เพียงหนึ่งสิทธิ์เท่านั้น และถ้ามีคนมาลงทะเบียนครบหนึ่งหมื่นคนแล้วจะปิดการลงทะเบียนทันที ที่สำคัญเงือนไขคือต้องเดินทางไม่เกิน 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เท่านั้น

             สำหรับโครงการนี้มีการประกาศออกมาสักระยะให้ประชาชนได้เตรียมตัวในการลงทะเบียนแล้วและมีการแนะนำการลงทะเบียนไว้ในเว็บไซต์ หรือตามยูทูปมากหมาย มีทั้งสอนขั้นตอนการลงทะเบียนและเงือนไขข้อห้ามต่างๆ 

            อันที่จริงโครงการนี้ ยังไม่รู้ว่าเมื่อประชาชนที่เข้าไปลงทะเบียนเข้าใช้งานจริงๆแล้วจะเป็นอย่างไร สถานที่เที่ยวที่ระบุให้ลงทะเบียนไปนั้น จะน่าสนใจขนาดไหน แล้วจะมีปัญหาเกี่ยวกับการไปสิทธิ์เหมือนครั้งโครงการ ชิม ช็อป ใช้หรือเปล่ายังไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือโครงการนี้ผลาญเงินภาษีของประชาชนไปเยอะพอดูเหมือนกัน

หลายคนออกมาพูดถึงโครงการนี้กันว่ามันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาเลยที่เปิดโครงการนี้ นอกจากรัฐบาลต้องการหาฐานเสียงไว้เป็นของตนเองซึ่งหลังจากโครงการซิม ช็อป ใช้ผ่านไปฐานเสียงของรัฐบาลก็เพิ่มมากขึ้น โดยมาจากคนต่างจังหวัดที่ได้รับการแจกเงิน มาจากคนชรา

แต่หากเป็นฐานเสียงของคนในกลุ่มวัยทำงานกับกลุ่มวัยรุ่นทุกคนต่างมองเรื่องนี้ว่าเป็นการใช้เงินแบบสิ้นเปลือง โดยทุกคนยินดีที่จะรับเงินมาเพราะแจกฟรี แต่ความสนับสนุนหลังจากได้รับเงินแล้วไม่มีเพราะทุกคนรู้ดีว่าเงินที่ให้มา ได้มาอย่างไร

         หากรัฐบาลนำเงินที่มาแจกประชาชนมาให้กินให้เที่ยวเล่นนั้นไปใช้ในการพัฒนาประเทศ เศรษฐกิจของประเทศคงจะดีกว่านี้ ที่พูดมาไม่ได้เป็นการต่อต้านการทำงานของรัฐบาล แต่บางโครงการควรจะมีการคิดและพิจารณาให้รอบคอบกว่านี้แล้วค่อยปล่อยโครงการออกมา เพราะโครงการร้อยเดียวทั่วไทยที่บอกว่าทำออกมาเพื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น

เอาออกมาใช้ตอนนี้ก็ไม่ค่อยเห็นผลอยู่แล้ว ไม่สามารถวัดค่าอะไรได้ว่าโครงการดีหรือไม่ เพราะโครงการออกมาช่วงปีใหม่ที่ยังไงทุกคนต่างก็พากันไปเที่ยวอยู่แล้ว ถึงไม่มีโครงการนี้ ในเดือนนี้ธุรกิจการท่องเที่ยวยังไงมันก็ต้องดีขึ้น หากอยากวัดผลกันจริงๆว่าโครงการนี้ของรัฐบาลได้ผลมากแค่ไหน ให้ใช้ช่วงเดือนที่ไม่ใช่เทศกาลดูสิ แล้วความจริงจะปรากฏ

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  Holiday Palace

เจ้าของร้านเหล้าถูกจับ

เจ้าของร้านเหล้าถูกจับ เพราะนัดเพื่อนนั่งกินเหล้า ผิด พ.ร.บ. ฉุกเฉิน

 ตั้งแต่มีการประกาศพรกฉุกเฉินไม่ให้ประชาชนมารวมกลุ่มและถ้ามีการขายสินค้าที่ร้านไปซื้อไปกินทานที่บ้านเท่านั้นประชาชนต่างก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีส่วนใหญ่ก็จะมาสั่งอาหารที่ร้านแล้วนำกลับไปทานเองที่บ้านซึ่งถ้าหากใครฝ่าฝืนก็จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี

โดยข่าวดังต่อไปนี้เป็นข่าวเจ้าของร้านเหล้าร้านหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความแสดงถึงการระบายการอัดอั้นใจที่ตนเองถูกจับกุมเจ้าของร้านยืนยันว่าตั้งแต่มีการประกาศพรกฉุกเฉินออกมาทางร้านก็มีการปิดไม่เปิดขายเหล้าที่ร้านเลย

แต่ทางร้านเองก็จำเป็นต้องหารายได้เข้ามาเจอครอบครัวและยังต้องเลี้ยงลูกน้องอีกหลายคนดังนั้นจะมีการเปิดขายสลัดโดยให้ลูกค้า ซื้อจากที่ร้านแล้วนำกลับไปทานที่บ้านซึ่งปกติก็เป็นแบบนั้นมาตลอดแต่มีอยู่วันนึงเนื่องจากเพื่อนๆพากันมาอุดหนุนกันเป็นจำนวนมากดังนั้นจึงได้มีการพูดคุยกันแต่ก็นั่งระยะห่างกันพอสมควรและมีการนำเหล้ามากินกันเด็กน้อย

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเห็นจึงได้มีการเข้าจับกุมในตอนนี้เจ้าของร้านได้มีการประกันตัวเองออกมาแล้วรอเรื่องส่งฟ้องศาลเท่านั้นซึ่งทางเจ้าของร้านเองก็ออกมาอดโอยถึงเหตุผลที่ทำให้ต้องถูกจับกุมในครั้งนี้ว่าเป็นแค่เพื่อนต้องการที่จะมาคุยกันเพราะต้องถูกกักตัวอยู่แต่ในบ้านเป็นระยะเวลานานหลายคนก็เกิดมีความรู้สึกเบื่อหน่ายเมื่อเจอกันจึงได้มีการพูดคุยกันและบางคนก็มีการนำเหล้าติดมาด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สมควรที่จะมาจับกุม

    แต่หลังจากที่มีการใช้ข้อความนี้ออกไปผลตอบรับกับเป็นว่าทุกคนเห็นดีด้วยกับการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเข้าจับกุมกลุ่มคนที่นั่งรวมตัวกินเหล้ากันเพราะจริงๆแล้วการทำเช่นนั้นก็คือการผิด  พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ทางรัฐบาลประกาศตนเอง

ถึงแม้นว่าจะเป็นการกินระหว่างเพื่อนฝูงก็ตามไม่ได้เป็นการเปิดร้านแต่ก็ถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมายที่มีการประกาศห้ามเอาไว้เพราะขนาดคนที่นั่งกับกลุ่มเล่นไพ่กันหรือแม้แต่นั่งทานข้าวกันเฉยๆก็ยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีได้เลยดังนั้นการที่มีการสังสรรค์กันด้วยการกินเหล้า

ถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนที่มาพบปะเจอกันเท่านั้นก็ควรจะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นเดียวกัน เพราะถ้าหากเจ้าหน้าที่ด้วยปฏิบัติหน้าที่จับกุมในครั้งนี้ก็จะมีหลายคนออกมาตั้งวงกินเหล้ากันแล้วก็บอกว่าเพื่อนต้องการพบปะสังสรรค์กันเพราะว่าเบื่อหน่ายกับการที่ต้องกักตัวเองอยู่ที่บ้าน  อันที่จริงแล้ว พ.ร.ก. ฉุกเฉินนั้น

ประกาศออกมาเพื่อไม่ให้คนมารวมกลุ่มกันดังนั้นต่อให้เป็นเพื่อนฝูงที่ไม่ได้เจอกันมานานก็ไม่สามารถมานั่งทานเหล้าด้วยกันได้จึงไม่สมควรที่จะออกมาเรียกร้องความเห็นแต่อย่างที่ทำอยู่ในตอนนี้ควรที่จะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดจะดีที่สุด

 

สนับสนุนโดย  จุดอ่อนบาคาร่า

DSI ระส่ำ เมื่อพบผู้ติดเชื้อโควิด-19

DSI ระส่ำ เมื่อพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทำงานอยู่ในแผนกสอบสวนในสำนักเลขานุการกรม

      มีรายงานข่าวเข้ามาว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ  หรือที่เราเรียกกันแบบย่อๆว่า DSI กำลังประสบกับปัญหาว่ามีเจ้าหน้าที่เป็นหน่วยงาน DSI คนหนึ่งที่ทำงานในตำแหน่งสอบสวนให้กับสำนักเลขานุการกรมมีอาการป่วยติดเชื้อโควิด-19 จึงเป็นเหตุทำให้หลังจากที่ทราบเรื่องต้องมีการสั่งกักตัวบรรดาเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน DSI ทั้งหมดเป็นจำนวนมากถึงเกือบร้อยคนเป็นระยะเวลา 14 วัน

เพื่อรอสังเกตอาการเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้เนื่องจากว่าพนักงานสอบสวนคนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19คนแรกนั้นเมื่อมีการตรวจสอบประวัติและพบว่ามีการพบปะใกล้ชิดสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่สหกรณ์กระทรวงยุติธรรมซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่พบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 

ซึ่งหน่วยงานสหกรณ์กระทรวงยุติธรรมก็มีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าประมาณ 2 คนก่อนหน้านี้ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ DSI ทั้งหมดจึงได้มีการตรวจสอบว่ามีใครบ้างที่ใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19เพื่อที่จะได้ให้มีการกักตัวเองไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไปสู่บุคคลอื่น ซึ่งทั้งนี้ตั้งหน่วยงาน DSI ยืนยันว่าบริการกับเจ้าหน้าที่ถึง 100 นาย

ก็ตามแต่ก็จะไม่ให้เสียงานหากมีงานที่ต้องทำเอกสารก็จะมีเจ้าหน้าที่ดำเนินการนำเอกสารไปส่งให้ที่บ้านเราจะมีการป้องกันอย่างดีไม่ให้มีการเกิดการแพร่เชื้อออกมาให้กับทางเจ้าหน้าที่ท่านอื่นได้ค่ะ

     การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  กำลังทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะซึ่งหลายหน่วยงานที่ไม่เคยมีประวัติว่าจะมีการติดเชื้อมาก่อนก็เริ่มมีการติดเชื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากแต่ถ้าจะสังเกตให้ดีผู้ที่ติดเชื้อ 1 คนสามารถขยายแพร่พันธุ์เชื้อให้กับคนอื่นๆได้จะไม่มีจำกัดจำนวนได้เลยเพราะหากใครที่ได้ใกล้ชิดก็สามารถที่จะมีโอกาสติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้ด้วยกันทั้งหมดอันนั้น

ถือว่าไวรัสชนิดนี้เป็นอันตรายร้ายแรงและควบคุมยากมากที่สุดในขณะนี้ซึ่งมาตรการที่ทางรัฐบาลกำลังออกให้อยู่ขณะนี้อาจจะยังไม่เพียงพอต่อการที่จะควบคุมไม่ให้เชื้อไวรัสชนิดนี้มีการแพร่ระบาดออกไปอย่างกว้างขวางทั้งนั้นอาจจะต้องมีการเตรียมหามาตรการอื่นรองรับขนาดประเทศอิตาลีที่มีการประกาศปิดเมือง

และไม่ให้คนเดินทางเข้าออกนอกบ้านก็ยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้เลยดังนั้นเราจำเป็นต้องหามาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมไม่ให้ลุกลามใหญ่โตมากไปกว่านี้เพราะไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าทั้งเศรษฐกิจและสังคมรวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนนับจากนี้ไปจะเป็นยังไงบ้าง

 

ขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุุนโดย  ufabet

นักทฤษฏีได้เปิดเผยขอดังกล่าวที่อาจทำให้เกิดโควิด-19ขึ้นมา

รัฐบาลแคนาดา

นักทฤษฏีสมคบคิดบางคนเชื่อว่ารัฐบาลแคนาดานำโดยนายกรัฐมนตรีJustin Trudeauได้ทำการสร้างไวรัสโควิด-19ขึ้นมาที่ห้องปฏิบัติการจุรชีวิตวิทยาแห่งชาติที่เมืองในแคนาดาซึ่งได้เป็นส่วนหนึ่งของการสารหาป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อของหน่วยงานสาธารณะสุขแคนาดา

โดยห้องปฏิบัติการณ์ดังกล่าวเป็นหน่วยงานของรัฐบาลแคนาดาที่ดำเนินการวิจัยที่เกี่ยวกับไวรัสร้ายแรงเช่นเดียวกับที่ อู่ฮั่น ในประเทศจีนนักทฤษฏีสมคบคิดบอกว่าสายลับของจีนได้ขโมยไวรัสไปจากห้องปฏิบัติการณ์แคนาดาและส่งไปยังสถายันไวรัสวิทยาใน  อู่ฮั่น

ซึ่งเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดโดยสายลับคนนั้นก็คือ ดร.Keding Cheng ภรรยาของเขา ดร.Xiangguo Qiuซึ่งทั้งคู่ได้ทำงานที่ห้องแลบในแคนาดาจนในกระทั่งในปี2019ทั้งคู่ก็ได้ถูกให้ไล่ออกจากงานนอกจากนี้นักทฤษฏีสมคบคิดยังได้บอกอีกว่าสาเหตุที่ทั้งคู่นั้นได้ถูกไล่ออกนั่นก็เป็นเพราะทั้งคุ่ได้มีการขโมยตัวอย่างของไวรัสและได้ส่งกลับไปยังประเทศจีนแต่ทาง

สำนักงานCanadaแห่งชาติในแคนาดาบอกว่าสาเหตุที่ทั้งคู่นั้นได้ถูกไล่ออกเนื่องจากเรื่องนโยบายของการบริหารแต่มันก็ยังคงไม่มีใครที่จะออกมาบอกความจริงให้ได้ในส่วนของเรื่องนี้

การระเบิดของอุกกาบาต ในเดือนตุลาคม ปี2019

มีเหตุการณ์ในบางอย่างที่ได้มีการเกิดขึ้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนในช่วงเช้าของวันที่11ตุลาคมปี2019 นั่นก็คืออุกกาบาตที่ได้มีการเกิดขึ้นในท้องฟ้าหลังจากในประมาณเวลาในเที่ยงคืนซึ่งก็ได้ทำให้เกิดแสงบางอย่างที่ได้ทำให้ท้องฟ้าในย่ามค่ำคืนของท้องฟ้าได้สว่างขึ้นจากนั้นนักทฤษฏีสมคบคิดก็ยังได้กล่าวอีกว่าอุกกาบาตได้นำไวรัสโควิด2019

จากนอกอวกาศได้นำเอาเข้ามาสู่โลกแต่นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ออกมาบอกว่าสิื่งเหล่านี้ไม่น่าเกิดเป็นไปได้เนื่องจากดาวตกไม่ได้ตกลงถึงพื้นและถึงแม้ว่าอุกกาบาต ดังกล่าวจะนำเอาไวรัสโควิด2019เข้ามาด้วยแต่นักวิทยาศาสตร์ได้มีการคิดว่าไวรัสนั้นไม่สามารถที่จะอยู่รอดได้ในอุณหภูมิที่สูงจากการเสียดสี

และการลุกไหม้ในชั้นบรรยากาศซึ่งอุณหภูมิได้สูงถึง650องศาเซลเซียสและด้วยระยะเวลาก่อนที่อุกกาบาต นั้นจะตกลงถึงพื้นดินนั่นก็เกิดพอที่จะฆ่าไวรัสได้หลายรอบผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อยังได้กล่าวเสริมอีกว่าเชื้อไวรัสโควิด-19ได้เกิดมีแนวโน้มมากที่สุด

ที่จะได้มีการเกิดขึ้นมากบนโลกของเราซึ่งใน โควิด-2019อยู่ในกลุ่มของไวรัสที่เรียกว่า โคโรน่าไวรัสซึ่งได้เป็นญาติ SARS , MERS และเราก็ได้รับรู้ว่า SARS , MERS ได้เกิดขึ้นมากของเราส่วนโควิด2019เวลาเท่านั้นที่จะบอก

พนักงานทำความสะอาดมีไข้สูงและเป็นลมหมดสติ

สนามบินสุวรรณภูมิพบพนักงานทำความสะอาดมีไข้สูงและเป็นลมหมดสติ

   มีรายงานข่าวเข้ามาว่าเมื่อวันที่ 28 เดือนมีนาคมปีพศ 2563 มีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิโดยพบว่ามีหญิงสาวที่เป็นแม่บ้านคนหนึ่งซึ่งทำความสะอาดอยู่ดีๆก็เป็นลมล้มลงไปและเมื่อมีการนำไปให้แพทย์ประจำสนามบินสุวรรณภูมิตรวจสอบพบว่าหญิงแม่บ้านคนดังกล่าวมีอาการไข้ขึ้นสูงรวมถึงหายใจลำบาก

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สนามบินจึงได้ส่งตัวหญิงสาวแม่บ้านคนดังกล่าวไปที่โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์นราดูรเพื่อทำการตรวจสอบหาเชื้อว่ามีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือไม่แต่เบื้องต้นจากการที่ตรวจสอบประวัติของแม่บ้านคนดังกล่าวพบว่าไม่เคยเดินทางไปประเทศที่มีกลุ่มเสี่ยงมาก่อนแต่เพื่อความสบายใจของพนักงานคนอื่นๆในสนามบินสุวรรณภูมิรวมถึงลูกค้าที่ไปใช้บริการที่สนามบินดังนั้นจึงจำเป็นต้องพาแม่บ้านคนดังกล่าวไปทำการตรวจสอบหาเชื้อและจะได้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งให้กับทุกๆคนได้ทราบ

ว่าสรุปแล้วแม่บ้านคนดังกล่าวมีการติดเชื้อหรือไม่แต่ในที่นี้ทางเจ้าหน้าที่สนามบินก็ได้ออกมาประกาศว่าไม่อยากจะให้ประชาชนที่ทราบข่าวมีความรู้สึกตื่นตระหนกกับข่าวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เพราะว่าอันที่จริงแล้วหญิงแม่บ้านคนนี้ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสได้เลยดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่แม่บ้านคนดังกล่าวจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าซึ่งอาการไข้ขึ้นสูง 38.5 องศาเซลเซียสนั้นอาจจะเกิดมาจากเป็นไข้หวัดธรรมดาก็ได้ดังนั้นอย่าให้รอฟังผลจากทางแพทย์ประกาศออกมาก่อน

      จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้หลายคนเกิดความหวาดกลัวว่าเชื้อไวรัสกำลังแพร่ระบาดไปในทุกพื้นที่เพลงแม้ว่าในพื้นที่ดังกล่าวจะมีการเข้มงวดเกี่ยวกับเรื่องของการฆ่าเชื้ออย่างเช่นที่สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าจะมีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคทุกๆ 3 ชั่วโมงแต่ถ้าเกิดว่าผลออกมาว่าหญิงแม่บ้านคนดังกล่าวมีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าขึ้นมานั่นก็แสดงว่าสนามบินสุวรรณภูมิไม่ใช่สถานที่ที่จะปลอดภัย

จากเชื้อโรคอีกต่อไปเพราะถึงแม้ว่าจะมีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคในภายในสนามบินได้แต่ก็ยังพบว่าแม่บ้านอาจจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้เช่นกันซึ่งตอนนี้คงต้องรอผลการตรวจจากทางแพทย์โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์นราดูรออกมาว่าถ้าหากว่าผลออกมาแล้วแม่บ้านติดเชื้อไวรัสโคโรน่าต้องมาดูกันว่าทางผู้บริหารของสนามบินสุวรรณภูมิจะออกมาแก้ไขปัญหาเช่นนี้ได้อย่างไรเพื่อเรียกร้องขวัญและกำลังใจและความเชื่อมั่นของประชาชนเพื่อที่จะกลับมาใช้ กันต่อไป 

ยิงคนตายเพราะแค้นที่จีบลูกสาวเขาไม่ติด

 วันนี้มีข่าวยิงกันตาย ซึ่งข่าวที่มาในตอนแรกเลยคือการทวงหนี้และมีการยิงกันที่หน้าร้านขายของชำ แถวซอยอุดมเดช 1 จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อมีคนแจ้งความและทันทีที่เจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงและเข้าตรวจสอบพื้นที่ ก็พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งถูกยิงชื่อว่าคุณ ไชยา เปลี่ยนทรง

ซึ่งตามข้อมุลที่ชาวบ้านให้ข้อมูลมาคือ นายไชยา ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าร้านขายของชำ ซึ่งในตอนนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงร้านขายของชำ โดยที่นั่งใกล้กับภรรยาของคุณไชยาเลย ตอนแรกทีคุณไชยาขี่มอเตอร์ไซด์มาครั้งแรกคุณ ไชยาเห็นภรรยาตัวเองนั่งอยู่ที่ร้านก็เรียกทักทายเมียของตัวเองที่กำลังนั่งกินเหล้าอยู่แล้วหลังจากนั้นคนร้ายก็ยิงคุณไชยาจนรถล้มลงไป

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนแรกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคิดว่าเกิดจาการติดตามทวงหนี้และกำลังติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษ และวันนี้นักข่าวเองก็ได้ลงพื้นที่และได้เข้าไปสอบถามกับแม่ค้าในร้านที่เกิดเหตุ ซึ่งแม่ค้าเล่าให้ฟังว่าวันเกิดเหตุภรรยาของผู้ตายมานั่งกินหล้าที่ร้านซึ่งทางแม่ค้าเองก็นั่งอยู่กับภรรยาของผู้ตาย สักพักคนตายกับขี่รถมอเตอร์ไซด์ผ่านไปแล้วรอบแรก

ซึ่งในครั้งแรกคนตายยังตะโกนทักเมียของตัวเองอยู่ แล้วสักพักแม่ค้าก็ลุกไปขายของ วิ่งหลังจากลุกแล้วคนร้ายจึงได้มานั่งแทนที่โดยนั่งข้างเมียของคนตาย พอคนตายขี่มอเตอร์ไซด์ผ่านมาอีกครั้งก็ทักภรรยาอีกรอบซึ่งรอบนี้พอทักเสร็จคนร้ายยิงนายไชยาทันทีแล้วรถมอเตอร์ไซด์ของนายไชยาก็ล้มลง ซึ่งทางแม่ค้าเองไม่ได้เห็นตอนถูกยิงแต่ได้ยินเสียงยิงซึ่งคล้ายกับเสียงลูกโป่งแตก

หลังจากที่เห็นนายไชยาล้มลงภรรยาก็วิ่งไปประคองและตะโกนให้คนช่วยสามีตนเอง หลังจากคุยกับคนแถวนั้นจึงพบว่ามือปืนคือ นายทองดี เป็นทหารเรือที่กระเษียรเรียบร้อยแล้ว  ซึ่งตรวจสอบแล้วลูกสาวคนตายให้ข้อมูลว่าตนเองรู้จักกับนายทองดี เพราะนายทองดีมาชอบตนเอง แต่ตนไม่ชอบและพ่อก็ห้ามไม่ให้ไปยุ่งกับนายทองดี ซึ่งนี่อาจจะเป็นสาเหตุให้นายทองดีมายิงพ่อ

เมื่อไปสอบถามญาติของนายทองดี ทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นายทองดีเป็นคนนิสัยไม่ดี เป็นคนนิสัยนักเลง ญาติญาติไม่มีใครสนใจและเพิ่งรู้เรื่องจากข่าวว่านายทองดีไปก่อเหตุยิงคนตาย โดยส่วนตัวแล้วนายทองดีชอบเอาปืนออกไปยิงขู่คน ซึ่งหากนายทองดีผิดจริงก็ให้ตำรวจจัดการไป

ผีน้อยกลับมาถึงไทยไม่ยอมกักตัว

ผีน้อยกลับมาถึงไทยไม่ยอมกักตัว เที่ยวรอบเมืองกระบี่ตอนนี้เป็นไข้สูงจนต้องพาส่งตัวเข้าโรงพยาบาล

              คนงานไทยที่หนีไปทำงานที่ประเทศเกาหลีไต้และได้ร้องขอกลับมาประเทศไทย ช่วงนี้บางคนเมื่อเข้ามาถึงประเทศไทยแล้วไม่ยอมกักตัวเองอยู่แต่ในบ้านเป็นระยะเวลา 14 วันอย่างที่รัฐบาลประกาศให้ทำ แต่กลับมักจะพบเห็นกลุ่มคนเหล่านี้เดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างต่าง ไม่ว่าจะเป็นตามห้างสรรพสินค้า ตามร้านอาหาร และแม้แต่ตามสถานทีท่องเที่ยว และวันนี้ก็พบว่ากลุ่มคนดังกล่าวมีหนึ่งราย ที่ตอนนี้มีไข้ขึ้นสูงมากถึง 39 องศาเซลเซียส จนหวั่นกันว่าจะเป็นโรคไวรัสโควิด-19 หรือไม่ ทำให้ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

        มีรายงานมาจากทางโรงพยาบาลกระบี่ว่า ในตอนนี้มีคนส่งผู้ป่วยคนหนึ่งเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลที่กระบี ด้วยอาการเป็นไข้ และมีไข้ขึ้นสูงถึง 39 องศาเซียลเซียส และเมื่อมีการซักประวัติแล้วพบว่าคนไข้คนดังกล่าวคือกลุ่มคนไทยที่แอบหนีไปทำงานที่ประเทศเกาหลีไต้และได้เดินทางกลับมาประเทศไทยในช่วงนี้ หรือที่เราเรียกว่าพวกผีน้อยนั่นเอง ซึ่งจากประวัติที่ทราบมาคือผีน้อยคนดังกล่าว เมื่อกลับมาถึงเมืองไทยก็ไม่ยอมกักตนเองอยู่ในบ้าน

แต่เธอกลับเดินทางไปท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ จังหวัดกระบี่ โดยในตอนที่พบว่าเธอไม่สบายนั้น เธอได้นอนพักอยู่ที่โรงแรม บริเวณอ่าวนาง  โดยจากประวัติการเดินทางต่างประเทศของเธอนั้น เธอเพิ่งกลับจากประเทศเกาหลีเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2563 นี่เอง

แล้วเธอก็เดินทางมาท่องเที่ยวเลย โดยหญิงคนดังกล่าวอายุ 50 ปี และได้พบว่ามีไข้สูงเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลกระบี่ได้ทราบเรื่องก็ได้แยกห้องการรักษาของเธอออกมาเรียบร้อยแล้ว โดยตอนนี้เธออยู่ในห้องที่เอาไว้คัดแยกคนป่วยที่มีความเสี่ยงที่จะมีเชื้อไวรัสโควิด -19 ซึ่งหากว่าตรวจหาเชื้อแล้วไม่พบว่าเธอติดเชื้อไวรัสก็จะให้เธอกลับที่พักได้ แต่หากว่าพบว่ามีเชื้อก็จะส่งเธอรักษาตามขั้นตอนการรักษาคนที่ติดเชื้อไวรัสต่อไป ซึ่งจะต้องอยู่ในห้องที่มีความดันเป็นลบ และในตอนนี้ทางโรงพยาบาลได้นำสารคัดหลั่งขอผู้ป่วยสงไปหาเชื้อไวรสโควิด-19  ที่โรงพยาบาลที่ภูเก็ตแล้ว

            สิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ทำกำลังสร้างความหวาดกลัวให้คนในสังคม เพราะหากว่าเธอป่วยติดเชื้อไวรัสจริง เธอได้แพร่เชื้อไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว ซึ่งผ่านมาได้ 5 วันแรก มีใครที่ได้รับเชื้อโรคจากเธอไปบ้าง และหากเธอป่วยจริงก็จะต้องมีการหาตัวคนที่ใกล้ชิดกับเธอมาตรวจให้เชื้อว่าติดเชื้อไวรัสจากเธอหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งทียุ่งยากมาก