หญิงวัย 58 ปี ถูกใบสั่ง 200 ใบไม่เคยไปจ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาหาถึงบ้าน

            เมื่อวันที่ 22   เดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2564    ที่หมู่บ้านฟ้าไทย ในจังหวัดเชียงราย  เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นหน่วยงานของกรมทางหลวง  ได้เดินทางไปยังบ้านของหญิงคนหนึ่งอายุ 58 ปี  ชื่อว่านางสาวณิชาภัทร   ฐิติพงศ์ปรีดา   โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้มีการนำเอกสารที่ออกจากทางราชการเป็นหมายแสดงการจับกุมนางสาวณิชาภัทร 

           สาเหตุของการกระทำผิดนั้นในเอกสารระบุว่านางสาวณิชาภัทรได้มีการทำผิดการจราจรบนท้องถนนเนื่องจากว่ามีการขับรถฝ่าไฟแดงอยู่บ่อยครั้ง  ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งใบสั่งมาให้ถึงที่บ้านเป็นจำนวนถึง 200 ใบด้วยกันแต่ตลอดระยะเวลาที่นางสาวณิชาภัทรได้รับใบสั่งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นไม่เคยไปเสียค่าปรับเลย  

        ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการพูดคุยกับนางสาวณิชาภัทรถึงสาเหตุของการออกหมายจับกุมในครั้งนี้ว่าก่อนหน้านี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งเอกสารมาให้ที่บ้านโดยทำเป็นขั้นตอนต่างๆเริ่มตั้งแต่ส่งเรื่องของใบสั่งมาให้แต่ก็ถูกเพิกเฉยหลังจากนั้นก็มีการส่งใบเตือนให้ไปชำระค่าปรับแต่นางสาวณิชาภัทรก็ไม่ได้สนใจรวมถึงยังมีการส่งเอกสารตามขั้นตอนต่างๆทางกฎหมายเรื่อยมาและมีการออกหมายเรียกให้นางสาวณิชาภัทรไปติดต่อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจแต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อแต่อย่างไร

          ในที่สุดทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการส่งเอกสารไปยังศาลการปกครองเพื่อให้ศาลอนุมัติการออกหมายจับเพื่อนำตัวนางสาวณิชาภัทรไปดำเนินคดี  อย่างไรก็ตามนางสาวณิชาภัทรรับทราบข้อกล่าวหาทุกกรณีและยอมรับว่ามีใบสั่งส่งมาที่บ้านจริงและไม่เคยไปชำระเงินตามที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาจริง   

        สำหรับปัญหาการที่ผู้ขับขี่รถบนท้องถนนได้มีการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการจราจรนั้นส่วนใหญ่แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการส่งใบสั่งไปให้ถึงที่บ้านพร้อมทั้งยังมีภาพถ่ายขณะที่ก่อเหตุกระทำผิดเป็นหลักฐานเพื่อให้ประชาชนสามารถทำการตรวจสอบได้และเมื่อเราได้รับใบสั่งแล้วก็สามารถนำใบสั่งนั้นไปทำการชำระเงินที่สถานีตำรวจๆ  

        แต่ในขณะเดียวกันทุกวันนี้บางคนที่ได้รับใบสั่งนั้นก็จะมีการเพิกเฉยและไม่ยอมไปชำระค่าปรับต่างๆทำให้อาจกล่าวได้ว่าตอนนี้ผู้ที่ได้รับใบสั่งนั้นมีเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ไปเสียค่าปรับซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควรจะมีการปรับเปลี่ยนเกี่ยวกับกฎหมายการเสียใบสั่งใหม่ว่าหากมีการสะสมใบสั่งเกินจำนวนเท่าไหร่ให้มีการระงับใบขับขี่ถึงจะเป็นการทำโทษผู้กระทำผิดและเชื่อว่าถ้าหากมีบทลงโทษแบบนี้ผู้คนน่าจะหันมาสนใจการไปเสียค่าปรับกันมากขึ้น 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.  gclub ทดลองเล่นฟรี

ฆ่าเปลือยสาว tiktok เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัว

               ที่ประเทศอินโดนีเซียเกิดเหตุคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นโดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เดือนมกราคมปีพศ 2564  ตามรายงานข่าวระบุว่าผู้ที่เสียชีวิตนั้นเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 23 ปีเธอมีชื่อว่า ดวี  ฟาริกา เลสทาริ  เธอเป็นหญิงสาวที่รูปร่างหน้าตาดี   ที่สำคัญเธอเป็นคนที่อยู่ในวงการ Social Media เนื่องจากว่าเธอนั้นเป็นดาวของติ๊กต๊อกเลยก็ว่าได้  

           โดยปกติแล้ว  ดวี  ฟาริกา เลสทาริ มักมีการโพสต์ข้อความลงติ๊กต๊อกอยู่เสมอซึ่งส่วนใหญ่นั้นเธอจะโพสต์เกี่ยวกับการเต้นลงไป  สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ผู้ที่ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มายังจุดเกิดเหตุนั้นคือเพื่อนสาวของเธอเองซึ่งพักอยู่ที่โฮมสเตย์เดียวกันก็หญิงสาวคนดังกล่าวได้ว่าเธอได้ยินเสียงเพื่อนของเธอร้องออกมาจากห้องพักแต่เมื่อเธอพยายามติดต่อโทรเข้าไปภายในห้องก็ไม่สามารถติดต่อผู้ตายได้ทั้งที่ก่อนหน้าที่จะได้ยินเสียงร้องของเพื่อนนั้นพวกเธอยังลงมากินข้าวอยู่ด้วยกันซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 01:00 น.

           และเมื่อเพื่อนของเธอติดต่อ ดวี  ฟาริกา เลสทาริ ไม่ได้ก็ทำให้เกิดความร้อนไปจึงได้วิ่งไปเคาะเรียกอยู่ที่หน้าห้องของ ดวี  ฟาริกา เลสทาริ แต่ก็ไม่มีการตอบกลับมาดังนั้นเธอจึงได้พยายามแอบมองตามรูต่างๆเข้าไปในห้องพักจนในที่สุดก็เห็นว่าเธอพบว่าเพื่อนของเธอนั้นนอนอยู่บนพื้นโดยลักษณะของการมีเลือดอาบอยู่เต็มตัวดังนั้นเธอจึงได้โทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ

          อย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบข้อมูลพบว่าก่อนหน้าที่ดวี  ฟาริกา เลสทาริ จะเสียชีวิตนั้นมีชายผู้ต้องสงสัย ออกมาจากห้องของผู้ตายซึ่งมีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายกับชายคนดังกล่าวนั้นน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีอย่างไรก็ตามตามข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบว่าก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิตนั้นเธอเพิ่งโพสต์คลิปลงใน tiktok ก่อนที่เธอจะถูกพบว่าเสียชีวิตเพียงแค่ไม่นานเท่านั้นเอง           

              สำหรับผู้ตายนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบร่องรอยการถูกทำร้ายบริเวณลำคอและยังมีแผลอื่นๆตามร่างกายและในจุดเกิดเหตุนั้นยังพบมีดปากกาตกอยู่ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายและผู้ตายน่าจะมีความสัมพันธ์กันเป็นอย่างดีถึงสามารถเข้าไปในห้องพักของผู้ตายได้  และสภาพศพของผู้ตายยังอยู่ในลักษณะเปลือย ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเรียกตรวจสอบพยานหลักฐานและพยานบุคคลเพื่อที่จะได้สามารถจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษได้ เชื่อว่าไม่นานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะจับคนได้มาลงโทษได้อย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย.  สมัคร Gclub

เถียงกันสนั่นโซเชียลเกี่ยวกับการซื้อถังแก๊สใหม่ต้องจ่ายแพงแต่พอจะคืนกลับถูกกดราคา

          มีการถกเถียงกันในเพจดังเพจหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องของการซื้อถังแก๊สถังใหม่โดยมีคนนำมาโพสต์เกี่ยวกับการซื้อถังแก๊สใหม่นั้นว่าเขาต้องเสียเงินในการซื้อถังใหม่อยู่ที่ 2800 บาทในขณะที่เมื่อมีการใช้งานไปสักพักนึงจะขายถังแก๊สคืนให้กับร้านค้าปรากฏว่าถูกกดราคาเพราะขายร้านค้ารับซื้อคืนเพียงแค่หลังละ 1000 บาทเพียงเท่านั้นพวกเขามองว่าพวกเขากำลังถูกเอารัดเอาเปรียบเป็นอย่างมาก

        ในขณะที่มุมมองของร้านค้าที่รับซื้อถังแก๊สนั้นมองว่าทางใดที่ถูกนำมาขายให้กับร้านค้านั้นคือถังแก๊สเก่าที่มีการใช้งานแล้ว  ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถที่จะให้ราคาที่สูงกว่า 1000 บาทได้  โดยราคา 1000 บาทนี้เป็นราคาที่สามารถจ่ายได้สูงสุดเพราะโดยปกติแล้วร้านค้าที่รับซื้อถังแก๊สจะต้องตรวจสอบสภาพถังแก๊สก่อนว่ามีความเก่ามากน้อยแค่ไหนโดยจ่ายเงินให้ตามสภาพโดยรวมแล้วก็จะได้รับเงินคืนอยู่ที่ประมาณ 800-1000 บาทนั่นเอง

        อย่างไรก็ตามหลายคนกลับมองว่าเวลาที่เราซื้อถังแก๊สมาใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้วในขณะนั้นของแก๊สของเราคือถังแก๊สใหม่แต่เมื่อใช้งานแก๊สหมดแล้วแต่ก็มีการเปลี่ยนแก๊สถังใหม่ปรากฏว่าร้านค้าส่วนใหญ่ที่นำถังมาเปลี่ยนให้กับเรานั้นมักจะนำถังเก่าของร้านมาเปลี่ยนให้กลายเป็นว่าถังแก๊สของเราก็กลายเป็นถังต่อทันที

และนี่เองคือปัญหาที่ทำให้หลายคนมองว่าเป็นการถูกเอารัดเอาเปรียบนั่นเองเพราะร้านค้าที่นำแก๊สมาเปลี่ยนนั้นไม่ยอมเอาถังใหม่มาเปลี่ยนให้ดังนั้นถึงแม้ว่าจะมีการผ่านการใช้งานเพียงแค่ถังเดียวก็อาจจะทำให้เจ้าของถังแก๊สที่เพิ่งซื้อใหม่ได้ใช้ถังใบที่ 2 เป็นถังเก่าได้นั่นเองและเมื่อนำไปขายก็จะทำให้ราคาตกลงมา 

          อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในโลกออนไลน์ก็หลายคนก็มองตามสภาพของความเป็นจริงว่าเมื่อมีการซื้อถังแก๊สมาแล้วมีการใช้งานก็นับว่าเป็นถังแก๊สมือสองเปลี่ยนสภาพว่ามีการใช้งานแล้วและเก่าแล้วนั่นเองดังนั้นการที่จะให้คืนเงินทั้งหมด 2800 บาท

จึงไม่สามารถทำได้อยู่แล้วขอให้สังเกตที่ถูกนำมาขายนั้นจะไม่ใช่สภาพเก่ามากนักแต่เมื่อมีการใช้งานแล้วก็ถือว่าถังแก๊สนั้นมีการใช้งานและเสื่อมสภาพแล้วดังนั้นการคืนในราคาอยู่ที่ 1,000 บาทก็ยังถือว่าเหมาะสมและสามารถนำรับได้

        ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่าเกี่ยวกับเรื่องของการ ขายถังแก๊สคืนแล้วควรจะต้องคืนเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่นั้นคงไม่สามารถหาข้อยุติได้เพราะเนื่องจากการใช้งานถังแก๊สนั้นเป็นลักษณะของการใช้งานผังเวียนดังนั้นเราอาจจะเจอสภาพถังต่อและถังใหม่แตกต่างกันออกไป  แต่ถ้าหากใครไม่อยากที่จะถูกเอารัดเอาเปรียบอยากจะใช้ถังแก๊สใหม่ของตนเองตลอดก็สามารถใช้เป็นวิธีการนำถังแก๊สของตนเองไปเติมตามร้านแก๊สแทนได้

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บหลัก

เจ้าหนี้โพสต์ทวงเงินผ่าน facebook

เจ้าหนี้โพสต์ทวงเงินผ่าน facebook ไม่มีรูปภาพและไม่ได้ระบุชื่อลูกหนี้แต่ถูกตำรวจไลน์เรียกคุย 

        มีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการโพสต์ Facebook ผ่านทางเฟซส่วนตัวของตนเองโดยในเฟซนั้นเธอได้มีการนำข้อความของเธอซึ่งคุยกับชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตำแหน่งเป็นสารวัตรขอมาเคลียร์เกี่ยวกับเรื่องของที่หญิงสาวนั้น

ได้มีการโพสต์ข้อความลง Facebook จำนองเป็นการทวงหนี้ผ่านทางเฟสซึ่งสร้างความอับอายให้กับลูกหนี้และได้มีการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวจึงได้มีการทัก LINE มาหาเจ้าหนี้เพื่อที่จะเรียกตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ

       อย่างไรก็ตามข้อความที่เธอได้มีการแสดงให้ดูนั้นมีการระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวนั้นในขั้นแรกบอกให้เธอนั้นไปพบเพื่อทำการรับหมายเรียกแต่เมื่อเธอยืนยันที่จะไปพบและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยประสานงานลูกหนี้มาพบเธอด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกับบ่ายเบี่ยง

และยังอ้างกับเธอว่าถ้าเธอไม่มาจะออกหมายจับเธอซึ่งเธอนั้นก็ยืนยันว่าเธอจะไปโดยลูกแม่ต้องไปด้วยเพราะลูกหนี้นั้นติดเงินเธอถึง 5 แสนบาทแต่ไม่เคยที่จะนำเงินมาชดใช้เธอเลยอีกทั้งใน Facebook ส่วนตัวของลูกหนี้ก็ยังมีการอัพเดทวิถีชีวิตของตนเองใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยและเธอไม่เคยติดต่อลูกหนี้ได้เลยที่สำคัญข้อความที่เธอโพสต์ลงติดตามทวงหนี้นั้น

เธอไม่เคยเอ่ยชื่อถึงใครและไม่ได้เอ่ยพาดพิงไปถึงลูกหนี้คนดังกล่าวและแน่นอนว่าไม่มีรูปภาพใดๆที่จะสอนให้รู้เลยว่าลูกหนี้ที่เธอกำลังโทรอยู่นั้นเป็นใครแต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้ติดต่อมาเธอก็ต้องการพูดคุยกับลูกหนี้คนดังกล่าวเพื่อขอเงินห้าแสนบาท ของ เธอคืนซึ่งในข้อความ LINE ที่มีการคุยกันระหว่างเธอและเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นแสดงให้เห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นพวกเดียวกัน

กับลูกหนี้และหลายคนที่ได้อ่านข้อความในไลน์ต่างก็มองว่าชายหนุ่มคนดังกล่าวไม่น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงเพราะไม่มีความรู้ใดๆในการที่จะดำเนินคดีกับเจ้าหนี้เลยที่สำคัญการที่เจ้าหนี้พบข้อความไปแบบนั้นก็ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไรเพราะไม่ได้มีการอ้างถึงเลยว่าลูกหนี้ที่ใช้กำลังพูดถึงนั้นเป็นใคร

          สำหรับเรื่องราวในครั้งนี้ฝ่ายทั้งเจ้าหนี้สาวยืนยันว่าเธอจะดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุดในต้องต่อสู้กันในชั้นศาลก็ตามเพราะเงินจำนวนที่ลูกหนี้ของเธอยืมไปนั้นค่อนข้างสูงมากดังนั้นเธอต้องการที่จะได้เงินของเธอและครอบครัวของเธอคืน

         หากใครก็ตามที่ได้มีการติดตามข่าวนี้และอ่านข้อความใน LINE และค่อนข้างรู้สึกว่าข้อความที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเขียนถึงเจ้าหนี้นั้นเหมือนกับไม่ใช่เป็นตำรวจจริงซึ่งต้องรอดูการพิสูจน์ต่อไปว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ระบุชื่อและนามสกุลและลดตามที่มีการติดต่อมานั้นมีการสังกัดอยู่ที่สนไหนเป็นตำรวจจริงหรือไม่เพราะถ้าหากไม่ใช่ตำรวจจริงก็จะสามารถดำเนินคดีกับชายหนุ่มคนดังกล่าวที่แอบอ้างเป็นตํารวจได้เช่นเดียวกัน

 

สนับสนุนโดย  gclub ฟรีสปิน

ศาลพิพากษาแล้วคดีล่อซื้อกระทงติดลิขสิทธิ์ที่โคราชเมื่อปีที่แล้ว

         เชื่อว่าหลายคนคงยังจำเหตุการณ์ที่มีเด็กหญิงอายุ 15 ปีคนหนึ่งได้มีการประกาศทำกระทงขายใน Facebook ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงซึ่งหลังจากนั้นเธอได้ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมโดยมีชายหญิงคู่หนึ่งไปแจ้งความดำเนินคดีกับเธอด้วยข้อหาทำกระทงละเมิดลิขสิทธิ์

       ซึ่งในตอนนั้นมีการศึกษาเราเรื่องกันจนพบว่าชายหญิงดังกล่าวที่เป็นคนไปแจ้งความให้ตับเด็กหญิงอายุ 15 ปีนั้นได้เป็นคนติดต่อเด็กหญิงวัย 15 ปีให้ทำกระทงไปขายให้โดยสั่งในปริมาณที่ค่อนข้างสูงและยังกำหนดไว้ว่ากระทงที่ต้องการนั้นเป็นกระทงรูปการ์ตูนลายลิขสิทธิ์ หลังจากนั้นก็มีการโอนเงินค่ามัดจำให้กับหญิงสาววัย 15 ปีเร่งเงินเพียง 200 บาทเท่านั้นและเมื่อทำกระทงเสร็จเรียบร้อยมีการพับกระทงกันปรากฏว่าหญิงชายคู่นั้นได้มีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมเด็กวัย 15 ปี

        ในที่สุดก็นำมาซึ่งการสอบสวนเนื่องจากว่าเด็กหญิงวัย 15 ปียืนยันว่าชายหญิงที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับเธอนั้นเป็นคนสั่งให้เธอทำกระทงแบบผิดลิขสิทธิ์เอง   และเมื่อมีการขยายผลไปจึงพบว่าชายหญิงดังกล่าวนั้นทำเป็นขบวนการและทำมาหลายครั้งแล้วโดยหลอกลวงให้คนทำกระทงตัวการ์ตูนที่ติดลิขสิทธิ์หลังจากนั้นก็แจ้งความจับเพื่อต้องการได้เงิน   โดยทั้งคู่ได้เรียกร้องเงินจากผู้ปกครองของเด็กหญิงวัย 15 ปีเป็นจำนวน 5,000 บาทเพื่อไม่ต้องการให้เป็นคดีความ  และทั้งคู่ยืนยันว่าถ้าหากได้รับเงิน 5,000 บาทแล้วจะไม่ให้เด็กหญิงติดคุกอย่างแน่นอนจึงทำให้ผู้ปกครองของเด็กหญิงชำระเงิน 5,000 บาทให้

  จากนั้นทางด้านผู้ปกครองของเด็กหญิงจึงได้แจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีในข้อหาแอบอ้างเป็นตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์และข่มขู่เพื่อเอาเงินทองจากเด็กหญิงวัย 15 ปี ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา 

          อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้หญิงชายคู๋ดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีทัน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ผ่านมาได้ 1 ปีแล้วอย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 29 เดือนตุลาคมปีพศ2563

ศาลพิพากษาชั้นต้นได้มีการประกาศผลการพิพากษาคดีนี้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วยืนยันว่าชายหญิงที่ก่อคดีตับลิขสิทธิ์เพื่อที่ต้องการจะกรรโชกเงินจากเด็กหญิงวัย 15 ปีนั้นมีความผิดตามกฎหมายซึ่งจะต้องถูกจำคุก  โดยรวมระยะเวลาทั้งคู่แล้วอยู่ระหว่างประมาณ 2-3 ปีและกัน

          อย่างไรก็ตามแต่ทางด้านผู้ต้องหาเองขณะนี้ได้มีการขอยื่นเรื่องประกันตัวเองออกไปเพราะต้องการที่จะสู้คดีนี้   ซึ่งคดีนี้นับได้ว่าเป็นคดีตัวอย่างที่ศาลควรจะสั่งเอาผิดผู้ต้องหาให้ได้ เพื่อที่จะได้ไม่มีใครทำเลียนแบบนั่นเอง 

          

สนับสนุนโดย  gclub

คุณหมอห่วงว่าโควิดจะกลับมาในช่วงเด็กนักเรียนจะต้องเปิดเทอม

           กำลังเป็นที่คิดและหวั่นกลัวกันอยู่ในขณะนี้ว่าหากว่าทางโรงเรียนเปิดเทอมในวันที่ 1 กรกฎาคมจริงนั้นปรากฏว่าเด็กนักเรียนจะต้องเดินทางไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนกันจริงๆหลายคนก็มองว่าอาจจะทำให้การระบาดของไวรัสโคโรน่านั้นกลับมาระบาดใหม่ระลอก 2 อีกก็เป็นได้

ซึ่งถ้าเกิดว่าเกิดการระบาดครั้งที่ 2 นี้น่าจะมีความรุนแรงและจำนวนผู้ที่ติดเชื้อน่าจะเยอะกว่าเดิมเพราะการระบาดรอบ 2 นั้นเกิดมาจากการระบาดภายในรั้วโรงเรียนซึ่งมีเด็กนักเรียนเป็นจำนวนมากและที่สำคัญเป็นการระบาดในช่วงที่อุณหภูมิเหมาะกับการที่เชื้อโรคสามารถอยู่อาศัยได้นานขึ้น

เนื่องจากว่าเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าเชื้อโรคนั้นจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในบริเวณพื้นที่ที่มีอากาศร้อนมากๆซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงฤดูร้อนพอดีทำให้สามารถที่จะควบคุมการระบาดไวรัสได้ส่วนหนึ่งแต่เมื่อใดก็ตามที่ตอนนี้เข้าสู่สภาพดูฝนจะมีความเย็น

และความชื้นเกิดขึ้นซึ่งเป็นสภาวะที่เชื้อโรคนั้นชอบมากๆและยังมีสถานการณ์ที่เด็กต้องไปโรงเรียนซึ่งเด็กๆนั้นมักจะมีอาการป่วยไข้ในช่วงฤดูฝนกันบ่อยเช่นไข้หวัดหรือว่าไข้หวัดใหญ่และเมื่อมีการเป็นไข้หวัดกันแล้วก็อาจจะทำให้เสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ง่าย

และมีการแพร่ระบาดให้กับเพื่อนๆภายในห้องเรียนและโรงเรียนได้ง่ายเช่นเดียวกันเพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าเด็กนั้นมักจะไม่อยู่นิ่งเมื่อเจอกับเพื่อนๆก็มักจะมีการวิ่งและสัมผัสเนื้อตัวกันซึ่งการที่เด็กไม่สบายและไม่รู้ตัวเองก็ไม่สบายแล้วไปโรงเรียนเด็กส่วนใหญ่มักจะไม่ชอบที่จะใส่หน้ากากอนามัย

เพราะใส่แล้วอึดอัดดังนั้นอาจจะมีการไอหรือจามทำให้เพื่อนที่อยู่ในห้องเรียนอาจจะได้รับเชื้อไวรัสจากเด็กคนนั้นก็ได้แล้วเมื่อคนอื่นได้รับเชื้อก็อาจจะมีการส่งต่อเชื้อมาสู่นักเรียนห้องอื่นๆจากการสัมผัสกันซึ่งจะเป็นสิ่งที่ทำให้เชื้อไวรัสนั้นลุกลาม

โดยที่ไม่สามารถควบคุมได้แล้วถ้าเกิดมีการระบายครั้งที่ 2 นั้นการป้องกันหรือการจำกัดไวรัสนั้นอาจจะต้องถึงขนาดปิดเมืองกันเลยทีเดียวถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นจริงๆจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างใหญ่หลวงเช่นเดียวกัน

อันนั้นหลายคนจะมองว่าวิถีชีวิตการเรียนแบบใหม่ที่เป็นการเรียนออนไลน์จึงเป็นส่วนช่วยสำคัญที่จะทำให้เราสามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรน่าได้และที่สำคัญจะต้องมีการงดให้ไปเรียนพิเศษในช่วงเวลาเย็นหรือช่วงเสาร์อาทิตย์ด้วย

เพราะการที่ต้องไปเรียนพิเศษแล้วอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่นอย่างไหนแน่นในห้องเรียนแค่ๆก็ทำให้เสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้เช่นเดียวกัน

 

สนับสนุนโดย  ufabet

ชายก่อเหตุยิงน้องเขยตัวเอง พบเคยก่อเหตุยิงเพื่อนก่อนหลบหนีมาก่อเหตุซ้ำอีกรอบ

    เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดระยองได้รับแจ้งเหตุว่ามีเหตุยิงกันในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมายังจุดเกิดเหตุก็พบว่านายณัฐพลซึ่งเป็นคนจังหวัดฉะเชิงเทราถูกยิงที่บริเวณสะโพกฝั่งขวาได้รับบาดเจ็บทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยจึงได้พากันส่งผู้บาดเจ็บนั้น

ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลและจากการตรวจสอบพื้นที่พบว่ามีร่องรอยกระสุนปืนจำนวนหลายนัดตกอยู่จะได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานส่วนผู้ก่อเหตุนั้นได้ทราบว่ามีการหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วหลังจากก่อเหตุเดินวิ่งไปทางสวนยางดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการส่งกำลังเข้าติดตามผู้ก่อเหตุซึ่งสวนยางดังกล่าวนั้นอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุแค่เพียง 500 เมตรเท่านั้น

และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงแถวบริเวณสวนยางพบว่าผู้ก่อเหตุนั้นได้ยินเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่โชคยังดีที่ไม่มีตำรวจคนไหนได้รับบาดเจ็บหลังจากนั้นก็พยายามหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปบนถนนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการประสานงานปิดเส้นทางการจราจรทั้งหมด

เพื่อสกัดจับคนร้ายซึ่งคนร้ายนั้นไม่ยอมมอบตัวทางด้านญาติของคนร้ายก็พากันโทรเข้าไปเพื่อเรียกร้องให้คนร้ายมอบตัวจนในที่สุดคนร้ายก็ยืนยันที่จะมอบตัวแต่โดยดีโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้คนร้ายที่ก่อเหตุนั้นชื่อว่านายธีรวัฒน์เป็นคนจังหวัดกาฬสินธุ์ก่อนหน้านี้ที่จะมาก่อเหตุยิงน้องเขยที่จังหวัดระยองนั้นเขาเพิ่งก่อเหตุยิง

เพื่อนที่จังหวัดกาฬสินธุ์จนได้รับบาดเจ็บมาก่อนสาเหตุที่การยิงเพื่อนนั้นเนื่องจากว่าไม่ชอบน่าเพื่อนคนดังกล่าวจึงได้เอาปืนไปยิงเพื่อนจนได้รับบาดเจ็บแล้วก็หนีมาหลังจากนั้นก็มาอยู่ที่บ้านน้าสาวของตนเองซึ่งเปิดเป็นร้านคาราโอเกะ

และอยู่ได้ไม่ทันไรก็ก่อเหตุยิงน้องเขยของตนเองจนได้รับบาดเจ็บอีก 1 คนส่วนสาเหตุที่มีการยิงกับน้องเขยคนนี้นั้นเนื่องจากว่านายธีรวัฒน์แล้วก็ผู้บาดเจ็บก็คือนายณัฐพลนั้นเคยมีปัญหากันมาก่อนซึ่งตอนที่มีเหตุการณ์ยิงกันนายธีรวัฒน์นั้นเคยพูดเอาไว้ว่าอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น

จะตายตนเองซึ่งขนาดนั้นญาติพี่น้องที่อยู่ภายในร้านคาราโอเกะต่างก็พยายามกันพูดเกลี้ยกล่อมให้มอบตัวแต่เขาก็ไม่สนใจเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจึงได้มีการยิงสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปแต่ในที่สุดหลังจากที่นายธีรวัฒน์ได้คุยโทรศัพท์กับป้าของเขาสุดท้าย

ก็ยอมมอบตัวแต่โดยดีตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำตัวของนายธีรวัฒน์ไปสงบสติอารมณ์ที่สถานีตำรวจเรียบร้อยแล้วพร้อมทั้งยึดของการที่เป็นอาวุธปืนไว้ทั้งหมดและกำลังจะดำเนินคดีกับนายธีรวัฒน์ต่อไป

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ufabet บนมือถือ

เด็กชายวัย 14 มีพฤติกรรมก้าวร้าว

เด็กชายวัย 14 มีพฤติกรรมก้าวร้าวชอบจับหน้าอกและพกพาอาวุธมีด Social พากันแชร์หวังป้องกันภัย 

           ขณะนี้กำลังมีการแชร์ข้อความเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กชายวัย 14 ปีคนหนึ่งซึ่งมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงและมีการคุกคามทางเพศกับเด็กนักเรียนหญิงรวมถึงผู้ปกครองและคุณครูที่เป็นผู้หญิงดูเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดเพชรบุรีและข้อความที่มีการแชร์กันนั้น

เป็นข้อความที่ส่งออกมาจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งเป็นโรงเรียนที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อมีเด็กชายคนหนึ่งซึ่งแต่เดิมนั้นเขาเป็นเด็กที่มีความฉลาดหนังสือเก่งแต่หลังจากที่เขาประสบอุบัติเหตุกลับมาพฤติกรรมของเด็กชายคนดังกล่าวก็มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

โดยพฤติกรรมในรูปแบบใหม่นั้นเขาทั้งมีการลักเล็กขโมยน้อยรวมถึงชอบจับหน้าอกเพื่อนเด็กนักเรียนหญิงด้วยกันและพอนานไปก็เริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าวและจับหน้าอกผู้ปกครองที่เป็นผู้หญิงเวลาที่มาส่งบุตรหลานที่โรงเรียนรวมถึงกับหน้าอกและก้นของคุณครูที่โรงเรียนด้วยซึ่งเด็กชายคนดังกล่าวนั้นลาออกจากโรงเรียนไปเมื่อเขาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

แต่เมื่อไหร่ออกไปพฤติกรรมก้าวร้าวนี้ก็ไม่ได้หมดไปเพราะเด็กชายยังคงวนเวียนกลับมาในโรงเรียนและสร้างพฤติกรรมจากหน้าอกเด็กผู้หญิงและคุณครูที่โรงเรียนอยู่เป็นประจำซึ่งล่าสุดมีคนเห็นว่าเด็กชายคนดังกล่าวนั้นมีการพกมีดเข้ามาในโรงเรียนอีกด้วย

ที่สำคัญเด็กชายมักจะขู่เกี่ยวกับเรื่องของการทำร้ายตนเองและการทำร้ายคนอื่นสร้างความหวาดกลัวให้กับเด็กนักเรียนในโรงเรียนรวมถึงคุณครูและคณะผู้ปกครองที่ต้องมาส่งหลานที่โรงเรียนเป็นอย่างมากทางโรงเรียนจึงได้มีการออกหนังสือไปยังฝ่ายต่างๆให้มีการเตือนระวังเกี่ยวกับเด็กนักเรียนวัย 14 ปี

ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลอันตรายและเมื่อมีการแชร์พฤติกรรมเรื่องดังกล่าวออกไปปรากฏว่ามีหลายคนที่ออกมาเล่าถึงวีรกรรมของเด็กชายว่าเมื่ออยู่ข้างนอกตามท้องถนนทั่วไปเด็กชายก็มีพฤติกรรมก้าวร้าวจับหน้าอกรวมถึงจับก้นและขอเงินคนอื่นไปทั่ว

ซึ่งถ้าหากเด็กชายไปขอเงินใครแล้วไม่ได้รับเงินเขาก็จะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวทันทีทำให้ตอนนี้คนจังหวัดเพชรบูรณ์นั้นพากันต่างหวาดผวาเด็กชายวัย 14 ปีวันนี้จึงได้มีการแชร์ข้อความเตือนกันเป็นภายในจังหวัดเพื่อที่จะได้ให้ระวังเด็กชายวัย 14 ปี

คนนี้อยากให้เข้าใกล้เพราะไม่รู้เลยว่าหากเขาเข้ามาใกล้แล้วจะถูกเด็กชายวัย 14 ปีทำร้ายร่างกายอย่างไรบ้างหากขัดขืนกับสิ่งที่เขาต้องการซึ่งเรื่องนี้จะต้องให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดำเนินการจัดการอย่างเร่งด่วน  ไม่เช่นนั้นแล้วชาวจังหวัดเพชรบูรณ์คงยังหวาดผวาไม่กล้ามาโรงเรียนกันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเด็กนักเรียนหญิงที่ถือว่าเป็นกลุ่มที่เสี่ยงที่จะเกิดอันตรายมากที่สุด

 

สนับสนุนโดย  ทางเข้า ufabet มือ ถือ

ชายหนุ่มถูกเมียใช้ขวดแทงอาการสาหัส เหตุเพราะไม่ยอมตอบไลน์เมีย

          เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2563 ซึ่งสถานที่เกิดเหตุนั้นอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านให้ไปช่วยระงับเหตุสามีภรรยาทะเลาะกันโดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่บริเวณสถานที่ก่อสร้าง

ซึ่งจัดเป็นโซนบ้านพักคนงานก่อสร้างเอาไว้โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงก็ไปทำการแลกคู่สามีภรรยาที่กำลังทะเลาะกันซึ่งตัวสามีนั้นถูกแทงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยผู้บาดเจ็บนั้นชื่อว่านายสุนทรถูกเมียใช้ขวดปากฉลามแทงบริเวณแถวหน้าอกมีเลือดไหลออกมาก

กำลังนอนหายใจรวยรินในขณะที่ผู้ก่อเหตุนั้นเป็นภรรยาของนายสุนทรเองยืนรอมอบตัวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตรงบริเวณที่พักคนงานจากการที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวนายสุนทรส่งโรงพยาบาลพบว่าอาการค่อนข้างหนักเนื่องจากว่ามีเลือดคั่งอยู่ในปอดแล้วมีอาการปอดทะลุ

ซึ่งตอนนี้ทางโรงพยาบาลเองยังต้องคงต้องใช้เรื่องเครื่องดูดเลือดออกจากปอดอยู่ยังไม่ทราบอาการว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรสวนทางผู้ก่อเหตุที่เป็นเมียของนายสุนทรนั้น  ได้ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสาเหตุที่เกิดการทะเลาะวิวาทกันครั้งนี้เกิดขึ้น

เนื่องจากว่าสามีของเธอนั้นขออนุญาตเธอมากินเหล้ากับเพื่อนที่แคมป์คนงานซึ่งหลังจากปล่อยให้มาแล้วเธอได้มาตามสามีเนื่องจากว่าพัดลมที่ห้องเสียจึงให้ไปซ่อมแต่สามีของเธอก็อิดออดไม่ยอมไปสักทีจนเธองอนแล้วเดินกลับบ้านไปโดยคิดว่าอีกไม่นานสามีน่าจะกลับมา

แต่หลังจากที่ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วสามีของเธอก็ยังไม่กลับมาสักทีทำให้นางสาวจันทร์จิรามีการพิมพ์ข้อความส่งทางไลน์ออกไปตามนายสุนทรให้กลับมาบ้านเพื่อจะต้องซ่อมพัดลมแต่นายสุนทรกลับไม่ยอมอ่านไลน์ที่นางสาวเซ็นทาราส่งไปทำให้นางสาวเจนจิราโมโหจึงได้เดินถือขวดเปล่าไป

ที่แคมป์คนงานและเมื่อเจอกับนายสุนทรก็ได้มีการทะเลาะกันเกิดขึ้นและด้วยความโมโหนางสาวเจนจิราจึงใช้ขวดที่ถือมาตีไปที่หัวของนายสุนทรเติมเลือดออกทำให้นายสุนทรซึ่งขณะนั้นกินเหล้าเกิดอาการโมโหขึ้นจึงได้มีการทำร้ายนางสาวเจนจิราและด้วยต้องการที่จะต่อสู้เพื่อป้องกันตัวเอง

นางสาวเจนจิราจึงใช้ขวดที่ตีหัวหน้าสุนทร แตกเป็นปากฉลามแทงไปที่ร่างกายของนายสุนทรโดยมีการแทงไปจำนวนหลายครั้งมากทำให้นายสุนทรล้มลงและระหว่างนั้นเพื่อนๆที่กินเหล้ากับนายสุนทรต่างก็พยายามมาแย่งทั้งคู่ออกจากกันด้วยการตามเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุการณ์ 

 

สนับสนุนโดย    สมัคร Gclub

เนื้อวัวปลอมกำลังระบาดอย่างหนัก 

         ที่จังหวัดในภาคอีสานกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของเนื้อวัวปลอมกำลังระบาดอย่างหนักซึ่งได้มีการรายงานออกมาจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมปศุสัตว์โดยระบุว่าเมื่อวันที่ 19 เดือนตุลาคมปีพศ2563 เจ้าหน้าที่ได้มีการลองตรวจสอบพื้นที่ร้านอาหารต่างๆ

โดยเฉพาะร้านชาบูเนื่องจากว่าได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าเมื่อไปรับประทานอาหารที่ร้านชาบูแล้วสั่งเนื้อวัวมารับประทานแต่ปรากฏว่าเมื่อกินเข้าไปแล้วรู้สึกว่าเนื้อนั้นไม่ใช่เนื้อวัวแต่น่าจะเป็นเนื้อหมูมาผสมกับเนื้อวัวอีกทอดหนึ่ง

         อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการลงพื้นที่พร้อมกับนำตัวอย่างของเนื้อวัวมาทำการตรวจสอบปรากฏว่าในชิ้นเนื้อวัวที่มีการนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้านั้นมี DNA ของเนื้อหมูผสมรวมอยู่ด้วยซึ่งคาดว่านี่น่าจะเกิดจากปัญหาการทำเนื้อวัวปลอมขึ้นมาเนื่องจากว่าในปัจจุบันนั้นเนื้อวัวมีขนาดที่ราคาแพงมากซึ่งหากเปรียบเทียบกับเนื้อวัวและเนื้อหมูแล้วแตกต่างกันราคากิโลกรัมละ 100 กว่าบาทเลยทีเดียว

      และแน่นอนว่าส่วนใหญ่เมื่อมีการตรวจสอบกับทางร้านค้าเกี่ยวกับเรื่องการรับเนื้อวัวมานั้นก็จะปรากฏว่าจะเป็นการรับเนื้อวัวมาจากต่างประเทศซะส่วนใหญ่สำหรับการค้าที่พบปัญหาว่าเนื้อวัวมีการปนเปื้อนกับเนื้อหมูโดยปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีการรับเนื้อวัวนำเข้ามาจากประเทศอินเดียซึ่งเนื้อวัวเหล่านั้นจะถูกนำไปตามร้านอาหารต่างๆเพื่อเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารโดยช่องทางการซื้อขายกันนั้นจะซื้อขายกันด้วยการซื้อผ่านทางระบบออนไลน์ดังนั้นเมื่อมีการสั่งสินค้าทางร้านค้าจึงไม่สามารถตรวจสอบสินค้าก่อนที่จะได้รับได้จึงเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยนั้นมีปัญหาเนื้อวัวปลอมระบาดอยู่ในขณะนี้

         อย่างไรก็ตามถ้าหากใครต้องการที่จะซื้อเนื้อวัวเพื่อมาใช้ปรุงอาหารให้กับลูกค้ารับประทานก็ควรจะมีการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานว่าโรงงานหรือร้านค้าที่เราติดต่อซื้อเนื้อวัวนั้นมีมาตรฐานมากน้อยแค่ไหนเพื่อป้องกันการนำเนื้อวัวปลอมมาหลอกขายให้กับเจ้าของร้านนั้นเอง 

         และในขณะนี้ร้านที่ได้รับผลกระทบจากเนื้อวัวปลอมมากที่สุดก็จะเป็นร้านชาบูซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสำรวจพื้นที่ทุกจังหวัดในเขตทางภาคอีสานออกมาและพบว่ามีหลายร้านมากที่รับเนื้อวัวปลอมมาขายและในเนื้อวัวปลอมนั้นก็ยังมีเชื้อจุลินทรีย์ที่สามารถทำอันตรายต่อผู้ที่กินเข้าไปได้

           แล้วสำหรับประชาชนที่ซื้อเนื้อวัวรับประทานนั้นอาจจะไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่าได้ว่าเนื้อวัวนี้เป็นเนื้อวัวทองหรือเนื้อวัวจริงแต่เมื่อเราซื้อมาแล้วหากเรานำมาล่ะรับประทานก็ควรจะมีการปรุงให้สุกอย่างน้อยก็เพราะเลือกความเสี่ยงของการติดเชื้อจุลินทรีย์หรือเชื้อแบคทีเรียในเนื้อวัวปลอมนั่นเอง

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ีดฟิำะ