รถแตงโมทับคนงานตายคาสวน

เหตุการณ์ที่พระนครศรีอยุธยา รถแตงโมทับคนตาย โดยเมื่อวานนี้ทางตำรวจได้รับแจ้งมาว่ามีคนงานคนหนึ่งซึ่งเป็นคนงาน เก็บผลแตงโมอยู่ภายในของสวนแตงโม อยู่ในพื้นที่แห่งหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปรากฏว่าคนงานคนนี้ได้ถูกรถขนแตงโมทับเอา โดยทับจนเสียชีวิต

เจ้าตัวโดนทับจนเสียชีวิตคาที่โดยอยู่ใต้ท้องของรถ

เหตุเกิดขึ้นเมื่อวานซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็พยายามที่จะนำร่างออกจากพื้นที่โดยอยู่ใต้ท้องรถขนแตงโม หลังจากนั้นก็ได้นำร่างขึ้นรถเพื่อนำไปชันสูตรศพต่ออีกรอบหนึ่งที่โรงพยาบาลที่ธรรมศาสตร์ 

โดยเหตุการณ์มันเกิดขึ้นโดยนายสุโกมล อายุ 23 ปี รถแตงโมทับคนตาย เขาเป็นคนงานที่เก็บแตงโมที่สวนแห่งนี้ โดยเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นมาจากรถขนแตงโมมาเต็มหลังรถหลังจากที่คนงานเก็บแตงโมขนขึ้นไป แต่พอคนขับรถจะขับรถออกจากสวนเวลานั้นมันมีฝนตกลงมาด้วยทำให้ดินมันอุ้มน้ำ

จึงทำให้รถที่มีน้ำหนักมากตกหล่มทำให้ติดหลุ่มอยู่กับดินไปไหนไม่ได้สุดท้ายคนงานก็ได้โทรแจ้งเพื่อที่จะเอารถที่เป็นขับเคลื่อนสี่ล้อเข้ามาในสวน จากนั้นนำมาต่อพ่วงกับทางฝั่งรถที่ติดหล่มคันนี้เพื่อที่จะมีการลากจูงรถออกมาจากที่ติดอยู่ตรงนั้นให้ได้ แต่ว่าในตอนที่เขาพยายามจะลากจูงกันนั้น

โดยคนตายก็ได้ไปยืนอยู่ตรงบริเวณของท้ายรถคนที่ลาก

โดยคนตายได้ขึ้นไปอยู่บนรถคันที่ลากโดยจังหวะนั้นคนที่ขับรถลากเขาก็พยายามที่จะเล่งเครื่อง เพื่อที่จะกระชากรถที่ติดอยู่ให้มันหลุดจากหล่ม ปรากฏว่าในขณะที่กระชากนั้นทำให้คนตายได้ตกลงมาด้านล่าง 

พอตกลงมาปุ๊บมันก็เป็นจังหวะที่รถมันกระชากทำให้รถที่ตกล่มอยู่หลุดขึ้นมาจากหลุ่มพอดี ทำให้รถทับในทันที ดังนั้นรถข้างหน้าก็ยังเป็นหลุ่มอยู่แล้วรถก็มีความหนักมากจึงทำให้รถทับคนตายบี้ไปกับพื้น จึงทำให้เจ้าตัวนั้นเสียชีวิตอยู่ใต้ท้องรถแบบนี้ 

เหตุการณ์นี้หลังจากที่เจ้าตัวเสียชีวิตแล้ว

แล้วล่าสุดชาวบ้านในพื้นที่ได้บอกว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหรือบริเวณพื้นที่แถวนี้เลย โดยเฉพาะในสวนแตงโม โดยเก็บแตงโมมาเนี่ยไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลย โดยไม่เคยมีใครตายเช่นนี้มาก่อนและนี่ถือว่าเป็นศพแรก 

แล้วจะบอกว่าเห็นสภาพศพในครั้งนี้ถือได้ว่าน่าสลดใจเป็นอย่างมาก และก็รู้สึกกลัวจริงๆเพราะว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เคยที่จะเกิดขึ้นเลย จึงทำให้คนที่นี่สลดใจเป็นอย่างมากและคาดว่าทุกคนคงระวังกับเหตุการณ์อื่นๆเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นเช่นนี้อีกแน่นอน

 

สนับสนุนโดย.  ufabet ฝากถอน ไม่มีขั้นต่ำ ออโต้

ทหารพรานไทยชักธงขึ้นลั่นอย่าล้ำเส้น

ด้วยกรมหน่วยสอดแนมที่ 26 ได้ทำการนำธงชาติของไทยนั้นได้ทำการอันเชิญชวนขึ้นสู่ยอดเสา ที่สูงเด่นโดยฐานที่มั่นทำให้ทหารที่อยู่ตามชายแดนของจังหวัดหนึ่งร้อยดวงใจให้เป้นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทหารพรานไทย เสริมสร้างความภาคภูมิในความที่เรานั้นเป็นชาติไทย

เพื่อรำลึกถึงความเป็นชาติไทยเป็นการสร้างความภาคภูมิใจในชาติให้แก่กำลังพลทุกนายโดยได้มีประชาสัมพันธ์จากข่าว ของกรมทหารพรานที่ 36 ได้ระบุว่าประเทศไทย ภูมิของเราเป็นดินแดนที่อารยธรรมรุ่งเรืองสืบทอดกันมาเป็นระยะเวลายาวนานมีความเป็นเอกราชและอธิปไตยและบูรณภาพ

สามารถจรรโลงและพัฒนาประเทศตนเองฝ่าฟันอุปสรรคมานับประการจนมาถึงปัจจุบันด้วยดี

จนเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับความยกย่องจากนานาชาติประเทศไทยมีธงชาติไทยเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติภูมิแห่งชาติตามหลักสากลมาตั้งแต่สมัยโบราณ  ทหารพรานไทย ส่วนทางด้านการสู้รบระหว่างกองกำลังป้องกันตนเองของประชาชนชาวบ้านที่จัดตั้งขึ้นมาเองเพื่อต่อต้านการรัฐประหารของพลเอกมินอ่องลายได้มีรายงานว่า

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ. ศ. 2564 เวลาประมาณ 9:30 น กองกำลังกลุ่มติดอาวุธชนพื้นเมืองของเมียนมาร์ในรัฐกะยา กลุ่มพรรคก้าวหน้าแห่งชาติ colony หรือ KNPP ได้สนธิกำลังร่วมกับกลุ่มแนวร่วมสันติภาพประชาธิปไตยหรือ PDF ในรัฐกะยาได้โจมตีและเผาทำลายสถานีตำรวจเมืองปลายแขวงตองจีนรัฐฉานตอนใต้

ซึ่งอยู่ในเขตอิทธิพลของพรรคก้าวหน้าแห่งชาติ  KNPP โดยมีรายงานว่าทหารเมียนมาร์ได้สูญเสียจำนวน 13 นาย และมีตำรวจเมียนมาร์ถูกจับอีก 4 นาย โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ใช้อาวุธที่เป็นปืนแก๊ปที่ได้ผลิตขึ้นมาเองในการเป็นอาวุธเพื่อทำการโจมตีทหารและรัฐบาลทหารตำรวจเมียนมาร์ 

ดังนั้นแล้วในวันเดียวกันในช่วงเวลาประมาณ 20:00 น ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณสำนักงานสันติธรรมเมืองเวียร์มิดีรัฐกะเหรี่ยง 2 ครั้ง ในเวลาไล่เลี่ยกันไม่ถึง 10 นาที แรงระเบิดได้ทำให้กำแพงศาลบ้านพัก ราชการและรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ศาลจำนวน 1 คัน ได้รับความเสียหายแต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด

นอกจากนี้วันต่อมาในวันที่ 24 พฤษภาคมพศ 2564 เวลาประมาณ 05:00 น ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ชุมชน บ้านไร่อ้อยเมืองเวียงมีดี รัฐกะเหรี่ยงบริเวณนอกรั้วข้างถนนใกล้กับบ้านอูฐชิดลายอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศจากพักสหสามัคคีและพัฒนาหรือUSPPที่เป็นพรรคที่สนับสนุนกองทัพเมียนมาร์ 

โดยนั่นอาจเป็นการกระทำเพื่อตอบโต้ในกรณีที่พลเอกอาวุโสมินอ่องลายผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาร์ก็ได้ให้สัมภาษณ์สื่อเป็นครั้งแรกนับจากที่เขาก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของนางอองซานซูจีผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือ NLD

 

สนับสนุนโดย.    สมัคร sbobet โดยตรง

นายจ้างโรงงานทอผ้าไร้จิตสำนึก พนักงานป่วยติดไวรัส 60 คนแต่ยังบังคับให้ทำงานอยู่ หากใครหยุดงานไล่ออก

        นายจ้างโรงงานทอผ้าไร้จิตสำนึก   เมื่อวันที่ 29 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ 2564    ได้มีสำนักงานหนึ่งไปขอสัมภาษณ์พนักงานที่ทำงานอยู่ในโรงงานทอผ้าซึ่งมีข่าวว่ามีพนักงานติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 60 คนถูกนำตัวส่งไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลและมีพนักงานหลายคนออกมารวมตัวกันเรียกร้องให้เจ้าของโรงงานนั้นปิดโรงงานชั่วคราว 

          อย่างไรก็ตามผลความคืบหน้าจากที่พนักงานในโรงงานได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวนั่นก็คือหลังจากที่คนงานกว่า 1,500 คนพากันออกมาเรียกร้องนายจ้างของโรงงานให้ปิดโรงงานชั่วคราวปรากฏว่าทางนายจ้างนั้นยืนยันจะยังคงให้พนักงานทุกคนปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิมเนื่องจากว่าสาธารณสุขได้ลงพื้นที่มาทำการตรวจร่างกายและคัดกรองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

        ผลปรากฏว่าพนักงานนั้นไม่ได้ติดไวรัสโควิด-19 ดังนั้นทางเจ้าของโรงงานจึงยังต้องการให้พนักงานทุกคนยังคงปฏิบัติงานเหมือนเดิมโดยนายจ้างยืนยันว่าถ้าหากว่าพนักงานคนไหนต้องการที่จะหยุดงานเพื่อทำการกักตัวเอง 14 วันทางโรงงานก็จะพิจารณาเลิกจ้างทันที 

นายจ้างโรงงานทอผ้าไร้จิตสำนึก ทำให้ลูกจ้างจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจกลับมาทำงานเหมือนเดิมและไม่สามารถกักตัวได้ซึ่งมีพนักงานต่างก็พากันบ่นว่าพวกเขาเองนั้นต้องเลือกว่าตัวเขาต้องการความปลอดภัยของชีวิตและห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บห่างไกลจากการติดเชื้อไวรัสหรือไม่หรือพวกเขาจะเลือกที่จะต้องมาทำงานเพราะกลัวว่าจะอดตาย

         ซึ่งในขณะนี้มีพนักงานหลายคนที่ทำงานอยู่ในโรงงานนี้มาเป็นระยะเวลานานเกิน 10 ปีแล้วออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเขาก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนซึ่งแน่นอนว่าทุกคนยอมเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิช- ดีกว่าที่จะต้องมาเสียชีวิต

จากการอดอาหารตายเพราะการเสียชีวิตจากไวรัสโควิตนั้นพวกเขาอาจจะเสียชีวิตเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นแต่คนในครอบครัวอาจจะยังรอดแต่ถ้าหากว่าเขาหยุดงานคนในครอบครัวของเขาจะต้องอดตายตามไปด้วย

          อย่างไรก็ตามเมื่อเรื่องราวนี้มีการเผยแพร่ออกไปตามที่มีการเสนอข่าวทำให้ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาเปิดเผยว่าจะมีการเข้าไปยังโรงงานดังกล่าวเพื่อทำการคุยกับเจ้าของโรงงานซึ่งเป็นชาวต่างชาติเนื่องจากว่าโรงงานดังกล่าวนั้นเป็นโรงงานขนาดใหญ่มีพนักงานมากกว่า 1,500 คนและมีพนักงานติดเชื้อไวรัสเยอะมากเพราะฉะนั้นตามเงื่อนไขของรัฐบาลโรงงานจะต้องมีการปิดชั่วคราวเพื่อทำการทำความสะอาดโรงงาน 

         นอกจากนี้ทางด้านนายอนุทินก็ยังต้องการที่จะเดินทางไปพูดคุยกับทางเจ้าของโรงงาน ด้วยเช่นเดียวกัน  เนื่องจากว่าการปล่อยให้โรงงานยังคงเปิดให้บริการอยู่ทั้งที่มีผู้ติดเชื้อไวรัส covid นั้นจะทำให้เสี่ยงต่อการกระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 มาก 

 

สนับสนุนโดย.  ufabet ฝากเงิน ออโต้

นักศึกษาเวียดนาม ชวนแฟนเล่นหนังสดขณะเรียนออนไลน์

        นักศึกษาเวียดนาม ชวนแฟนเล่นหนังสดขณะเรียนออนไลน์  แต่ลืมปิดกล้องทำให้ครูและเพื่อนเห็นกันทั่วหน้า 

           มีการเปิดเผยออกมาจากเว็บไซต์ของประเทศเวียดนามเมื่อวันที่ 4 เดือนกรกฎาคมปีพศ 2564 ว่าในโลกออนไลน์ของประเทศเวียดนามในขณะนี้กำลังมีการแชร์คลิปของนักศึกษามหาวิทยาลัยคนหนึ่ง  ซึ่งคลิปดังกล่าวนั้นเป็นคลิปที่นักศึกษาชายคนดังกล่าวกำลังมีเซ็กส์กับแฟนสาวของเขา

        ชวนแฟนเล่นหนังสดขณะเรียนออนไลน์ ซึ่งในขณะนั้น นักศึกษาชายคนดังกล่าวได้มีการเข้าเรียนออนไลน์ร่วมกับเพื่อนในชั้นเรียนแต่นักศึกษาชายคนดังกล่าวนั้นดันลืมปิดกล้องหน้าคอมทำให้เพื่อนในชั้นเรียนออนไลน์รวมถึงคุณครูที่สอนอยู่ในขณะนั้นเห็นขั้นตอนลีลาการเล่นหนังสดของเขาและแฟนสาวของเขากันถ้วนหน้าสร้างความตกตะลึงให้กับเพื่อนในชั้นเรียนและคุณครูเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

         อย่างไรก็ตามในคลิปจะเห็นได้ว่าทางด้านคุณครูผู้สอนหลังจากที่เห็นภาพการมีเซ็กส์ของนักศึกษาชายกับแฟนสาวเขาก็ได้มีการพูดขึ้นมาให้นักศึกษาชายคนดังกล่าวได้ยินว่าในขณะที่อยู่ในชั้นเรียนตอนที่เรียนในห้องเรียนตามปกตินั้นนักศึกษาชายคนนี้ก็ไม่ค่อยสนใจการเรียนสักเท่าไหร่นักและมักจะพูดจาหยอกล้ออยู่กับแฟนสาวเป็นประจำพอมาเรียนออนไลน์ไม่ต้องเดินทางไปเรียนในห้องเรียนนึกศึกษาชายคนนี้ก็เหิมเกริมด้วยการมีเซ็กส์ให้คุณครูและเพื่อนในห้องเรียนได้เห็นกันเลยทำให้คุณครูนั้นทำอะไรไม่ถูก

          ซึ่งหลังจากที่นักศึกษาหนุ่มคนดังกล่าวได้ยินอาจารย์พูดเช่นนั้นก็ทำให้เขารู้ทันทีว่าในขณะนี้เพื่อนในห้องและคุณครูต่างก็เห็นว่าเขากำลังมีเซ็กซ์กับแฟนสาวซึ่งเขาก็รีบแต่งตัวทันทีหลังจากนั้นเขาก็ทำการรีบปิดกล้องคอมพิวเตอร์อย่างเร่งด่วนอย่างไรก็ตามภาพการมีเซ็กส์ของนักศึกษาชายคนดังกล่าวกับแฟนสาวนั้นถูกเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก

          เนื่องจากว่ามีเพื่อนนักศึกษาที่เรียนออนไลน์ด้วยการได้มีการอัดคลิปดังกล่าวเอาไว้และมีการเผยแพร่ออกไปสร้างความบอบช้ำในจิตใจให้กับนักศึกษาหนุ่มและแฟนสาวของเขาเป็นอย่างมากในตอนนี้ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเองก็ออกมายอมรับว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจริง

และนักศึกษาชายคนดังกล่าวก็รู้สึกเสียใจกับการกระทำของเขาเพราะหลังจากที่มีการปิดกล้องที่คอมพิวเตอร์แล้วนักศึกษาหนุ่มคนดังกล่าวก็มีการเขียนจดหมายมาถึงเพื่อนนักศึกษาในห้องเรียนทุกคนและอาจารย์ พร้อมทั้งขอโทษกับสิ่งที่เขาได้กระทำไป

         อย่างไรก็ตามทางด้านมหาวิทยาลัยวอนขอคนในโซเชียลให้หยุดการกระทำการส่งต่อคลิปดังกล่าวเพราะในขณะนี้นักศึกษาชายคนดังกล่าวนั้นรู้สึกอับอายเป็นอย่างมากและมันส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขาเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย.    sexybaccarat

ดราม่า ควรเรียนต่อหรือพอแค่นี้หลัง เด็ก ขอรับเงินบริจาค  สอบติดวิศวะการบิน 

          กำลังกลายเป็นที่พูดคุยกันมากในโลกออนไลน์เมื่อมีเด็กอายุ 18 ปีรายหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวขอรับเงินบริจาคเพื่อนำไปเป็นทุนการศึกษา  โดยเด็กชายคนดังกล่าวนั้นเป็นเด็กจังหวัดแพร่ซึ่งเป็นเด็กเรียนเก่งมากได้มีการสอบติดวิศวะการบิน   โดยสถาบันที่เด็กชายสอบติดนั้นคือสถาบันพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง   

        ส่วนสาเหตุที่ต้องออกมาขอรับเงินบริจาคในครั้งนี้นั่นก็เพราะว่าน้องจะต้องไปจ่ายเงินค่าเทอมในการลงทะเบียนครั้งแรกซึ่งจะต้องใช้เงินทั้งสิ้น 9 หมื่นบาทโดยจะต้องมีการไปลงทะเบียนภายในวันที่ 17 เดือนมิถุนายนปีพศ 2560 4 นี้แต่เนื่องจากว่าครอบครัวของน้องยากจนและน้องอาศัยอยู่กับแม่เพียงแค่สองคนเท่านั้นเพราะคุณพ่อของน้องนัทเสียชีวิตไปนานแล้วซึ่งคุณแม่ของน้องนั้นก็มีอาชีพเป็นแค่พนักงานขายของที่ร้านสังฆทานเพียงเท่านั้น

       อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องนี้มีการแชร์กันออกไปมีคนออกมาพูดถึงเรื่องการขอรับเงินบริจาคของเด็กชายคนดังกล่าวเป็นจำนวนมากโดยให้เหตุผลว่าถึงแม้ว่าเด็กชายนั้นจะเป็นเด็กเรียนดีและเป็นคนเดียวทั้งจังหวัดที่สอบติดคณะวิศวะการบินแต่หลายคนมองว่าการที่น้องจะเลือกเรียนวิชาอะไรนั้นน้องควรจะต้องดูด้วยว่าครอบครัวมีความพร้อมมากแค่ไหน

         เนื่องจากว่าการเรียนวิศวะการบินนั้นจะต้องมีการเรียนทั้งหมด 4 ปีส่วนค่าเทอมนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเทอมละประมาณ 400,000 บาทเกือบ 500,000 บาทซึ่งเป็นยอดเงินที่สูงมากในขณะที่ครอบครัวน้องนั้นมีรายได้เข้ามาเพียงแค่หลักหมื่นเท่านั้น  ทำให้หลายคนมองว่าน้องเลือกเรียนวิชาที่เกินกว่าครอบครัวจะสามารถส่งเสียได้และอันที่จริงแล้ว น้องสอบติดหลายคณะมากแต่เนื่องจากมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักบินจึงมีความตั้งใจที่จะเรียนวิศวะการบินนั่นเอง

         อย่างไรก็ตามคนในโลกออนไลน์มองว่าถ้าหากว่าน้องมีความตั้งใจอยากจะเรียนวิศวะการบินจริงๆก็ควรจะต้องมีการทำงานหาเงินแล้วกลับมาเรียนภายหลังหรือไปเรียนคณะอื่นในสายวิทย์แล้วค่อยกลับมาเรียนย้อนหลัง หลังจากที่การเงินพร้อมมากกว่านี้จะดีกว่า ในขณะเดียวกันก็มีคนในโลกออนไลน์บางคนมองว่าเมื่อเด็กเรียนดีและมีความตั้งใจจริงก็ควรจะส่งเสริมสนับสนุน  

      อย่างไรก็ตาม สำหรับสังคมไทยในปัจจุบันนั้นยังมีเด็กอีกมากมายที่ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือและยังมีเด็กอีกมากมายที่เรียนหนังสือเก่งและต้องการที่จะเรียนอย่างที่ตนเองใฝ่ฝันแต่ก็ไม่มีโอกาสซึ่งจริงๆแล้วการที่เราจะมีการบริจาคเงินช่วยเหลือเด็กนั้นควรจะทำเป็นหน่วยงานขึ้นมาแล้วแบ่งปันเด็กคนอื่นๆเพราะยังมีเด็กอีกมากมายหลายแสนคนที่ด้อยโอกาสและยังคงต้องการเงินช่วยเหลือในการสานฝันให้พวกเขานั้นเรียนจบและมีงานทำที่ดี

 

ขอบคุณผู้สนับสนุนเรื่องราวโดย.    gclub ฝาก ขั้นต่ำ 20

น้ำตาแทบไหลเมื่อลูกค้าสั่งอาหารตอนดึก แล้วเจอโน๊ตจากร้าน 

           มีผู้หญิงคนนึงได้สั่งอาหารมารับประทานที่บ้านเมื่อเปิดกล่องอาหารก็เจอกับ โน๊ตที่ทางร้านอาหารได้มีการเขียนเอาไว้ให้  หลังจากที่อ่านเสร็จแล้วน้ำตาของเธอก็แทบไหลทีเดียว

เพราะข้อความที่ทางร้านส่งมาให้เธออ่านนั้นมันสะท้อนให้เห็นว่าร้านอาหารกำลังได้รับความลำบากอย่างมากซึ่งเธอได้มีการถ่ายรูปโน๊ตที่เธอได้รับจากร้านอาหารดังกล่าวไปแชร์ใน Social Media ทำให้ผู้คนนั้นต่างก็ออกมาให้กำลังใจร้านอาหารดังกล่าวกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

         อย่างที่เรารู้ดีกันอยู่ในตอนนี้ว่าผู้ประกอบการร้านอาหารหรือเจ้าของธุรกิจต่างๆต่างก็ได้รับผลกระทบกันเป็นอย่างมากนับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัส covid-19  เพราะกิจการร้านอาหารนั้นแทบจะขายของของตนเองไม่ได้เลยนอกจากนี้ยังมีนโยบายของรัฐบาลที่มีการควบคุมเกี่ยวกับเรื่องของการขายอาหารอย่างเช่นการเว้นระยะห่างในการนั่งรับประทานอาหาร

     การกำหนดช่วงเวลาในการขายอาหารและการให้ขายอาหารด้วยกันเดลิเวอรี่แทนการนั่งกินที่ร้านซึ่งนโยบายต่างๆเหล่านี้ส่งผลทำให้ร้านอาหารนั้นต้องแบบเราต้นทุนค่อนข้างเยอะและลูกค้าก็มีจำนวนลดน้อยลงทำให้ในที่สุดร้านค้าหลายร้านนั้นก็ไม่สามารถที่จะทนดำเนินเปิดกิจการต่อไปได้ต้องปิดตัวไปกันเยอะมากเลยทีเดียว 

       อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าร้านค้าตอนนี้จะมีปัญหาเรื่องของลูกค้ามาใช้บริการน้อยมากแต่พวกเขาก็ยังต้องทนเปิดร้านขายอาหารเพราะไม่เช่นนั้นก็ไม่มีกิจการที่จะหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว  ล่าสุดมีหญิงสาวคนนึงเธอได้มีการโพสต์ Facebook ของเธอเองระบุว่าในช่วงเวลาตอนประมาณเกือบ 21:00 น แล้วเธอรู้สึกหิวมากจึงได้มีการสั่งอาหารเดลิเวอรี่มาส่งให้ที่บ้านโดยอาหารที่เธอสั่งไปนั้นเป็นล้านไข่แตก Healthy สไตล์คุณชายหมู

         เมื่อพนักงานมาส่งอาหารให้กับเธอและเธอรับมาเปิดเพื่อจะทำการกินอาหารเธอก็เห็นกระดาษใบหนึ่งซึ่งทางด้านเจ้าของร้านได้มีการเขียนมาถึงเธอด้วยในข้อความนั้นเป็นการเขียนโน้ตเอาไว้สำหรับขอบคุณเธอที่สั่งอาหารของทางร้านและยังขอร้องให้เธอช่วยรีวิวอาหารของทางร้านรหัสร้านทำอาหารอร่อยพร้อมทั้งยังระบุอีกด้วยว่าเธอเป็นลูกค้าคนแรกที่สั่งอาหารของทางร้านในวันดังกล่าวซึ่งวันดังกล่าวที่เธอสั่งนั้นตรงกับวันที่ 11 เดือนมิถุนายนปีพศ 2564 ทำให้เธอนั้นรู้สึกสงสารร้านอาหารนี้เป็นอย่างมาก

        เมื่อเธออ่านแล้วเธอรู้สึกว่าเธออยากจะร้องไห้เลยทีเดียวอย่างไรก็ตามหลังจากที่เธอมีการโพสต์เรื่องนี้ออกไปทำให้คนในโลกออนไลน์ต่างก็รู้สึกเห็นใจร้านอาหารกันเป็นอย่างมากพากันช่วยแชร์ข้อมูลของร้านอาหารนี้กันพร้อมทั้งสนับสนุนให้ใครก็ตามที่สนใจสั่งอาหารเดลิเวอรี่นั้นลองไปใช้บริการที่ร้านไข่แตกเฮลตี้สไตล์คุณชายหมูเพื่อเป็นการช่วยเหลือเจ้าของร้านอาหารในยุคที่เศรษฐกิจกำลังประสบปัญหาอย่างนี้ 

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บแม่

ต่างด้าวแอบหนีเข้าพรมแดนประเทศไทยกว่า50คน

เพราะว่าก่อนหน้านี้บ้านเรามีคัตเตอร์ที่เกิดจากแรงงานต่างด้าวที่ได้อพยพเข้ามาตอนนั้นก็ยังผวากันยังไม่หายจนเจ้าหน้าที่ต้องเร่งแทบจะปูนพรมแดงปิดทั้งพรมแดนเลยล่าสุดมีการพบว่าแบมีการลักรอบเดินเท้าเข้ามาของกลุ่มแรงงานต่างด้าวแล้วมาทีเดียวประมาณ 50 คน 

โดยได้ถูกควบคุมตัวเอาไว้ได้แล้วการบักรอบเข้ามาในครั้งนี้เขาจะเลือกช่องทางธรรมชาติทางทิศเหนือของช่องวังเป้าหมู่12บ้านน้ำโจนในตำบลอ่าวน้อยอำเภอเมืองประจวบศีรีขันธ์มันเป็นแนวของสันเขาในช่วงพื้นที่ไม่เกิน1กิโลเมตรตรงนี้พบว่าแรงงานเดินลัดเลาะเท้าเปล่าเข้ามาในไทยค่อนๆเดินเข้ามาเหมือนกับกองทัพมด

เจ้าหน้าที่เขาได้ปิดล้อมเอาไว้ได้50คนมีชาย31คนหญิงอีก19คนทั้งหมดรับสารภาพว่าการเดินทางเข้ามาในบ้านเราครั้งนี้เขากระจายกันไปตามจุดต่างๆ39คนบอกว่าหนูจะไปโรงงานที่มหาชัยอีก4คนบอกว่าจะไปทำงานที่พระราม9อีก4คนบอกว่าจะไปที่หัวหิน2คนบอกว่าจะไปสุราษฎร์ธานีแล้วอีก1คนบอกว่าจะไปกระบี่

ซึ่งก่อนที่จะเดินทางไปยังจุดต่างๆเขาจะต้องไปยังจุดพักแรงงานใกล้กันกับหอนาฬิกาบ้านมูด่องใกล้ชายแดนด่านสิงขรประมาณสัก3กิโลเมตรก่อนใช้เวลาในการเดินเท้าข้ามสันเขา2วัน2คืนเป็นการตั้งใจเข้ามาจริงๆเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าใครจะไปไหนตรวจวัดอุณหภูมิเดี่ยวจะพาไปกักตัวก่อน14วันแล้วค่อยส่งตัวไปดำเนินคดี

นอกจากนี้ก็ได้มีการรายงานข่าวใช้คำว่าปกปิดแหล่งข่าวเขากระซิบบิกว่ามีข้อมูลมามีนายทุนคนนึงเขาเป็นชาวพม่าฉายาในวงการค้าแรงงานเถื่อนเรียกว่า “ มิมิแง “ ตามประวัติแล้วเป็นเจ้าของปั๊มแล้วก็เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ของ อำเภอตะนาวศรี จังหวัดมะริด มีความสนิทสนมกับข้าราชการระดับสูงในจังหวัดประจวบมีความเชื่องโยงกับเจ้าหน้าที่รัฐ

ในส่วนจัดหาสำนักงานของรัฐเพื่อรับใบสั่งแรงงานเถื่อนจากโรงงานในพื้นที่ทำให้การจับกุมในรอบ10ปีที่ผ่านมาไม่เคยสาวถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลังเลยนี่หรือเปล่าที่จะกลายเป็นอีก1ปมที่พยายามจะแก้ไขกับการรับเงินแล้วก็พาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในประเทศและไม่ถูกกฎหมายแบบนี้

ซึ่งหากแรงงานเถื่อน50คนนี้เขาไปถึงปลายทางนายทุนโรงงานจะต้องจ่ายเงินค่านายหน้าโดยหักจากค่าแรงของพวกเขาที่ลักรอบเข้ามาในบ้านเราด้วยที่พูดมาทั้งหมดนนี้แปลความง่ายๆคำเดียวเลยค่ามนุษย์และอีกฝั่งนึงตรงข้ามที่พรมแดนติดกับ กัมพูชา เจ้าหน้าที่ตามรวบตัวบุคคลลักรอบข้ามพรมแดนผิดกฎหมายได้อีก29คนแต่ละคนเสียค่านายหน้าเหมือนกันคนละ4,500บาท

 

สนับสนุนโดย  Gclub ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

หญิงสาวท้อง 2 เดือน หายปริศนา ตำรวจคาดสามีฝรั่งเป็นคนฆ่า

          จากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ  ประจำสถานีตำรวจของจังหวัดน่าน   ได้รับแจ้งเหตุจากแม่ของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งระบุว่าลูกสาวของเธอนั้นหายตัวไปจากบ้านพักโดยหญิงสาวที่หายตัวไปนั้น กำลังตั้งท้อง 2 เดือน  โดยแม่ของหญิงสาวที่หายตัวไปยังระบุด้วยว่าลูกสาวของเธอนั้นมีสามีเป็นชาวต่างชาติซึ่งในขณะนี้ไม่สามารถติดต่อสามีของลูกสาวได้

    หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุคนหายก็ได้มีการระดมคนออกตามหาและมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆซึ่งพบว่าสามีของหญิงสาวที่หายตัวไปนั้นได้มีการขับรถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านพักและยังไม่เคยกลับมาที่บ้านอีกเลยดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการสันนิษฐานว่าหญิงสาวที่หายตัวไปนั้นอาจจะมีการเกี่ยวพันกับสามีของเธอก็เป็นไปได้

     อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการติดตามหาตัวอย่างหนักเมื่อวันที่ 6 เดือนมิถุนายนพ.ศ 2554 ช่วงเวลาประมาณ 15:00 น เย็นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถติดตามตัวสามีชาวฝรั่งของหญิงสาวที่หายตัวไปได้ในที่สุดซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าชายคนดังกล่าวนั้นหลบหนีไปอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่และเมื่อทำการจับกุมตัวมาได้จึงทำการสืบสวนสอบสวนชายชาวฝรั่งทันที

           ซึ่งในครั้งแรกนั้นเขาให้การรับสารภาพว่าเขาได้มีการลงมือทำร้ายภรรยาของเขาเองจนถึงแก่ความตายแล้วนำศพไปซ่อนไว้โดยเขาไม่ยอมบอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเขานำศพปัญญาของเขานั้นไปซ่อนไว้ที่ไหนซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้ระยะเวลาในการพูดคุยกับฝรั่งคนดังกล่าวอยู่นานพอสมควรในที่สุดเขาก็ให้การรับสารภาพพร้อมบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงสถานที่ซ่อนศพ

   โดยศพที่เขานำไปซ่อนนั้นถูกนำไปฝังเอาไว้ตรงบริเวณในป่าซึ่งป่าดังกล่าวนั้นอยู่ใกล้กับโรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลเรือง   ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการประสานงานเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ช่วยไปทำการขุดศพ เพื่อนำมาตรวจสอบและขณะนี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับทางสามีชาวฝรั่งคนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

     สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะใช้ระยะเวลาในการติดตามตัวคนร้ายได้ไม่นานก็สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้     ซึ่งถือว่าทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานด้วยความรวดเร็วเป็นอย่างมากโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านที่คอยให้เบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายจนสามารถจับกุมตัวมาได้ในที่สุดนั่นเอง 

           อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สามารถพบศพเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยศพนั้นถูกยัดใส่ถังขยะพลาสติกเอาไว้โดยมีการปิดฝาอย่างมิดชิดแล้วทิ้งไว้ตรงจุดเปลี่ยวซึ่งเป็นป่าละเมาะ

 

สนับสนุนโดย    gclub มือถือ ทดลองเล่น

เพื่อนบ้านทะเลาะกันเรื่องปัญหาที่จอดรถ 

เพื่อนบ้านทะเลาะกันเรื่องปัญหาที่จอดรถ  พฤติกรรมเกินรับไหวเอาผ้าอนามัยใช้แล้วมาแขวนจองที่

           เมื่อวันที่ 27 เดือนเมษายนปีพศ 2564    ได้ มีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งมีการนำภาพราวตากผ้าซึ่งมีผ้าอนามัยที่มีการใช้งานเรียบร้อยแล้วนำมาแขวนตากเอาไว้จำนวน 2 ชิ้น  โดยทางเจ้าของ Facebook ระบุว่าคนที่นำเอาผ้าอนามัยที่ใช้แล้วมาแขวนที่ราวตากผ้านั้น

นำราวตากผ้ามาวางไว้ตรงบริเวณดังกล่าวซึ่งเป็นหน้าบ้านแห่งหนึ่งโดยบ้านดังกล่าวในไม่มีคนอาศัยอยู่เพื่อทำการจองที่สำหรับใช้ในการจอดรถ   โดยจุดเกิดเหตุนั้นอยู่ตรงบริเวณตรงข้ามตึกคิวการเคหะสุขสวัสดิ์   ซึ่งอยู่ในถนนสุขสวัสดิ์ซอย 30    เขตราษฎร์บูรณะ  กรุงเทพฯนี่เอง 

          หลังจากที่ Facebook นี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ทำให้มีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมากเกี่ยวกับพฤติกรรมการเอาผ้าอนามัยที่ใช้แล้วออกมาปากให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้นได้เห็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งราวตากผ้าอนามัยดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ตรงข้ามร้านอาหารทำให้คนที่มาซื้ออาหารหรือคนที่เดินผ่านเมื่อเห็นผ้าอนามัยใช้แล้วมีการตากเอาไว้ต่างก็พากันเอื่อมระอา 

       เป็นนักข่าวได้มีการลงพื้นที่ไปยังสถานที่เกิดเหตุดังกล่าวนั้นซึ่งชาวบ้านให้ข้อมูลว่าผู้ที่นำผ้าอนามัยมาตากนั้นชื่อว่านางแนนซึ่งเป็นแม่ค้าขายอาหารอยู่ฝั่งตรงข้ามโดยนางแนนนั้นต้องการที่จะจองพื้นที่ดังกล่าวสำหรับเอาไว้จอดรถของตนเองและนางแนนมักมีปัญหาแย่งที่จอดรถกับนางปุ้ยซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ติดกันเพราะนางปุ้ยเองก็ต้องการที่จะจอดรถตรงบริเวณนั้นเช่นเดียวกันโดยทั้งคู่นั้นเคยทะเลาะกันมาครั้งหนึ่งแล้วในช่วงต้นเดือนเมษายนปีพศ 2564 นั่นเอง

             ซึ่งในครั้งนั้น  นางปุ้ย  ได้นำรถของตนเองไปทำการจอดตรงบริเวณที่ดังกล่าวทำให้นางแนนเกิดความไม่พอใจและได้นำอุจจาระไปปาที่รถของนางปุ้ย ดังนั้นจึงโมโหมากและนำกระถางต้นไม้ไปขว้างใส่หน้าร้านของนางแนน  ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นทั้งคู่ต่างก็พากันไปแจ้งความดำเนินคดีกับอีกฝ่ายซึ่งคดีดังกล่าวนั้นยังไม่สามารถตกลงกันได้โดยรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปทำการเคลียร์เจรจาชดใช้ค่าเสียหายกันอยู่

          แต่แล้ววันนี้ก็กลับมามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการจองที่จอดรถกันอีกทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวนั้นต่างก็พากันเอือมระอา ทั้งนางปุ้ยและนางแนน   ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงมายังพื้นที่เกิดเหตุแล้วและได้มีการเรียกทั้งสองคนมาพูดคุยเพื่อให้อยู่ด้วยกันอย่างสันตินอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการยึดราวตากผ้าเจ้าปัญหาเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วและจะมีการแจ้งข้อหากับผู้กระทำความผิดต่อไป 

 

สนับสนุนโดย.  ufabet

หญิงวัย 58 ปี ถูกใบสั่ง 200 ใบไม่เคยไปจ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาหาถึงบ้าน

            เมื่อวันที่ 22   เดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2564    ที่หมู่บ้านฟ้าไทย ในจังหวัดเชียงราย  เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นหน่วยงานของกรมทางหลวง  ได้เดินทางไปยังบ้านของหญิงคนหนึ่งอายุ 58 ปี  ชื่อว่านางสาวณิชาภัทร   ฐิติพงศ์ปรีดา   โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้มีการนำเอกสารที่ออกจากทางราชการเป็นหมายแสดงการจับกุมนางสาวณิชาภัทร 

           สาเหตุของการกระทำผิดนั้นในเอกสารระบุว่านางสาวณิชาภัทรได้มีการทำผิดการจราจรบนท้องถนนเนื่องจากว่ามีการขับรถฝ่าไฟแดงอยู่บ่อยครั้ง  ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งใบสั่งมาให้ถึงที่บ้านเป็นจำนวนถึง 200 ใบด้วยกันแต่ตลอดระยะเวลาที่นางสาวณิชาภัทรได้รับใบสั่งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นไม่เคยไปเสียค่าปรับเลย  

        ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการพูดคุยกับนางสาวณิชาภัทรถึงสาเหตุของการออกหมายจับกุมในครั้งนี้ว่าก่อนหน้านี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งเอกสารมาให้ที่บ้านโดยทำเป็นขั้นตอนต่างๆเริ่มตั้งแต่ส่งเรื่องของใบสั่งมาให้แต่ก็ถูกเพิกเฉยหลังจากนั้นก็มีการส่งใบเตือนให้ไปชำระค่าปรับแต่นางสาวณิชาภัทรก็ไม่ได้สนใจรวมถึงยังมีการส่งเอกสารตามขั้นตอนต่างๆทางกฎหมายเรื่อยมาและมีการออกหมายเรียกให้นางสาวณิชาภัทรไปติดต่อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจแต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อแต่อย่างไร

          ในที่สุดทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการส่งเอกสารไปยังศาลการปกครองเพื่อให้ศาลอนุมัติการออกหมายจับเพื่อนำตัวนางสาวณิชาภัทรไปดำเนินคดี  อย่างไรก็ตามนางสาวณิชาภัทรรับทราบข้อกล่าวหาทุกกรณีและยอมรับว่ามีใบสั่งส่งมาที่บ้านจริงและไม่เคยไปชำระเงินตามที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาจริง   

        สำหรับปัญหาการที่ผู้ขับขี่รถบนท้องถนนได้มีการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการจราจรนั้นส่วนใหญ่แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการส่งใบสั่งไปให้ถึงที่บ้านพร้อมทั้งยังมีภาพถ่ายขณะที่ก่อเหตุกระทำผิดเป็นหลักฐานเพื่อให้ประชาชนสามารถทำการตรวจสอบได้และเมื่อเราได้รับใบสั่งแล้วก็สามารถนำใบสั่งนั้นไปทำการชำระเงินที่สถานีตำรวจๆ  

        แต่ในขณะเดียวกันทุกวันนี้บางคนที่ได้รับใบสั่งนั้นก็จะมีการเพิกเฉยและไม่ยอมไปชำระค่าปรับต่างๆทำให้อาจกล่าวได้ว่าตอนนี้ผู้ที่ได้รับใบสั่งนั้นมีเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ไปเสียค่าปรับซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควรจะมีการปรับเปลี่ยนเกี่ยวกับกฎหมายการเสียใบสั่งใหม่ว่าหากมีการสะสมใบสั่งเกินจำนวนเท่าไหร่ให้มีการระงับใบขับขี่ถึงจะเป็นการทำโทษผู้กระทำผิดและเชื่อว่าถ้าหากมีบทลงโทษแบบนี้ผู้คนน่าจะหันมาสนใจการไปเสียค่าปรับกันมากขึ้น 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.  gclub ทดลองเล่นฟรี