ดาราตัวประกอบยิงตัวตายคาบ้าน ภรรยา งง ไม่ทราบสาเหตุการคิดสั้น 

    ดาราตัวประกอบยิงตัวตายคาบ้าน   เมื่อวันที่ 18 เดือนพฤษภาคม  ปี พ.ศ. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. บางบัวทองได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนฆ่าตัวตายภายในบ้านพักของตนเอง

โดยมีการใช้อาวุธปืนยิงตัวตายซึ่งบ้านที่เกิดเหตุนั้นอยู่ภายในเขตพื้นที่ของหมู่บ้านพฤกษาซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ของตำบลบางคูรัด   อำเภอบางบัวทอง    จังหวัดนนทบุรี  

      เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงพบว่าผู้เสียชีวิตนอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณโซฟากลางบ้านซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าวนั้นชื่อว่านายสุนันท์ ใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงตัวเอง เสียชีวิตในขณะที่ใกล้กับจุดพบศพนั้นมีภรรยาและลูกกำลังนั่งร้องไห้ด้วยความเข้าเสียใจที่ต้องสูญเสียสามีและพ่อไปนอกจากนี้ผู้เสียชีวิตยังเป็นนักแสดงตัวประกอบซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีเพราะยังคงแสดงละครให้เห็นกันอยู่มาจนถึงปัจจุบัน 

             จากการให้ข้อมูลของญาติของผู้เสียชีวิตระบุว่าผู้เสียชีวิตนั้นเคยรับเล่นละครเป็นตัวประกอบอยู่หลายเรื่องด้วยกันซึ่งถ้าหากใครเคยดูเรื่องขุนช้างขุนแผนผู้เสียชีวิตเองก็ได้มีการเล่นเป็นตัวประกอบในเรื่องนี้ซึ่งรับบทเป็นผู้ใหญ่บ้านอย่างไรก็ตามส่วนรับสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นทุกคนยังคงสงสัยเพราะไม่มีใครคาดคิดหรือไม่มีอะไรที่จะแสดงให้รู้ล่วงหน้าว่าผู้เสียชีวิตนั้นมีภาวะความเครียด

          โดยวันที่เสียชีวิตหรือว่าช่วงเวลาที่เสียชีวิตนั้นผู้เสียชีวิตยังคงดื่มเบียร์และมีการเปิดเพลงฟัง  นอกจากนี้ทุกคนก็ยังมารวมตัวกันที่บ้านของผู้เสียชีวิต

เพื่อช่วยกันปูกระเบื้องมีการพูดคุยปราศรัยกันเป็นปกติเป็นอย่างดีแต่สังเกตเห็นได้ว่าผู้เสียชีวิตนั้นไม่ค่อยคุยกับคนอื่นมากนัก   

           อย่างไรก็ตามในขณะที่คนกำลังทำงานกันอยู่นั้นปรากฏว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจึงรีบวิ่งมาดูแล้วก็พบว่าผู้เสียชีวิตได้ยิงตนเองตายเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงได้มีการโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมายังบ้านที่เกิดเหตุเพื่อทำการชันสูตรศพทันทีอย่างไรก็ตามทางด้านภรรยาของผู้เสียชีวิตระบุว่าทางผู้เสียชีวิตเองก็ไม่เคยเล่าปัญหาภาวะความเครียดใดๆให้ฟังซึ่งอาจจะมีการสันนิษฐานว่าน่าจะเครียดจากโรคที่รุมเร้าอยู่ในตอนนี้

          เพราะผู้เสียชีวิตนั้นเป็นหลายโรคด้วยกันไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจโรคเบาหวานโรคความดันโดยยังคงต้องไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการป่วยต่างต่างเหล่านั้นอยู่เรื่อยเรื่อยซึ่งอาจจะทำให้มีภาวะความเครียดเกิดขึ้นและตัดสินใจจบชีวิตของตนเองเพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระของคนอื่นอื่นในครอบครัวอย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นต่างพากันรู้สึกช็อคมากเพราะไม่คาดคิดว่าอยู่ดีๆนายสุนันท์จะใช้อาวุธปืนยิงตนเองตาย

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน ufabet

TCAS ยืนยัน ข้าราชการสอบ GAT/PATได้หากต้องการนำไปสมัครเรียนระดับอุดมศึกษา 

     TCAS ยืนยัน ข้าราชการสอบ GAT/PAT   จากกรณีเมื่อวันที่ 12 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2565 ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งที่เข้าไปทำการตอบ GAT/PAT  แล้วถึงเจ้าหน้าที่คุมสอบบังคับให้ยุติการสอบ

โดยอ้างว่าทำผิดกฎไม่สามารถเข้าสอบได้โดยมีระบุเงื่อนไขว่าข้าราชการไม่สามารถที่จะสอบGAT/PAT ได้เนื่องจากว่าการสอบGAT/PAT เปิดสำหรับเด็กนักเรียนที่จบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพียงเท่านั้น 

       อย่างไรก็ตามหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นได้มีการแสดงหลักฐานยืนยันว่าเธอจะนำเอกสารผลการสอบGAT/PAT ไปเพื่อยื่นสมัครการสอบเข้ามหาวิทยาลัยโดยเธอได้มีการแสดงเอกสารระเบียบการของทางมหาวิทยาลัยที่เธอต้องการจะเรียนต่อให้ทางเจ้าหน้าที่คุมสอบได้ดูแต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่าเธอทำผิดกฎระเบียบไม่สามารถที่จะเข้าสอบได้ทำให้หญิงสาวคนดังกล่าวถูกเชิญออกจากห้องสอบและเธอนั้นไม่สามารถที่จะเข้าสอบมหาวิทยาลัย

ที่เธอต้องการได้เนื่องจากว่าเธอไม่มีผลคะแนนGAT/PATไปยืนยันให้กับทางมหาวิทยาลัยนั่นเองทั้งนี้หญิงสาวคนดังกล่าวได้มีการทดลองเรื่องราวที่เกิดขึ้นลงในโซเชียลมีเดียจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก 

         อย่างไรก็ตามล่าสุดทางด้านผู้จัดการระบบสอบ  TCAS ได้ติดตามข่าวสารไปทาง Social Media ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้และได้มีการออกมาพูดถึงประเด็นเรื่องของคุณสมบัติผู้ที่จะเข้าสอบ  GAT/PAT เรื่องถึงกฎเกณฑ์ต่างๆว่าสำหรับข้าราชการสามารถที่จะเข้าสอบGAT/PAT แล้วไม่ถือว่ามีความผิดหรือทำผิดกฎระเบียบบังคับแต่อย่างใดเพียงแต่เงื่อนไขของการนำคะแนนข้อสอบGAT/PAT

ที่ได้นั้นจะต้องนำไปใช้ในการยื่นเอกสารในการเข้าเรียนต่อระดับอุดมศึกษาเท่านั้น

ซึ่งตามข้อมูลของหญิงสาวที่กำลังมีการใช้กันในโลกออนไลน์นั้นเธอทำถูกระเบียบข้อบังคับทุกอย่างเพราะเธอต้องการนำคะแนนGAT/PAT ไปยื่นเข้าเพื่อเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยนั้นเอง

         อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ของ  TCAS ยังระบุอีกด้วยว่าการที่ทางเจ้าหน้าที่คุมสอบ  GAT/PATมีการเชิญตัวหญิงสาวคนดังกล่าวออกจากห้องสอบทันทีเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำถ้าหากมีเหตุการณ์สงสัยเกี่ยวกับเรื่องของกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆควรรอให้หญิงสาวคน

ดังกล่าวทำข้อสอบให้เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงค่อยเชิญตัวมาพูดคุยกันเพราะการทำแบบนี้จะส่งผลทำให้หญิงสาวคนดังกล่าวไม่ได้รับความเป็นธรรมและเธอต้องเสียเวลา 1 ปีถึงจะสามารถติดต่อเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้

      นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของคุณสมบัติของคนที่เข้าสอบอีกด้วยว่าเจ้าหน้าที่ควรจะต้องมีการนำเอกสารไปติดไว้บริเวณหน้าห้องคุมสอบเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าสอบได้เพื่อที่นักเรียนที่มาสอบหรือแม้แต่เจ้าหน้าที่บางคนอาจจะได้อ่านรายละเอียดของคุณสมบัติของผู้ที่ทดสอบเพื่อเป็นการตรวจสอบเบื้องต้นก่อนปล่อยให้คนเข้าห้องสอบนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    ufabet

หนุ่มขอแฟนแต่งงานแต่ถูกปฏิเสธ เมื่อรู้เหตุผลเหตุผลถึงกับหน้าหงาย 

หนุ่มขอแฟนแต่งงานแต่ถูกปฏิเสธ เมื่อวันที่ 26 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 ได้มีชายหนุ่มรายหนึ่งได้มีการโพสต์เล่าเรื่องราวของตนเองผ่านทางพันทิพย์โดยมีการระบุว่าเขากำลังมีปัญหาตัดสินใจไม่ได้

ว่าจะทำอย่างไรต่อไปเนื่องจากว่าเขานั้นได้ขอแฟนสาวแต่งงานแต่ถูกปฏิเสธโดยใช้หนุ่มรายนี้ได้เล่าว่าเขากับแฟนสาวของเขานั้นคบหาดูใจกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยจนผ่านไป 7 ปีซึ่งตั้งแต่เรียนจบมานั้นแฟนสาวของเขาก็ย้ายมาอยู่ที่บ้านของเขามาโดยตลอดโดยบ้านของเขานั้นมีทั้งพ่อและแม่ของเขาอาศัยรวมอยู่ด้วยทำให้ทุกคนรับรู้ว่าทั้งคู่นั้นเป็นแฟนกันและพร้อมที่จะใช้อนาคตร่วมกัน

      อย่างไรก็ตามชายหนุ่มคันนี้ระบุด้วยว่าก่อนหน้านี้หลังจากคบกันได้ 5 ปีซึ่งเป็นช่วงที่แฟนสาวเพิ่งเรียนจบใหม่ๆเขาได้ขอแฟนสาวของเขาแต่งงานแต่แฟนสาวของเขานั้นปฏิเสธโดยให้เหตุผลในการปฏิเสธในครั้งนั้นว่ายังไม่พร้อมซึ่งตัวเขาเองก็เข้าใจว่าแฟนสาวของเขายังคงอยากใช้ชีวิตแบบอิสระและยังคงต้องการหางานทำเพื่อจะได้มีเงินมีงานเป็นหลักเป็นแหล่งตั้งตัวเองได้เสียก่อนจึงไม่ได้เร่งรัดแฟนอีก

        อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้ซึ่งผ่านมา 2 ปีแล้วจากการขอแต่งงานครั้งแรกโดยวันดังกล่าวนั้นตรงกับวันเกิดของแฟนสาวเขาจึงได้ทำเซอร์ไพรส์ขอแฟนสาวแต่งงานซึ่งขณะที่ขอแฟนสาวแต่งงานนั้นคนในครอบครัวของฝ่ายชายก็อยู่ด้วยมีทั้งพ่อและแม่

แต่แฟนสาวก็ยังคงปฏิเสธอีกแม่ของผู้ชายจึงได้เข้าไปช่วยพูดกับแฟนสาวให้ว่าแฟนสาวไม่สะดวกมีเรื่องไหนอยากจะได้เงินค่าสินสอดเท่าไหร่หรือจัดงานแบบไหนฝ่ายชายตามใจฝ่ายหญิงทั้งหมด

      แต่แล้วก็เกิดเรื่องราวที่ชวนช็อคจนแม่ฝ่ายชายเกือบหน้าหงายเนื่องจากว่าเหตุผลที่แฟนสาวของลูกชายตอบกลับมานั้นก็คือเธอไม่ได้คิดอะไรเกินเลยถึงขนาดที่อยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในอนาคตโดยฝ่ายหญิงระบุว่าเธออยู่กับฝ่ายชายเพียงแค่ต้องการเป็นคู่นอนเป็นเพื่อนนอนเท่านั้น ชายหนุ่มคนดังกล่าวเล่าว่าหลังจากที่แม่ของเขามาเล่าถึงเหตุผล  ufabet ฝาก-ถอน ออโต้   ให้เขาฟังเขาก็ไม่รู้ว่าเขาควรจะทำอย่างไรต่อไปดีจึงนำมาโพสต์ถามคนในโลกออนไลน์ซึ่งปัจจุบันนี้แฟนสาวได้มีการเก็บเสื้อผ้าย้ายไปอยู่กับเพื่อนได้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้วและเขากำลังกลุ้มใจว่าเขาควรจะง้อให้แฟนกลับมาหรือควรจะปล่อยให้เธอออกไปจากชีวิต 

         แน่นอนว่า comment ต่างๆที่เข้ามาตอบใส่ชายนั้นก็แนะนำให้ฝ่ายชายนั้นและหาผู้หญิงคนใหม่แต่งงานแต่หลายคนก็ไม่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นเรื่องจริงอย่างไรก็ตามล่าสุดฝ่ายชายได้ออกมาโพสต์อัพเดทเรื่องราวว่าเขาได้คุยกับฝ่ายหญิงเป็นที่เรียบร้อยแล้วและตัดสินใจจบความสัมพันธ์กัน

ปลดล็อค ต้นกัญชา คนไทยพากันปลูกติดบ้านเพียบ

          นับตั้งแต่ที่ทางรัฐบาลได้มีการประกาศการแก้กฎหมายออกมาใหม่เกี่ยวกับกฎหมายยาเสพติด  โดยมีการระบุว่าต้นกัญชาที่เราเคยห้ามเสพห้ามขายห้ามปลูกเพราะเป็นคุณผิดกฎหมายและเป็นยาเสพติดนั้นปัจจุบันได้รับการปลดล็อคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ปลดล็อค ต้นกัญชา  ซึ่งนับตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2565 เป็นต้นมากัญชาจะกลายเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายประชาชนสามารถที่จะปลูกกัญชาเอาไว้กินไว้ใช้ได้   

         อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่านับตั้งแต่มีการประกาศปลดล็อคให้กัญชาเป็นพืชที่ถูกกฎหมายนั้นปรากฏว่าในโลกออนไลน์ต่างก็มีการแชร์คลิปแชร์ภาพตรวจว่าบ้านของตนเองนั้นมีการปลูกต้นกัญชาเอาไว้กันเป็นจำนวนมากซึ่งหลายครั้งที่ชาวโซเชียลนั้น

ได้เข้าไปแซวภาพถ่ายต้นกัญชาซึ่งบ้านนั้นต้นกัญชามีขนาดสูงเท่ากับความสูงของคนเลยทีเดียวหรือหลายคนมองว่ากระทรวงสาธารณสุขพึ่งทำการปลดล็อคให้สามารถปลูกต้นกัญชาได้แต่ทำไมบ้านของคนไทยหลายคนนั้นถึงปลูกต้นกัญชาที่มีความสูงมากเหมือนกับถูกมานานแล้ว

        ล่าสุด  พิธีกรและผู้ประกาศข่าวชื่อดังของช่อง 3 อย่างนายสรยุทธสุทัศนะจินดาเองก็ได้มีการโพสต์ภาพตนเองกับต้นกัญชา 1 ต้นโดยจะเห็นได้ว่าต้นกัญชานั้นมีความสูงมากจนคนในโซเชียลนั้นได้เข้าไปเขียนแซวเกี่ยวกับความสูงของต้นกัญชาของนายสรยุทธ

ซึ่งนายสรยุทธเองก็ได้มีการตอบกลับมาทันทีว่าต้นกัญชาที่ตนเองนำมาอวดในโซเชียลนั้นได้มาจากกระทรวงสาธารณสุขมอบให้ไม่ได้มีการปลูกมาตั้งแต่ต้น 

          อย่างไรก็ตามถ้าหากไปดูในโลกออนไลน์ตอนนี้จะเห็นได้ว่าไม่ใช่เพียงแค่บ้านของนายสรยุทธเท่านั้นที่มีต้นกัญชาสูงต้นใหญ่แม้แต่บ้านของชาวบ้านธรรมดาทั่วไปเองก็มีการนำต้นกัญชามาปลูกเอาไว้ภายในบ้านและก็เป็นต้นที่มีความสูงใหญ่อย่างเช่นชาวจังหวัดขอนแก่นรายนึงก็ได้มีการนำต้นกัญชามาปลูกบริเวณรั้วแถวหน้าบ้านโดยระบุว่าต้องการให้ต้นกัญชานั้นได้แดดได้ลมอย่างเต็มที่

         ยังไงก็ตามจะเห็นได้ว่าประชาชนหลายคนนำต้นกัญชามาปลูกไว้ที่บริเวณหน้าบ้านเพราะถูกกฎหมายไว้ถูกจับกุมอีกต่อไปแล้วซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นได้ว่าต้นกัญชาและมีขนาดสูงนั่นแสดงให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่นักศึกษาต้องการปลูกต้นกัญชาเอาไว้ภายในบ้านของตนเองและเมื่อทางรัฐบาลมีการปลดล็อคให้กัญชานั้นเป็นสิ่งถูกกฎหมายทุกคนจึงต่างร่วมใจกันนำต้นไม้ของตนเองออกมาปลูกหน้าบ้านกันอย่างคึกคักนั่นเอง 

          อย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขมองว่าตอนนี้ชาวบ้านสามารถที่จะปลูกกัญชาได้แล้วแต่การปลูกนั้นควรจะมีลิมิตไม่ควรปลูกมากจนเกินไปและที่สำคัญควรจะแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำจังหวัดของตนเองว่าวัตถุประสงค์ในการปลูกกัญชานั้นมีเอาไว้ครอบครองเพื่ออะไรรวมถึงที่บ้านจะมีการปลูกกัญชาไว้กี่ต้น

สำหรับข้อมูลการแพทย์กระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับรายละเอียดของจำนวนต้นกัญชาและวัตถุประสงค์ในการปลูกกัญชานั้นสามารถแจ้งผ่านทาง mobile app ได้เลยโดยที่ประชาชนไม่จำเป็นที่จะต้องไปรายงานถึงสำนักสาธารณสุขนั้นเอง

 

สนับสนุนโดย  ufabet สมัครสมาชิก

สลดรับสงกรานต์แม่กับลูกสาวขี่มอเตอร์ไซค์ ถูกรถไฟชนดับ 2 ศพ 

        สลดรับสงกรานต์แม่กับลูกสาวขี่มอเตอร์ไซค์  เมื่อวันที่ 12 เดือนเมษายนปีพศ. 2565 ช่วงเวลาประมาณ 11:30 น เจ้าหน้าที่ตำรวจสภพระนครศรีอยุธยาได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีอุบัติเหตุแถวบริเวณวัดพนัญเชิง

ซึ่งเป็นจุดบริเวณที่มีการกั้นทางข้ามทางรถไฟโดยอุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อรถไฟชนรถมอเตอร์ไซค์ของแม่ลูกคู่หนึ่งจนแม่ลูกคู่ดังกล่าวนั้นเสียชีวิตทั้งคู่   

          เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงก็พบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 คนคนแรกอายุประมาณ 32 ปีชื่อนางสาวกาญจนาเสียชีวิตอยู่บริเวณรางรถไฟที่ 2-3 โดยจุดที่นางกาญจนาเสียชีวิตนั้นอยู่ห่างจากบริเวณทางข้ามรถไฟประมาณ 50 เมตรด้วยกันสภาพศพของนางกาญจนานั้นร่างแหลกเหลวเนื่องจากว่าถูกรถไฟบดขยี้ห่างออกไปจากศพของนางสาวกาญจนาประมาณ 10 เมตร

ซึ่งบนอยู่บนรางรถไฟที่ 3 พบรถมอเตอร์ไซค์สภาพเสียหายทั้งคันนอกจากนี้บนรางรถไฟรางที่ 2 แต่ห่างจากจุดที่เจอรถมอเตอร์ไซค์ไปประมาณ 20 เมตรพบเด็กหญิงนอนเสียชีวิตสภาพแปลกๆเช่นเดียวกันทราบต่อมาชื่อเด็กหญิงฟ้ารุ่งซึ่งเป็นลูกสาวของนางกาญจนานั่นเองซึ่งอายุเพียงแค่ 11 ปีเท่านั้น 

           จากการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่การรถไฟระบุว่าช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุนั้นเป็นช่วงเวลาที่รถไฟวิ่งมาตรงบริเวณจุดเกิดเหตุพอดีซึ่งมีรถไฟวิ่งมา 2 ขบวนขบวนแรกเป็นรถไฟธรรมดา

ส่วนอีกขบวนหนึ่งเป็นรถไฟรถด่วนอย่างไรก็ตามตรงจุดบริเวณดังกล่าวมีไม้กั้นไม่ให้ประชาชนข้ามในขณะที่รถไฟกำลังวิ่งผ่านซึ่งในช่วงที่เกิดอุบัติเหตุไม้กั้นยังคงทำงานตามปกติแต่พบว่าแม่ลูกที่เสียชีวิตคู่ดังกล่าวนั้นได้มีการขับรถซิกแซกไม้กั้นเพื่อที่จะข้ามทางรถไฟโดยทางเจ้าหน้าที่การรถไฟเชื่อว่านางกาญจนาผู้ขี่รถมอเตอร์ไซค์แล้วชนกับรถไฟนั้นอาจจะไม่ทราบว่ามีรถไฟมาพร้อมกัน 2 ขบวนและขบวนที่ตามหลังมานั้นเป็นรถด่วนซึ่งจะวิ่งเร็วกว่ารถไฟธรรมดาทั่วไปจึงทำให้ถูกรถไฟด่วนชนเสียชีวิตคารางรถไฟนั่นเอง

         นอกจากนี้ญาติของผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นยายของเด็กหญิงวัย 11 ขวบได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าโดยปกติแล้วนางกาญจนาและลูกสาวมักจะออกไปที่ตลาดซึ่งอยู่แถวบริเวณวัดพระญาติเพื่อทำการรับจ้างการต้มให้กับเหล่าบรรดาแม่ค้าพ่อค้าที่มาขายของภายในตลาดโดยในวันเกิดเหตุนั้นแม่ลูกคู่ดังกล่าวก็พากันออกไปปฏิบัติงานตามปกติแต่ต้องประสบอุบัติเหตุโดนรถไฟชนสีก่อน   

         สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นเพราะความประมาทของผู้ขับขี่เพราะทุกครั้งที่รถไฟจะผ่านจะมีไม้กั้นเอาไว้ดังนั้นแนะนำว่าควรจะต้องมีการรอให้ไม้กั้นยกขึ้นสูงถึงจะสามารถขี่รถข้ามผ่านได้อย่าพยายามที่จะฝ่าฝืนขับรถข้ามรางรถไฟทั้งที่มีไม้ปิดกั้นขวางอยู่เพราะแสดงว่ารถไฟยังคงจะมีการวิ่งอยู่และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย     สล็อตยูฟ่าเว็บตรง

หนุ่มเศร้า ตามแฟนสาวหวังไปสู่ขอถึงบ้านแต่พบเรื่องที่ชวนช็อค สุดท้ายไม่ได้แต่งงานกัน

 

     หนุ่มเศร้า ตามแฟนสาวหวังไปสู่ขอ  เป็นเรื่องราวของชายชาวเวียดนามคนหนึ่งซึ่งถูกเปิดเผยมาจากเว็บไซต์ของ  อีทูเด โดยเรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 12 เดือนกุมภาพันธ์ปีพ.ศ. 2565

ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อชาวเวียดนามคนหนึ่งที่ชื่อว่านายเอ  ได้พบรักกับหญิงสาวคนหนึ่ง  ซึ่งทั้งคู่นั้นได้อาศัยอยู่ในนครโฮจิมินห์และคบหาดูใจกันรวมถึงอาศัยอยู่ด้วยกันมาปีกว่าโดยทั้งคู่มองว่าความรักเริ่มสุกงอมและพร้อมที่จะแต่งงานมีครอบครัวแล้ว   โดยทั้งคู่ได้วางแผนครอบครัวเอาไว้ด้วยกันซื้อบ้านที่จะใช้อาศัยอยู่ด้วยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

         หลังจากนั้นทั้งคู่จึงได้ชักชวนกันไปที่บ้านของฝ่ายหญิงเพื่อที่จะไปพูดคุยกับครอบครัวของฝ่ายหญิงและสู่ขอฝ่ายหญิงแต่งงาน  อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเดินทางไปที่บ้านของฝ่ายหญิง ปรากฏว่านายเอต้องรู้สึกกับเรื่องราวที่ชวนชมเป็นอย่างมากเมื่อเขาได้เจอหน้าครอบครัวของแฟนสาวของเขาและได้เห็นรูปภาพของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในบ้านของแฟนสาวโดยหญิงสาวที่อยู่ในรูปภาพนั้นเป็นอดีตแฟนสาวของเขาเอง

        อย่างไรก็ตามรูปภาพที่วางอยู่ในกรอบในบ้านของแฟนสาวซึ่งเป็นรูปของอดีตแฟนสาวนั้นไม่ได้เป็นรูปภาพธรรมดาทั่วไปแต่เป็นรูปที่เอาไว้สำหรับวางไว้เคารพของคนที่ตายไปแล้วซึ่งนั่นหมายถึงว่าอดีตแฟนสาวของเขานั้นได้เสียชีวิตไปแล้วหลังจากนั้นเขาก็ได้มีการสอบถามถึงอดีตแฟนสาวจึงทำให้เขาได้รับรู้เรื่องราวที่เขานั้นทั้งช็อค และเศร้าไปในคราวเดียวกัน 

เหตุการณ์ย้อนไปถึงเมื่อตอนที่เขากับอดีตแฟนสาวคบหากันอยู่ดีๆอดีตแฟนสาวก็มาบอกเลิกเขา

ซึ่งในตอนนั้นเขาคิดว่าแฟนสาวของเขานั้นน่าจะมีผู้ชายคนใหม่จึงได้ทิ้งเขาไปหลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจหันหลังให้กับเธอและตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนระยะเวลาผ่านไป 4 ปีจึงได้พบรักกับแฟนสาวคนใหม่ซึ่งเป็นคนปัจจุบันและเป็นน้องสาวของอดีตแฟนของเขานั่นเอง

      อย่างไรก็ตามนายเอเพิ่งมารู้ว่าสาเหตุที่อดีตแฟนสาวบอกเลิกกับเขานั้น  เป็นเพราะว่าเธอนั้นรู้ตัวเองว่าจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ไม่นานเนื่องจากว่าเธอเป็นโรคมะเร็งเพื่อไม่ให้เขาเสียใจอดีตแฟนสาวจึงได้ตัดสินใจขอเลิกและกลับมาอยู่บ้านเกิดและจากไปอย่างสงบซึ่งหลังจากที่เขาได้รู้เรื่องนี้และครอบครัวของแฟนคนปัจจุบันรู้เรื่องนี้ด้วยทำให้ทั้งพ่อและแม่ของฝ่ายหญิงไม่ยินยอมให้ลูกสาวของเขาแต่งงานกับนายเอ

        โดยพ่อแม่ของฝ่ายหญิงมองว่าถ้าหากว่านาย เอ แต่งงานกับลูกสาวของพวกเขาแล้วนายเอสามารถลืมลูกสาวคนโตของพวกเขาได้จริงหรือไม่ซึ่งถ้าหากตัดสินใจแต่งงานไปอาจจะมีปัญหาครอบครัวตามมาภายหลังและอาจจะนำมาซึ่งการหย่าร้างได้ดังนั้นครอบครัวของแฟนสาวนายเอจึงได้คัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้สุดท้ายในเอจึงได้ตัดสินใจยกเลิกที่จะแต่งงานกับแฟนสาวและตกลงที่จะเหลือเพียงแค่ความเป็นเพื่อนให้แก่กันเท่านั้น 

 

สนับสนุนโดย  ufabet

พ่อแค้น ลูกสาวถูกขืนใจ-อัดคลิปแบล็คเมล์ ล่าคนร้ายมาขังจนตาย ทำติดคุกนาน 12 ปี

    ลูกสาวถูกขืนใจ-อัดคลิปแบล็คเมล์ เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจของคนในสังคมไต้หวันเมื่อมีการเปิดเผยเรื่องราวนี้ผ่านทางเว็บไซต์ ettoday เมื่อวันที่ 11 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2565 

ซึ่งเรื่องราวนี้ถูกเปิดเผย เมื่อศาลเขตไทจงได้มีคำพิพากษาชายคนนึงพร้อมกับเพื่อนอีก 3 คนว่ามีการทำความผิดตามกฎหมายโดยชายคนดังกล่าวแซ่หลินเขาต้องถูกศาลสั่งจำคุกนานถึง 12 ปีในขณะที่เพื่อนของเขานั้นแต่ละคนจำคุกระหว่าง 8 ถึง 10 ปีด้วยกัน 

        สำหรับเรื่องราวของชายแซ่หลิน คนนี้เกิดขึ้น  เมื่อช่วงประมาณ ปีพ.ศ. 2560  ลูกสาวของเขาได้ถูกคนร้ายข่มขืนและยังมีการถ่ายรูปแบล็คเมล์ทำให้ลูกสาวของเขานั้นป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและฆ่าตัวตายในที่สุดทั้งที่ลูกสาวของเขายังอายุน้อย  โดยที่คนร้ายไม่ได้ถูกดำเนินคดีเนื่องจากว่าไม่มีหลักฐานหนาแน่นมากพอที่จะสามารถจับตัวคนร้ายได้

       อย่างไรก็ตามชายแซ่หลินจึงได้ร่วมกันกับเพื่อน  จับตัวคนร้ายซึ่งก็คือชายแซ่หวังมาทำการถังที่โรงแรมแห่งหนึ่งและทำการรีดไถเอาข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของตนเองโดยให้ชายแซ่หวังเขียนรายชื่อว่าใครร่วมกระทำการข่มขืนลูกสาวของตนเองบ้าง

และคลิปดังกล่าวที่ใช้แบล็คเมล์ลูกสาวนั้นอยู่ที่ไหนรวมถึงให้เขียนคำรับสารภาพและเขียนคำขอโทษ  ซึ่งชายแซ่หวังนั้นก็ได้ให้ข้อมูลและยืนยันว่าจะนำแผ่นซีดีที่เก็บไว้มาคืนให้ทำให้ชายแซ่หลินและเพื่อนปล่อยตัวชายแซ่หวังไป 

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่ใช้แซ่หวังถูกปล่อยตัวไปนั้นกลับไม่สำนึกผิดไม่ยอมนำซีดีมาคืนให้ทำให้ชายแซ่หลิน กับเพื่อนตัดสินใจจับตัวชายใส่หวังมาขังไว้อีกครั้งหนึ่ง

โดยครั้งนี้มาขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์หลังจากนั้นก็มีการซ้อมเพื่อให้ชายแช่หวังนั้นยอมรับสารภาพ โดยมีการขังไว้ทั้งหมด 7 วันด้วยกันซึ่งในแต่ละวันก็จะมีการใช้กระบองไฟฟ้าทุกปีเพื่อทรมานร่างกายจนท้ายที่สุดแล้วเพื่อนของชายแซ่หลินพบว่าชายแช่หวังนั้นมีอาการหน้านิ่งและตัวเย็นมากจึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลและชายแซ่หวังก็เสียชีวิตก่อนที่จะมาถึงที่โรงพยาบาล  

        อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลพยายามที่จะปั๊มหัวใจและช่วยชีวิตชายแซ่หวัง แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตได้สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าทำการจับกุมชายแซ่ลิ้มและเพื่อนในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวและทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายและนำมาสู่ซึ่งเกิดการพิพากษาในชั้นศาลนอกจากว่าทั้งหมดจะต้องถูกดำเนินคดีติดคุกแล้วยังต้องจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับญาติของชายแซ่หวังเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 760000 ดอลลาร์ไต้หวันอีกด้วย 

 

สนับสนุนโดย    ufabet

พ่อ-แม่ชาวมาเลเซีย เล่นใหญ่เซอร์ไพรส์วันเกิดลูกสาวด้วยรถสปอร์ตหรูถึงที่ทำงาน 

      พ่อ-แม่ชาวมาเลเซีย เล่นใหญ่เซอร์ไพรส์  เว็บไซต์  sinchew ได้เปิดเผยเรื่องราวของพ่อแม่ชาวมาเลเซียรายหนึ่งที่สร้างเซอร์ไพรส์ในวันเกิดให้ลูกของตนเองถึงขนาดที่แม้แต่เจ้าของวันเกิดและคนอื่นที่พบเห็น

ต่างก็พากันตกตะลึงโดยทางเว็บไซต์ได้มีการเปิดเผยเรื่องราวครอบครัวนี้เมื่อวันที่ 3 เดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2565 ซึ่งทางผู้เป็นพ่อและผู้เป็นแม่นั้นตั้งใจจะให้จะเซอร์ไพรส์วันเกิดของลูกสาวสุดที่รักของตนเอง

       สำหรับสิ่งที่เป็นเซอร์ไพรส์จนทำให้ผู้คนที่พบเห็นต่างพากันตกตะลึงนั่นก็คือการที่พ่อและแม่ได้สั่งรถสปอร์ตหรูให้ไปส่งให้กับลูกสาวถึงที่ทำงานโดยรถสปอร์ตหรูนั้นถูกนำไปไว้บนรถขนส่งที่มีกระจกใสรอบด้านทำให้มองเห็นรถสปอร์ตหรูสีเหลืองสดอย่างชัดเจน   

          สำหรับเหตุการณ์เซอร์ไพรส์วันเกิดของลูกสาวของครอบครัวชาวมาเลเซียรายนี้เกิดขึ้นที่เมืองบัตตูปาหัต ในรัฐยะโฮร์   ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้นั้นสร้างความตื่นเต้นและประหลาดใจให้กับผู้คนที่พบเห็นเป็นอย่างมากและมีการถ่ายคลิปนำไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมากอีกด้วย 

สำหรับในคริสต์ที่มีการเผยแพร่กันนั้นจะเห็นได้ว่ารถสปอร์ตหรูสีเหลืองสดถูกบรรทุกด้วยรถขนส่งขนาดใหญ่ซึ่งภายในนั้นยังมีการประดับประดาด้วยลูกโป่งและข้อความที่แสดงความยินดีในวันเกิดอีกด้วย 

        สำหรับเจ้าของที่เป็นเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ในครั้งนี้นั้นเป็นนักธุรกิจของประเทศมาเลเซียซึ่งคุณแม่ชื่อว่า เหวิน วัย 39 ปีได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวท้องถิ่นของประเทศมาเลเซีย

ว่าเธอและสามีของเธอตั้งใจที่จะซื้อของขวัญเป็นรถสปอร์ตหรูให้เป็นของขวัญวันเกิดของลูกสาวของเธอซึ่งอายุครบ 21 ปีเนื่องจากว่าผู้เป็นพ่อได้มีการทำสัญญาว่าจะมอบรถสปอร์ตหรูให้กับลูกสาวถ้าหากลูกสาวอายุครบ 21 ปีและนี่ก็เป็นการทำตามความฝันและคำสัญญาที่ได้ให้ไว้กับลูก 

         อย่างไรก็ตามเหตุการณ์มอบของขวัญสุดพิเศษในครั้งนี้ให้กับหญิงสาววัย 21 ปีนั้นผู้เป็นลูกสาวไม่ได้รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อนโดยในวันที่มอบของขวัญนั้น  Ufabet เข้าสู่ระบบ     เจ้าของวันเกิดยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ทำงานซึ่งรถสปอร์ตหรูใดส่งไปให้เธอถึงบริเวณหน้าที่ทำงาน

เมื่อเธอลงมาเห็นว่าเธอได้รับของขวัญสุดพิเศษนี้ก็ทำให้เธอตกตะลึงและดีใจเป็นอย่างมาก  ตามรายงานข่าวได้มีการระบุว่ารถสปอร์ตหรูได้ส่งไปถึงหน้าที่ทำงานของลูกสาวของพ่อแม่นักธุรกิจชาวมาเลเซียรายนี้ช่วงประมาณ 20:00 น.

แม่หอบลูก 6 ขวบหนีตายข้ามจังหวัด  หลังสามี คลั่งยา กลางดึก 

แม่หอบลูก 6 ขวบหนีตายข้ามจังหวัด เมื่อวันที่ 24 เดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2565   มีการเปิดเผยมาจากครูโรงเรียนบ้านค้อดอนแคน จังหวัดอุดรธานี   ว่าพบหญิงสาวและเด็กชายวัย 6 ขวบ

ซึ่งทั้งคู่นั้นเป็นแม่ลูกกันได้ขี่รถข้ามจังหวัดมาขอความช่วยเหลือ  โดยหญิงสาวรายนี้ได้พาลูกขี่รถมอเตอร์ไซค์มาตั้งแต่วันที่ 23 เดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2565 ซึ่งขับรถมาถึงที่จังหวัดอุดรธานีช่วงเวลาประมาณ 20:30 น.โดยจากการสอบถามเบื้องต้นพบว่าหญิงสาวรายนี้ได้พาลูกหลบหนีสามีของตนเองมาจากจังหวัดสกลนคร  โดยใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 40 กม. จึงมาถึงโรงเรียนบ้านค้อดอนแคน  รายได้ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน 

          อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการพูดคุยกับหญิงสาวคนดังกล่าวระบุว่าเธออายุ 41 ปีอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านบ้านบงเหนืออำเภอสว่างแดนดิน   โดยเธอมีสามีและลูกชายวัย 6 ขวบ อย่างไรก็ตามสาเหตุที่เธอพาลูกขี่รถมอเตอร์ไซค์หนีข้ามจังหวัดมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านนั้นเนื่องจากว่าเธอต้องการหนีจากสามีของเธอเพราะถูกสามีทำร้ายร่างกายเป็นประจำ 

โดยสามีของเธอนั้นติดยาเสพติดเมื่อเสพยาก็จะมีอาการคุ้มคลั่งหลังจากนั้นก็มักจะใช้ไม้ใช้กำปั้นทุบตีตามตัวและตามร่างกายของเธอซึ่งส่วนใหญ่แล้วสามีของเธอนั้นไม่ทำงานแต่จะมักจะขอเงินจากเธอเพื่อทำการไปซื้อยาบ้ามาเสพและเมื่อเธอไม่ยอมให้เงินก็จะถูกสามีทำร้ายร่างกายโดยสามีมักจะอ้างกับเธอเป็นประจำว่าที่ทำร้ายร่างกายเธอนั้นเพราะว่าเธอนั้นปันใจไปมีผู้ชายคนอื่น

        อย่างไรก็ตามในวันเกิดเหตุนั้นสามีของเธอก็มาทำร้ายร่างกายเธออีก ดังนั้นเธอจึงได้เก็บเสื้อผ้าบางส่วนแล้วพาลูกแอบขี่รถมอเตอร์ไซค์หลบหนีออกจากบ้านในช่วงที่สามีของเธอ

กำลังเสพยาอยู่กับเพื่อนซึ่งในขณะที่เธอขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกมานั้นเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะพาลูกไปไหนเธอจึงขับรถมาตามทางเรื่อยๆ โดยอาศัยแสงไฟริมถนนนำทางจนขับรถมาถึงโรงเรียนบ้านค้อดอนแคนซึ่งขณะที่เดินทางมาถึงที่โรงเรียนกำลังมีการจัดงานมีชาวบ้านและคุณครูเต็มไปหมดดังนั้นเธอจึงได้จอดรถขอความช่วยเหลือและเล่าเหตุการณ์ต่างๆให้ทุกคนฟัง  

         อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ยืนยันว่าเธอจะไม่ยินยอมกลับไปอยู่กินกับสามีของเธออย่างเด็ดขาดเธอต้องการพาลูกออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่เพราะเธอไม่อยากอยู่กับสามีที่ทำร้ายร่างกายเธอทุกครั้งที่เกิดอาการคลั่งยาเธอกลัวว่าในอนาคตเธอกับลูกจะไม่สามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้ซึ่งในขณะที่เล่าเรื่องราวให้ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังหญิงสาวรายนี้ก็ร้องไห้ไปด้วย

         เบื้องต้นชาวบ้านให้ความช่วยเหลือโดยให้พักอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยและได้มีการประสานงานไปยังหน่วยงานของรัฐให้เข้ามาช่วยเหลือดูแลแม่ลูกคู่นี้แล้ว 

 

สนับสนุนโดย    สล็อต ufabet เว็บตรง

ดราม่า งานแต่งสินสอดหนึ่งหมื่นอีกรอบ พบเจ้าสาวหนีตามเจ้าบ่าวไปแล้ว

  ดราม่า งานแต่งสินสอดหนึ่งหมื่น  จากกรณีที่มีในโลกออนไลน์ได้มีการพูดถึงงานแต่งงานที่จังหวัดเลยซึ่งเป็นการจัดงานแต่งงานที่ล้มเหลวเนื่องจากว่าเจ้าบ่าวมาร่วมพิธีแต่งงานช้าและนำเงินสินสอดมาไม่ครบตามที่ตกลงกันเอาไว้

จนเกิดการทะเลาะและชกต่อยกันเกิดขึ้นซึ่งทางญาติของฝ่ายเจ้าสาวก็ได้มีการนำคลิปและนำเรื่องราวมาโพสต์ลงโซเชียล

      อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ผู้คนต่างก็รู้สึกสงสารฝ่ายเจ้าสาวเป็นอย่างมากที่ถูกผู้บ่าวเทงานแต่งแล้วยังต้องอับอายเพื่อนบ้าน  ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 นักข่าวได้มีการเดินทางไปยังบ้านที่จัดงานแต่งงานเพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งทั้งแม่ของเจ้าสาวเองนั้น

ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าในวันที่ 6 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ 2565 ได้มีการจัดงานแต่งงานจริงและงานแต่งงานก็ล้มไม่เป็นท่าจริงเพราะเจ้าบ่าวนำเงินสินสอดมาเพียงแค่ 1 บาทจากที่ตกลงกันไว้เกือบ 1 แสนบาท 

         แม่เจ้าสาวเราให้กับนักข่าวฟังว่าเจ้าบ่าวและเจ้าสาวรู้จักกันได้แค่ประมาณเดือนเดียวหลังจากนั้นฝ่ายชายก็มาขอหมั้นโดยตกลงกันว่าจะแต่งงานในวันที่ 30 เดือนมีนาคม ปี พ.ศ 2565 แต่ในช่วงนั้นสถานการณ์โควิดยังค่อนข้างระบาดรุนแรงจึงได้มีการเลื่อนการจัดงานมาเป็นจัดวันที่ 6 เดือนพฤษภาคมปีพศ. 2565 

        อย่างไรก็ตามเมื่อถึงวันงานปรากฏว่าพิธีจัดงานต้องทำตั้งแต่ช่วงประมาณ 7:30 น แต่เจ้าบ่าวยังไม่มาเมื่อมีการโทรตามก็แจ้งแต่เพียงว่าออกจากบ้านมาแล้ว

แต่ยังไม่ถึงให้รอก่อนจนช่วงเวลาประมาณ 11:00 น เจ้าบ่าวถึงมาถึงในงานแต่เมื่อมาถึงก็ไม่มีเงินค่าสินสอดบอกให้รอแม่ซึ่งกว่าแม่เจ้าบ่าวจะเดินทางมาก็เป็นช่วงเวลาเที่ยงและมีคนมาร่วมงานทางฝั่งเจ้าบ่าวแค่เพียงประมาณ 5 คนเท่านั้น

       อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ทะเลาะกันเกิดขึ้นเมื่อทางฝั่งเจ้าบ่าวนั้นนำเงินมาเพียงแค่ 10,000 บาทและแม่เจ้าบ่าวยังบอกว่ามีให้เพียงเท่านี้ถ้าหากจะเอามากกว่านี้ก็ไม่ต้องจัดงานแต่งงานพอไม่มีค่าสินสอดนอกจากนี้แม่เจ้าบ่าวยังระบุว่าไม่รู้เรื่องว่าลูกชายของตนเองนั้นจะมีการจัดงานแต่งงานทำให้ครอบครัวของฝ่ายเจ้าสาวไม่พอใจและเกิดทะเลาะกันวันสุดท้ายแล้วครอบครัวทางฝ่ายเจ้าบ่าวก็พากันออกจากงานและงานแต่งงานก็สิ้นสุดลงจึงทำให้ครอบครัวของฝ่ายเจ้าสาวนั้นอับอายคนในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก

        ล่าสุดครอบครัวของฝ่ายเจ้าสาวได้มีการอัพเดตเรื่องราวดราม่านี้ผ่านทางโลกออนไลน์อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 8 เดือนพฤษภาคมโดยระบุว่าหากใครที่กำลังสงสารเจ้าสาวที่ถูกทิ้งในวันแต่งงานนั้นไม่ต้องสงสารแล้วเนื่องจากว่าเจ้าสาวได้หนีครอบครัวของตนเองหนีพ่อแม่ตามเจ้าบ่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยเจ้าสาวหนีไปอยู่กับเจ้าบ่าวที่ประเทศญี่ปุ่น

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ufabet เว็บหลัก