เวทีมวยราชดำเนินไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

เวทีมวยราชดำเนินไม่ปลอดภัยอีกต่อไปหลังเซียนมวยติดเชื้อไวรัสโควิด-19

     จากกรณีที่นายสกลซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ชอบการเล่นมวยเป็นชีวิตจิตใจได้ออกมาบอกเราเรื่องราวผ่านทาง Facebook ส่วนตัวว่าขนาดนี้ในสกุลเองได้มีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งสถานที่เกิดการติดเชื้อนั้นน่าจะมาจากการที่นายสกลเดินทางไปดูมวยที่สนามป่วยตรงราชดำเนิน

โดยนายสกลได้ออกมาบอกว่าเมื่อวันที่ 11 เดือนมีนาคมปีพ.ศ. 2563 นายสกลได้ไปดูมวยที่สนามมวยราชดำเนินแล้วหลังจากนั้นภายในสองวันต่อมาก็พบว่าตัวเองมีอาการคั่นเนื้อคั่นตัวไม่สบาย มีไข้ไอและจามโดยตอนแรกยังคิดว่าขำๆว่าอาการแบบนี้ตัวเองอาจจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่

เพราะว่ารู้สึกอาการไม่ค่อยจะดีแต่เมื่อไปที่โรงพยาบาลแล้วทำการตรวจหาเชื้อจริงๆผลปรากฎออกมาพบว่าตนเองติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้รู้สึกว่าชีวิตของตนเองนั้นแทบจะพังทลายลงทันทีโดยนายสกลยังได้มีการโพสต์

ข้อความบอกกล่าวไปยังเพื่อนเพื่อนที่ชื่นชอบการมาดูมวยที่สนามมวยราชดำเนินว่าตอนนี้ที่สนามมวยราชดำเนินไม่ปลอดภัยเหมือนเมื่อก่อนแล้วการแพร่เชื้อทำได้ง่ายมากเพราะขนาดตัวนายสกลเองที่มีร่างกายแข็งแรงและวันที่ไปดูมวยที่สนามมวยราชดำเนินนั้นในสกุลเองก็ใส่หน้ากากอนามั

แต่ก็ยังได้รับเชื้อไวรัสมาซึ่งก่อนหน้านี้นายสกลได้มีการโพสต์ลงใน Facebook ส่วนตัวก่อนที่จะมีการติดเชื้อเวลาตโควิด-19 นี้ว่าถึงแม้ว่าเค้าจะกลัวเชื้อไวรัสนี้แค่ไหนแต่เขาก็ต้องการที่จะมาดูมวยเพราะรักการดูมวยมากกว่าความกลัวเชื่อไวรัสโควิด-19

ซึ่งจะมีรูปหนึ่งที่นายสกุลไทยเอาไว้ตอนที่อยู่ในสนามมวยราชดำเนินซึ่งเป็นภาพที่นายสกลถ่ายรูปคู่กับนักมวยแล้วถอดหน้ากากอนามัยออกไว้ซึ่งน่าจะเป็นตรงนี้เองที่ทำให้นายสกลติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สนามมวยราชดำเนินซึ่งหลังจากที่มีการดูมวยเสร็จแล้ว

ในสกุลก็มีอาการไม่สบายจนต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้วจึงพบว่าตนเองติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้เขาต้องออกมาบอกเพื่อนเพื่อนใน Facebook ว่าหากมีอาการที่คล้ายเหมือนจะเป็นการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ควรจะรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจทันที

และหากว่าพบว่าตัวเองเป็นและมีเชื่อไวรัสโควิด-19 ในร่างกายควรจะมีการประชาสัมพันธ์บอกให้คนอื่นทราบเพื่อที่ใครที่คลุกคลีอยู่ใกล้ชิดกับเราเค้าจะได้สังเกตอาการของเค้าได้และเค้าจะได้มีการไปตรวจที่โรงพยาบาลและรักษาได้ทันท่วงที

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บคาสิโนสด

เว็บเราไม่ทิ้งกันเปิดมาครั้งแรกก็แป็กซะแล้ว

   เว็บไซต์เราไม่ทิ้งกันที่เปิดออกมาให้ประชาชนได้มาลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือเยียวยาจำนวน 5,000 บาทเป็นระยะเวลานาน 3 เดือนนั้นมีการนัดหมายให้ประชาชนเข้าเว็บไซต์เพื่อทำการลงทะเบียนในวันที่ 28 เดือนมีนาคมปีพศ. 2563 ในเวลา 18:00 น.

ตรงหลังจากถึงกำหนดที่สามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ประชาชนทุกคนต่างก็พากันเข้าไปทำการลงทะเบียนที่ www .เราไม่ทิ้งกันดอทคอม  พบปัญหาก็ไม่สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ดังกล่าวได้ซึ่งเมื่อไหร่ควรมีการเข้าไปตรวจสอบ Server

ก็พบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวมีการบล็อกไม่ให้คนนอกเข้าไปใช้บริการทำให้ประชาชนชาวโซเชียลต่างวิพากษ์วิจารณ์และต่อว่าการทำงานของผู้ทำเว็บไซต์นี้กันเป็นจำนวนมากจนทางเว็บไซต์ได้มีการเข้ามาแก้ไขและเปิดให้เข้ามาทำรายการได้อีกทีช่วงเวลาประมาณ 8:00

และก็มักจะมีปัญหาการที่พ่อไปลงทะเบียนแล้วแต่ตั้งระบบไม่ยอมส่งรหัสผ่านมาให้   ทำให้หลายคนไม่สามารถลงทะเบียนได้แต่หลังจากช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปแล้วก็สามารถเริ่มทยอยลงทะเบียนกันได้ตามปกติซึ่งมีการประกาศออกมาว่าในตอนนี้มีการลงทะเบียนได้แล้วประมาณ 7 ล้านคนแต่หลายคนก็ยังมีปัญหาในเรื่องของเงื่อนไขของการรับเงินช่วยเหลือเยียวยาในครั้งนี้

เนื่องจากเงื่อนไขของการรับเงินเยียวยาค่อนข้างที่จะคุ้มเครือไม่ชัดเจนและยังมีเงื่อนไขออกมาว่าหากหากมีการตรวจสอบย้อนหลังแล้วพบว่าประชาชนที่มาลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไม่ตรงกับเงื่อนไขก็จะมีการดึงเงินคืนพร้อมกับคิดดอกเบี้ย

ซึ่งหลายคนมองว่าตรงนี้เรื่องไข่ที่อ่านไม่ชัดเจนและคุณเครือจึงไม่รู้ว่าตนเองเข้าข่ายที่จะสามารถขอได้หรือไม่แต่หลายคนก็ทำการลงทะเบียนไปแล้วโดยที่ไม่ได้อ่านเงื่อนไขทำให้เกรงว่าเมื่อได้รับการพิจารณาแล้วก็จะไม่ได้เงินช่วยเหลือเยียวยาหรือบางทีอาจจะได้เงินมาแต่อาจจะถูกเรียกเก็บคืนพร้อมกับดอกเบี้ย

      สำหรับโครงการนี้มีผู้เข้าร่วมสนใจเป็นจำนวนมากเนื่องจากว่าทุกคนทั่วประเทศต่างก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าเช่นเดียวกันทั้งหมดไม่ว่าบุคคลดังกล่าวจะทำงานหรือไม่ทำงานแต่ผลกระทบนี้มีผลต่อเนื่องกับทุกคนอย่างแน่นอนจริงๆ

แล้วเว็บไซต์ที่เปิดขึ้นมาเพื่อให้บุคคลลงไปทะเบียนรับเงินเยียวยานี้ควรจะมีการทำรูปแบบง่ายกว่านี้เพราะขนาดคนที่มีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ยังเข้าไปลงทะเบียนด้านแล้วตาสีตาสาที่ไม่เคยเข้าไปเล่นคอมพิวเตอร์เลยจะสามารถลงทะเบียนได้อย่างไร

  นี่คือข้อเสียของการลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ที่ทางรัฐบาลมีการจัดทำขึ้นเพราะวันที่เดือดร้อนและมีฐานะยากจนจริงๆก็อาจจะไม่สามารถเข้าไปทำการลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือเหล่านี้ได้หากเขาไม่มีลูกหลานที่มีความรู้ความสามารถมากพอ 

 

สนับสนุนโดย  www.ufabet.com ลิ้งเข้าระบบ

ไวรัสระบาดไปทั่วแม้แต่ตำรวจก็ติดเชื้อถึง 21 คน

ไวรัสระบาดไปทั่วแม้แต่ตำรวจก็ติดเชื้อถึง 21 คนแล้วแถมยังต้องกักตัวดูอาการ 14 วันถึง 431 คน 

          เป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างมากเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าเพราะจากเดิมที่ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไว้ได้ปัจจุบันได้มีการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากและจำนวนผู้ติดเชื้อก็มาจากทุกข์สายอาชีพไม่ว่าจะเป็นคุณหมอ   พยาบาล  ประชาชนทั่วไป   นักการเมือง   เหล่าดาราต่างๆ 

รวมถึงตำรวจและทหารก็ยังติดเชื้อไวรัสโคโรนาเช่นเดียวกันเป็นที่น่าตกใจว่ามีการรายงานข่าวเข้ามาถึงจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพบว่าเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าใจหายซึ่งล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นที่ตรวจแล้วพบอาการแน่นอนว่ามีเชื้อนั้นมีจำนวนมากหรือ 21 คน

ด้วยกันโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านี้จะถูกส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตามจุดต่างๆที่เปิดให้บริการในการรักษาโรคเชื้อไวรัสโคโรน่าและยังมีอีกจำนวนถึง 431 คนที่เข้าข่ายว่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าซึ่งยังต้องมีการกักตัวเพื่อสังเกตอาการอยู่ที่บ้านเป็นระยะเวลา 14 วัน

จึงทำให้บุคลากรของทางราชการที่ต้องคอยมาช่วยเหลือดูแลประชาชนต้องลดจำนวนลงไปค่อนข้างมากสิ่งที่เราเห็นกันก็คือความพร้อมของอุปกรณ์ในการป้องกันการติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่านั้นของประเทศไทยตอนนี้มีน้อยมากเช่นหน้ากากอนามัยซึ่งไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับเชื้อโรคไวรัสโคโรน่าอย่างหมอและพยาบาลเองประเทศ

ไม่มีใช้งานรวมถึงเจลล้างมือก็เริ่มขาดแคลนดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากสำหรับบุคคลที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่อาจจะมีเชื้อไวรัสโคโรน่าอย่างคุณหมอพยาบาลทหารตำรวจที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ ซึ่งเริ่มแรกเดิมทีนั้นอย่างหน้าที่ตำรวจพบว่ามีการติดเชื้อไวรัส Coronaแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะได้ตามหัวหน้างานไปในสถานที่ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะมีการแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่า

และหลังจากนั้นข้อมูลข่าวสารก็มีการกระจายออกมาเรื่อยๆว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดตอนนี้ก็พบว่ามีจำนวนมากถึง 21 คนเข้าไปแล้วและยังต้องมารอลุ้นอีก 400 กว่าคนว่าจะติดเชื้อไวรัสทั้งหมดหรือไม่ซึ่งแค่จำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าและต้องคอยสังเกตอาการนี้ก็ทำให้จำนวนเตียงในโรงพยาบาลแทบ

จะไม่เพียงพอรักษาคนไข้คนอื่นแล้วดังนั้นทุกคนไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็ตามควรจะให้ความร่วมมือกันในการกักตัวเองอยู่แต่ในบ้านเป็นระยะเวลา 14 วันเพื่อดูอาการของตนเองก่อนว่าจะมีอาการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเกิดขึ้นหรือไม่เพื่อป้องกันการออกไป

แพร่ระบาดให้กับคนอื่นและลดการกระจายการแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่าออกไปเพราะถ้าหากเราสามารถควบคุมการแพร่เชื้อระบาดมีรายจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ในตอนนี้ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้เช่นเดียวกันและเราก็จะสามารถยุติการเป็นโรคไวรัสชนิดนี้ได้เช่นเดียวกัน 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ufabet บาคาร่า

กระแสการขายของออนไลน์ฟรีเวอร์เบียร์สดก็มีเดลิเวอรี่

             เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทยยังคงมีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าอยู่ถึงแม้จะลดจำนวนลงแล้วก็ตามแต่เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องไปเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรนาประชาชนส่วนใหญ่จึงมักจะมีการสั่งอาหารให้มาส่งที่บ้านแทนที่จะออกไปซื้อสินค้าด้วยตนเองและบริการการจัดส่งอาหารหรือที่เราเรียกกันว่าเดลิเวอรี่นั้น

จึงเป็นรายการยอดนิยมที่ในขณะนี้พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่มักจะมีการขายแบบออนไลน์เพื่อให้ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าและไปส่งที่บ้านได้เป็นการสร้างยอดขายให้กับตนเองเพราะหากเปิดขายหน้าร้านแล้วลูกค้าส่วนใหญ่มักจะไม่เดินทางออกมาซื้อเนื่องจากหลายคนเกรงว่าระหว่างการเดินทางอาจจะติดเชื้อไวรัส

จากบุคคลอื่นได้ดังนั้นการสั่งอาหารมากินที่บ้านจึงเป็นวิธีการที่มีการนิยมการใช้บริการกันมากในปัจจุบันซึ่งเมื่อลูกค้านิยมที่จะสั่งสินค้าผ่านระบบออนไลน์จึงมีพ่อค้าแม่ค้าหลายรายที่เปิดกิจการขึ้นมาใหม่เพื่อหาสินค้าใหม่ๆมาขายผ่านระบบออนไลน์หนึ่งในนั้น

ก็คือการขายเบียร์สดผ่านระบบออนไลน์โดยถ้าหากมีใครสั่งสินค้าที่เป็นเบียร์สดก็สามารถแจ้งความจำนงโอนเงินแล้วจะมีบริการนำเบียร์สดไปส่งให้ถึงบ้านโดยการขายเบียร์สดในครั้งนี้ได้มีการใส่ขวดและมีการแปะโลโก้ของร้านค้าเอาไว้อย่างชัดเจน

แต่หลังจากที่มีผู้คนสนใจสั่งเบียร์สดผ่านออนไลน์เป็นจำนวนมากทางกรมควบคุมโรคซึ่งได้มีการออกตรวจสอบเพื่อหาร้านค้าที่มีการขายเบียร์สดออนไลน์ในครั้งนี้เนื่องจากการขายเบียร์สดออนไลน์ถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมายจึงทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่ประกาศขายเบียร์สดทางออนไลน์

ต้องถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีและถ้าเป็นการปรับปรับไม่เกิน ห้าแสน บาทหรือถ้าใครโดนโทษหนักก็อาจจะโดนทั้งจำทั้งปรับเลยก็ได้สาเหตุที่ร้านค้าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนั้นเนื่องจากว่าการที่มีการประกาศขายผ่านทางสื่อออนไลน์นั้นผู้ซื้อไม่สามารถควบคุมอายุได้

เนื่องจากว่าใครจะสั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์ก็ได้เราไม่สามารถรู้ได้ว่าคนที่ซื้อเบียร์สดผ่านออนไลน์นั้นมีอายุเท่าไหร่ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่ามีอายุต่ำกว่า 15 ปีในการเข้ามาสั่งซื้อซึ่งถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมายที่มีการขายของที่เป็นประเภทแอลกอฮอล์ให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี

ดังนั้นจึงทำให้มีคนร้องเรียนเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องของการขายเบียร์สดออนไลน์และนำมาสู่การจับกุมในครั้งนี้ซึ่งหลังจากที่มีเรื่องของการจับกุมการขายเบียร์สดออนไลน์เกิดขึ้นทางตรงควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงได้มีการประกาศเกี่ยวกับเรื่องของการร้องทุกข์หรือร้องเรียนเรื่องราว

สำหรับร้านค้าที่มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับคนอายุต่ำกว่า 18 ปีสามารถที่จะโทรมาร้องเรียนได้และทางเจ้าหน้าที่จะลงไปตรวจสอบพื้นที่และหากมีความผิดจริงก็จะมีการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปโดยสามารถติดต่อร้องทุกข์ได้ที่หมายเลข 1422

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เวปยูฟ่าเบท

รัฐบาลขายหน้ากากอนามัยตรวจสอบพบว่าแพงกว่าต้นทุนถึงสองเท่า 

ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลได้ออกมาประกาศว่าจะมีการขายหน้ากากอนามัยในราคาถูกให้กับประชาชนโดยจะมีการจำกัดจำนวนการซื้อให้ซื้อคนละไม่เกินหนึ่งชุดเท่านั้นเดินรัฐบาลยืนยันว่าจะขายให้กับประชาชนในราคาที่ถูกเพื่อไม่ให้ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบจากคนที่หวังค้ากำไรเกินควรจากการขายหน้ากากอนามัยในช่วงนี้

ซึ่งจะมีจุดให้จำหน่ายหน้ากากอนามัย อยู่ในพื้นที่ทั้งนี้หน้ากากอนามัยจะไม่มีการแจกเพราะว่าตอนนี้ยังเป็นที่ต้องการของคนทั่วไปเป็นจำนวนมากเกรงว่าถ้าเกิดนำไปแจกแล้วจะมีคนมารับเอาไปขายต่อเหลือจะมีคนกักตุนสินค้าเพื่อหวังเก็งกำไรซึ่งรัฐบาลออกมาบอกว่าจะเอาหน้ากากอนามัยมาขายให้กับประชาชนในราคาต้นทุนโดยรัฐบาลรับหน้ากากอนามัยมาจาก กระทรวงพาณิชย์และองค์กรเภสัชกรรมโดยหนึ่งชุดที่แตกนั้น

ที่นำมาจำหน่ายนั้นจะมี = 10 ชิ้นซึ่งก็ถือว่าตอบคุณก็สามารถใช้ได้ 10 วันโดยขายหนึ่งชุดในราคา 25 บาทและมีการนำแอลกอฮอล์ล้างมือเมื่อจำหน่ายเพิ่มให้ด้วยซึ่งราคาจะอยู่ที่ 141 บาทโดยจะมีการกำหนดว่าตะวันจัดจำหน่ายไม่เกิน 10,000 ชิ้นต่อวันเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถจำหน่ายสินค้าได้อยู่ที่ประมาณ 15 วันและเมื่อมีการนำมาจำหน่ายจริงก็ได้มีชายคนหนึ่งนำข้อมูลหลักฐานราคาสินค้าว่าสินค้าที่รัฐบาลออกมาจำหน่ายให้กับประชาชนนั้นราคาแพงกว่าต้นทุนที่รับมาถึงสองเท่า

ซึ่งข้อมูลนี้เค้านำมาเทียบจากข้อมูลการซื้อขาย กลับเลยราชการอื่นที่ซื้อวันเวลาใกล้เคียงกับที่รัฐบาลซื้อซึ่งเมื่อนำมาเทียบกันแล้วอีกสถานที่หนึ่งซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่ามากๆโดยยกตัวอย่างว่าโดยปกติแล้วการขายหากซื้อต่อกล่องราคาของหน้ากากอนามัยดีอยู่ที่ระหว่าง 45 –  50 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นที่ต้องการมากๆราคาก็เพิ่มมาเป็นกล่องละ 70 บาท

แต่รัฐบาลกลับนำมาขายหรือคำนวณแล้วราคาถึงกองละ 125 บาทซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงมากทั้งนี้ใช้คนที่โพสต์ยังระบุอีกว่าดำเนินการในการขายของก็ค่อนข้างมีปัญหาไม่ค่อยมีประสบการณ์ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐบาลว่ายังทำงานได้ประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใดทุกคนต้องเสียเวลาเดินทางในการมาซื้อหน้ากากอนามัยในราคาที่ยังแพงเราก็สามารถซื้อได้เพียงน้อยนิดเท่านั้น

จากเหตุการณ์ในครั้งนี้คุณจะสะท้อนให้รัฐบาลเห็นว่าทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะโกงประชาชนหากต้องการขายในราคาที่ได้กำไรก็ควรจะบอกกล่าวกันตรงไม่ใช่โกหกว่ามาจากราคาต้นทุนแล้วมาค้ากำไรจนทำให้ประชาชนจับได้    

 

สนับสนุนโดย  gclub slot ทดลองเล่น

เอายาบ้าซ่อนไว้ที่ลังผลไม้

ปส. จับพ่อค้าหัวหมอ เอายาบ้าซ่อนไว้ที่ลังผลไม้ ตำรวจจับได้พร้อมของกลางเป็นเงินกว่า 1,200,000 บาท

มีรายงานข่าวมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้รับรายงานจากสายสืบว่าจะมีรถขนยาเสพติดโดยเส้นทางการขนยาจะขนจากกรุงเทพแล้วนำไปส่งจังหวัดสงขลาที่เป็นพื้นที่ในเขตภาคใต้ของไทย โดยสายตำรวจรายงานเข้ามาว่ารถที่ต้องสงสัย

คันดังกล่าวคาดว่าจะเป็นรถกระบะและเป็นรถที่ใช้สำหรับขนผลไม้ ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับตารถที่มีรูปพรรณตามที่สายลับรายงานจนได้เจอกับรถกระบะคันหนึ่งเป็นรถโตโยต้า วีโก้ ซึ่งมีชายชื่อ นายอดิศักดิ์เป็นคนขับได้ขับรถมาซื้อผลไม้บรรทุกเต็มคันรถและมีการนำยาเสพติดซุกไว้กับลังของผลไม้

โดยตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจค้นนั้นรถต้องสงสัยคันดังกล่าวได้จอดอยู่ทีลานจอดรถของตลาดขายผลไม้แห่งหนึ่งของจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ซุ่มดูเหตุการณ์มาสักพักจะเห็นได้ว่ามีรถเก๋งคนหนึ่งขับมาจอดใกล้กับรถกระบะคันที่ต้องสงสัยแล้ว

คนที่ขับรถเก๋งก็ลงจากรถ หลังจากนั้นก็นำลังผลไม้ขึ้นมาวางไว้บนรถกระบะคันทีต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นรถทั้งสองคันทั้งรถกระบะและรถเก๋ง ซึ่งผลปรากฎว่าพบสารเสพติดอยู่ในลังผลไม้จริงจริง ซึ่งคิดมูลค่าของยาเสพติดแล้วเป็นเงินสูงถึง 1,200,000 บาทเลยทีเดียว

ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวทั้งสองคนได้แล้วก็ให้การรับสารภาพทั้งคู่ว่ากำลังซื้อขายยาเสพติดกันอยู่จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการจับกุมและจะหาทางขยายผลไปถึงตัวการใหญ่อีกที

     จากข่าวที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ว่าประเทศไทย ยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่อีกมาก ทั้งที่ก็ปราบปรามกันอยู่ตลอดเวลาแต่คนขายและคนเสพก็ยังมีอยู่เยอะ ซึ่งแต่ละคนก็มีรูปแบบและช่องทางที่จะหาทางขนยาเสพติดให้ได้ ซึ่งในครั้งนี้เราต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและสายสืบที่สามารถตามสืบและสามารถจับกุมคนที่ขายยาเสพติดในครั้งนี้ได้ 

เราทุกคนต้องร่วมมือกันให้เบาะแสเจ้าหน้าที่ตำรวจหากใครมีข้อมูลการซื้อขายยาเสพติดเพื่อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เข้ามาจับกุมและกวาดล้างพวกขายยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศไทยเสียที เพื่ออนาคตที่ดีของบุตรหลานของเรา อย่างที่รู้กันดีว่ายาเสพติดเป็นอันตรายร้ายแรงต่อผู้ที่เสพมาแค่ไหน ดังนั้นเพื่อที่ประเทศชาติของเราจะได้ไม่มียาเสพติดเราจึงควรช่วยกันหากรู้เบาะแสการขายยา

 

สนับสนุนโดย  ufabet สมัคร

พนักงานทำความสะอาดมีไข้สูงและเป็นลมหมดสติ

สนามบินสุวรรณภูมิพบพนักงานทำความสะอาดมีไข้สูงและเป็นลมหมดสติ

   มีรายงานข่าวเข้ามาว่าเมื่อวันที่ 28 เดือนมีนาคมปีพศ 2563 มีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิโดยพบว่ามีหญิงสาวที่เป็นแม่บ้านคนหนึ่งซึ่งทำความสะอาดอยู่ดีๆก็เป็นลมล้มลงไปและเมื่อมีการนำไปให้แพทย์ประจำสนามบินสุวรรณภูมิตรวจสอบพบว่าหญิงแม่บ้านคนดังกล่าวมีอาการไข้ขึ้นสูงรวมถึงหายใจลำบาก

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สนามบินจึงได้ส่งตัวหญิงสาวแม่บ้านคนดังกล่าวไปที่โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์นราดูรเพื่อทำการตรวจสอบหาเชื้อว่ามีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือไม่แต่เบื้องต้นจากการที่ตรวจสอบประวัติของแม่บ้านคนดังกล่าวพบว่าไม่เคยเดินทางไปประเทศที่มีกลุ่มเสี่ยงมาก่อนแต่เพื่อความสบายใจของพนักงานคนอื่นๆในสนามบินสุวรรณภูมิรวมถึงลูกค้าที่ไปใช้บริการที่สนามบินดังนั้นจึงจำเป็นต้องพาแม่บ้านคนดังกล่าวไปทำการตรวจสอบหาเชื้อและจะได้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งให้กับทุกๆคนได้ทราบ

ว่าสรุปแล้วแม่บ้านคนดังกล่าวมีการติดเชื้อหรือไม่แต่ในที่นี้ทางเจ้าหน้าที่สนามบินก็ได้ออกมาประกาศว่าไม่อยากจะให้ประชาชนที่ทราบข่าวมีความรู้สึกตื่นตระหนกกับข่าวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เพราะว่าอันที่จริงแล้วหญิงแม่บ้านคนนี้ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสได้เลยดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่แม่บ้านคนดังกล่าวจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าซึ่งอาการไข้ขึ้นสูง 38.5 องศาเซลเซียสนั้นอาจจะเกิดมาจากเป็นไข้หวัดธรรมดาก็ได้ดังนั้นอย่าให้รอฟังผลจากทางแพทย์ประกาศออกมาก่อน

      จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้หลายคนเกิดความหวาดกลัวว่าเชื้อไวรัสกำลังแพร่ระบาดไปในทุกพื้นที่เพลงแม้ว่าในพื้นที่ดังกล่าวจะมีการเข้มงวดเกี่ยวกับเรื่องของการฆ่าเชื้ออย่างเช่นที่สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าจะมีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคทุกๆ 3 ชั่วโมงแต่ถ้าเกิดว่าผลออกมาว่าหญิงแม่บ้านคนดังกล่าวมีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าขึ้นมานั่นก็แสดงว่าสนามบินสุวรรณภูมิไม่ใช่สถานที่ที่จะปลอดภัย

จากเชื้อโรคอีกต่อไปเพราะถึงแม้ว่าจะมีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคในภายในสนามบินได้แต่ก็ยังพบว่าแม่บ้านอาจจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้เช่นกันซึ่งตอนนี้คงต้องรอผลการตรวจจากทางแพทย์โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์นราดูรออกมาว่าถ้าหากว่าผลออกมาแล้วแม่บ้านติดเชื้อไวรัสโคโรน่าต้องมาดูกันว่าทางผู้บริหารของสนามบินสุวรรณภูมิจะออกมาแก้ไขปัญหาเช่นนี้ได้อย่างไรเพื่อเรียกร้องขวัญและกำลังใจและความเชื่อมั่นของประชาชนเพื่อที่จะกลับมาใช้ กันต่อไป 

ข่าวนักดับเพลิงต้องมาดับไฟที่ไหม้บ้านตัวเอง สุดเข็มแข็ง

    ก่อนหน้านี้ในสังคมโซเชียวได้มีการเผยแพร่ภาพผู้ชายคนหนึ่งใส่ชุดดับเพลงกำลังนั่งปลอดใจเด็กชายคนหนึ่งที่ใส่ชุดนักเรียน ซึ่งมีการบรรยายภาพเอาไว้ว่าชายคนดังกล่าวเป็นนักดับเพลิงที่มีหน้าที่ไปดับไฟเวลาที่มีไฟไหม้บ้านคนอื่นแต่วันนี้กลับต้องมาดับไฟที่กำลังไหม้บ้านของตัวเอง และยังต้องมาคอยปลอบใจลูกชายที่กลับมาถึงบ้านแล้ว

เห็นบ้านไฟไหม้โดยทั้งสองคนหลังจากดับไฟได้แล้วก็พยายามเดินหาชุดฟุตบอลและลูกฟุตบอลที่ลูกชายของนักดับเพลิงรักหนักหนา ซึ่งเมื่อมีภาพเผยแพร่ออกมาทุกคนที่ได้อ่านและเห็นภาพต่างก็รู้สึกสงสารชายดังกล่าวและลูกชายกันมาก มีหลายคนซื้อชุดฟุตบอลและลูกฟุตบอลให้กับเด็กชาย รวมถึงรวมเงินกันเพื่อบริจาคช่วยเหลือชายคนดังกล่าวแล้ว

       เป็นข่าวที่ให้ความรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก เพราะคงไม่มีใครที่อยากจะต้องมาเห็นบ้านของตัวเองไฟไหม้ไปต่อหน้าต่อตา ยิ่งถ้าทำงานเกี่ยวกับการดับเพลิงทั้งชีวิตเคยแต่ไปช่วยดับไฟที่ไหม้บ้านของคนอื่นมาวันนี้ ต้องมาดับไฟไหม้บ้านตัวเองถึงแม้แขนขาจะอ่อนแรง จะหมดกำลังใจยังไงในขณะที่เห็นไฟไหม้บ้านของตัวเอง แต่ก็ต้องเข็มแข็ง

ต้องพยายามดับไฟที่กำลังไหม้ให้ถึงที่สุด ซึ่งเมื่อมีการเผยแพร่ข่าวนี้ออกไปและเมื่อมีหลายคนที่ได้เข้ามาอ่านข่าว ต่างก็รู้สึกเหมือนกันก็คือสงสารชายคนนี้เป็นอย่างมาก เขาทำงานช่วยเหลือไม่ให้บ้านคนอื่นโดนไฟไหม้มาตลอด ดังนั้น จึงมีหลายคนรวบรวมน้ำใจเพื่อช่วยเหลือชายคนดังกล่าว แต่การที่เราช่วยเหลือเขามันก็คงไม่สามารถทดแทนสิ่งที่เขาสูญเสียไปได้แต่โชคก็ยังดีที่เหตุการณ์ไฟไหม้บ้านครั้งนี้เขาไม่ได้สูญเสียใครไปนอกจากทรัพย์สินนอกกายเท่านั้น

         นี่เป็นอุทาหรณ์อีกหนึ่งกรณีที่เราควรนำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินการเกี่ยวกับชีวิตของเรา  อย่าประมาทเด็ดขาดควรหมั่นตรวจตราฟืนไฟที่บ้านให้เรียบร้อย อย่าเสียบปลั๊กคาทิ้งไว้ และที่สำคัญอย่างจุดธูปหรือเทียนทิ้งไว้ควรหมั่นมาตรวจสอบจนกว่าไฟจะดับหมดเรียบร้อยเพราะความประมาทจะนำเป็นสู่การสูญเสียเสมอ  ยิ่งช่วงนี้สภาพอากาศแห้งแล้ง หากมีการจุดไฟจะง่ายต่อการไหม้เร็วดังนั้น ควรระวังให้ดีอย่าประมาท

       และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าชายดับเพลิงคนนั้น จะยังคงมีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป แม้สูญเสียบ้านแต่ก็ยังขอให้มีกำลังใจที่จะทำงานต่อเพื่อมาสร้างบ้านที่อยู่อาศัยใหม่อีกครั้ง พวกเราชาวสังคมโซเชียวจะขอร่วมเป็นกำลังใจให้