ประกาศยกลูกให้โดยจะเซ็นหนังสือเพื่อยินยอม

หลังจากที่มีหญิงชายรายหนึ่งนั้นได้ประกาศที่จะยกลูกให้สำหรับคนที่มีจิตใจในการที่จะรับเลี้ยงลูกเพราะว่าเธอนั้นไม่สามารถที่จะเลี้ยงลูกได้เพราะว่าอยู่ในช่วงของโรคโควิดนั่นเอง 

ข่าวนี้ได้มาจากการที่เป็นที่แชร์กันมากมายเพราะว่ามีแม่คนหนึ่งนั้นได้เจอกับพิษร้ายด้วยโรคของโรควิดนั่นเอง  เพราะว่าตนนั้นมีลูกอยู่สองคน 

โดยคนโตนั้นเป็นเด็กผู้หญิงที่มีมีอายุ 5 ขวบ  ส่วนคนเล็กนั้นเป็นเด็กผู้ชายที่มีอายุ 7 เดือนนั่นเอง  และเมื่อเธอนั้นได้โพสลงโซเชี่ยวนั้นก็มีคนที่เข้ามาเสนอความคิดเห็นไปต่างๆนา  เพราะว่าเกิดจาการที่ที่เรานั้นได้เจอพิษโควิด  

    โดยเธอนั้นเป็นนั้นเป็นพนักงานที่ทำงานร้านนวดแผนโบราณนั่นเองและเธอก็ได้เลิกกับสามีไปนั่นเองและเธอก็ต้องเลี้ยงลูกเอง  จากการที่เป็นโรคระบาดนั้นทำให้เธอนั้นต้องถูกไล่ออกจากที่ทำงานนั่นเองเพราะว่าเธอนั้นไม่สามารถที่จะเลี้ยงลูกทั้งสองคนได้นั่นเอง 

และอีกอย่างนั้นลูกสาวของเธอนั้นต้องเข้าโรงเรียนจึงทำให้เธอนั้นไม่สามารถที่จะพาลูกไปโรงเรียนได้  จึงได้ประกาศว่าถ้ามีใครนั้นอยากที่จะรับลูกเธอนั้นไปเลี้ยงเธอนั้นก็พร้อม และจะยอมเซ็นหนังสือเพื่อการยินยอมด้วยนั่นเอง

    จากนั้นเมื่อข่าวได้แพร่ออกไปนั้นก็ทำให้เจ้านายเก่าที่เธอนั้นเคยทำงานด้วยนั้นเกิดความสงสาร ก็เลยจะส่งเสียค่าดูแลเด็กคนโตให้  จากนั้นเมื่อข่าวได้แพร่ออกไปก็ทำให้คนนั้นมีคนที่เข่ามาช่วยเหลือกันและก็ได้ทำการที่จะส่งของให้และให้เธอนั้นเป็นคนที่ดูแลลูกของเธอนั่นเอง

เพราะว่าการที่เป็นแม่นั้นจะรู้ว่าการเลี้ยงลูกนั้นเป้นอย่างไร  เพื่อที่จะได้ความรักนั่นเอง   จากการที่เราข่าวนี้ได้แพร่ออกไปนั้นมีทั้งคนที่เข้าใจเพราะว่าพิษของโรคร้าย  และคนที่เข้ามาเพื่อที่จะมาบริจาคของและการที่จะเข้ามาว่าเธอนั้นเป็นส่วนมากเพราะว่าการที่เรานั้นต่อว่านั้นเป็นเรื่องส่วนตัวเพราะว่าเธอนั้นมาแสดงความคิดเห็นนั่นเอง 

แต่ไม่ว่าอย่างไรนั้นก็ได้มีทางสมาคม  นั้นเข้ามาเพื่อที่จะดูแลและก็จะเข้ามาตรวจสอบในการที่จะใช้ชีวิตต่อไปนั่นเอง  ดังนั้นการที่เราได้มีหน่วยงานที่เข้ามาดูแลแม่และน้องนั้นเป็นเรื่องที่ดีอย่างมากเพราะว่าสงสารที่น้องนั้นต้องไปอยู่กับคนอื่นโดยที่ไม่ใช่แม่ของตัวเองนั่นเอง  แต่ไม่ว่าอย่างไรนั้นเราก็ของเอาใจช่วยให้ผ่านพ้นไปด้วยนะค่ะ  

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันแทงบอล คาสิโน บาคาร่า

เวทีมวยราชดำเนินไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

เวทีมวยราชดำเนินไม่ปลอดภัยอีกต่อไปหลังเซียนมวยติดเชื้อไวรัสโควิด-19

     จากกรณีที่นายสกลซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ชอบการเล่นมวยเป็นชีวิตจิตใจได้ออกมาบอกเราเรื่องราวผ่านทาง Facebook ส่วนตัวว่าขนาดนี้ในสกุลเองได้มีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งสถานที่เกิดการติดเชื้อนั้นน่าจะมาจากการที่นายสกลเดินทางไปดูมวยที่สนามป่วยตรงราชดำเนิน

โดยนายสกลได้ออกมาบอกว่าเมื่อวันที่ 11 เดือนมีนาคมปีพ.ศ. 2563 นายสกลได้ไปดูมวยที่สนามมวยราชดำเนินแล้วหลังจากนั้นภายในสองวันต่อมาก็พบว่าตัวเองมีอาการคั่นเนื้อคั่นตัวไม่สบาย มีไข้ไอและจามโดยตอนแรกยังคิดว่าขำๆว่าอาการแบบนี้ตัวเองอาจจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่

เพราะว่ารู้สึกอาการไม่ค่อยจะดีแต่เมื่อไปที่โรงพยาบาลแล้วทำการตรวจหาเชื้อจริงๆผลปรากฎออกมาพบว่าตนเองติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้รู้สึกว่าชีวิตของตนเองนั้นแทบจะพังทลายลงทันทีโดยนายสกลยังได้มีการโพสต์

ข้อความบอกกล่าวไปยังเพื่อนเพื่อนที่ชื่นชอบการมาดูมวยที่สนามมวยราชดำเนินว่าตอนนี้ที่สนามมวยราชดำเนินไม่ปลอดภัยเหมือนเมื่อก่อนแล้วการแพร่เชื้อทำได้ง่ายมากเพราะขนาดตัวนายสกลเองที่มีร่างกายแข็งแรงและวันที่ไปดูมวยที่สนามมวยราชดำเนินนั้นในสกุลเองก็ใส่หน้ากากอนามั

แต่ก็ยังได้รับเชื้อไวรัสมาซึ่งก่อนหน้านี้นายสกลได้มีการโพสต์ลงใน Facebook ส่วนตัวก่อนที่จะมีการติดเชื้อเวลาตโควิด-19 นี้ว่าถึงแม้ว่าเค้าจะกลัวเชื้อไวรัสนี้แค่ไหนแต่เขาก็ต้องการที่จะมาดูมวยเพราะรักการดูมวยมากกว่าความกลัวเชื่อไวรัสโควิด-19

ซึ่งจะมีรูปหนึ่งที่นายสกุลไทยเอาไว้ตอนที่อยู่ในสนามมวยราชดำเนินซึ่งเป็นภาพที่นายสกลถ่ายรูปคู่กับนักมวยแล้วถอดหน้ากากอนามัยออกไว้ซึ่งน่าจะเป็นตรงนี้เองที่ทำให้นายสกลติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สนามมวยราชดำเนินซึ่งหลังจากที่มีการดูมวยเสร็จแล้ว

ในสกุลก็มีอาการไม่สบายจนต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้วจึงพบว่าตนเองติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้เขาต้องออกมาบอกเพื่อนเพื่อนใน Facebook ว่าหากมีอาการที่คล้ายเหมือนจะเป็นการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ควรจะรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจทันที

และหากว่าพบว่าตัวเองเป็นและมีเชื่อไวรัสโควิด-19 ในร่างกายควรจะมีการประชาสัมพันธ์บอกให้คนอื่นทราบเพื่อที่ใครที่คลุกคลีอยู่ใกล้ชิดกับเราเค้าจะได้สังเกตอาการของเค้าได้และเค้าจะได้มีการไปตรวจที่โรงพยาบาลและรักษาได้ทันท่วงที

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บคาสิโนสด

เว็บเราไม่ทิ้งกันเปิดมาครั้งแรกก็แป็กซะแล้ว

   เว็บไซต์เราไม่ทิ้งกันที่เปิดออกมาให้ประชาชนได้มาลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือเยียวยาจำนวน 5,000 บาทเป็นระยะเวลานาน 3 เดือนนั้นมีการนัดหมายให้ประชาชนเข้าเว็บไซต์เพื่อทำการลงทะเบียนในวันที่ 28 เดือนมีนาคมปีพศ. 2563 ในเวลา 18:00 น.

ตรงหลังจากถึงกำหนดที่สามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ประชาชนทุกคนต่างก็พากันเข้าไปทำการลงทะเบียนที่ www .เราไม่ทิ้งกันดอทคอม  พบปัญหาก็ไม่สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ดังกล่าวได้ซึ่งเมื่อไหร่ควรมีการเข้าไปตรวจสอบ Server

ก็พบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวมีการบล็อกไม่ให้คนนอกเข้าไปใช้บริการทำให้ประชาชนชาวโซเชียลต่างวิพากษ์วิจารณ์และต่อว่าการทำงานของผู้ทำเว็บไซต์นี้กันเป็นจำนวนมากจนทางเว็บไซต์ได้มีการเข้ามาแก้ไขและเปิดให้เข้ามาทำรายการได้อีกทีช่วงเวลาประมาณ 8:00

และก็มักจะมีปัญหาการที่พ่อไปลงทะเบียนแล้วแต่ตั้งระบบไม่ยอมส่งรหัสผ่านมาให้   ทำให้หลายคนไม่สามารถลงทะเบียนได้แต่หลังจากช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปแล้วก็สามารถเริ่มทยอยลงทะเบียนกันได้ตามปกติซึ่งมีการประกาศออกมาว่าในตอนนี้มีการลงทะเบียนได้แล้วประมาณ 7 ล้านคนแต่หลายคนก็ยังมีปัญหาในเรื่องของเงื่อนไขของการรับเงินช่วยเหลือเยียวยาในครั้งนี้

เนื่องจากเงื่อนไขของการรับเงินเยียวยาค่อนข้างที่จะคุ้มเครือไม่ชัดเจนและยังมีเงื่อนไขออกมาว่าหากหากมีการตรวจสอบย้อนหลังแล้วพบว่าประชาชนที่มาลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไม่ตรงกับเงื่อนไขก็จะมีการดึงเงินคืนพร้อมกับคิดดอกเบี้ย

ซึ่งหลายคนมองว่าตรงนี้เรื่องไข่ที่อ่านไม่ชัดเจนและคุณเครือจึงไม่รู้ว่าตนเองเข้าข่ายที่จะสามารถขอได้หรือไม่แต่หลายคนก็ทำการลงทะเบียนไปแล้วโดยที่ไม่ได้อ่านเงื่อนไขทำให้เกรงว่าเมื่อได้รับการพิจารณาแล้วก็จะไม่ได้เงินช่วยเหลือเยียวยาหรือบางทีอาจจะได้เงินมาแต่อาจจะถูกเรียกเก็บคืนพร้อมกับดอกเบี้ย

      สำหรับโครงการนี้มีผู้เข้าร่วมสนใจเป็นจำนวนมากเนื่องจากว่าทุกคนทั่วประเทศต่างก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าเช่นเดียวกันทั้งหมดไม่ว่าบุคคลดังกล่าวจะทำงานหรือไม่ทำงานแต่ผลกระทบนี้มีผลต่อเนื่องกับทุกคนอย่างแน่นอนจริงๆ

แล้วเว็บไซต์ที่เปิดขึ้นมาเพื่อให้บุคคลลงไปทะเบียนรับเงินเยียวยานี้ควรจะมีการทำรูปแบบง่ายกว่านี้เพราะขนาดคนที่มีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ยังเข้าไปลงทะเบียนด้านแล้วตาสีตาสาที่ไม่เคยเข้าไปเล่นคอมพิวเตอร์เลยจะสามารถลงทะเบียนได้อย่างไร

  นี่คือข้อเสียของการลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ที่ทางรัฐบาลมีการจัดทำขึ้นเพราะวันที่เดือดร้อนและมีฐานะยากจนจริงๆก็อาจจะไม่สามารถเข้าไปทำการลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือเหล่านี้ได้หากเขาไม่มีลูกหลานที่มีความรู้ความสามารถมากพอ 

 

สนับสนุนโดย  www.ufabet.com ลิ้งเข้าระบบ

คนโรคจิตตำรวจเอาผิดไม่ได้

เพียงเพราะแค่เป็นคนโรคจิตตำรวจเอาผิดไม่ได้เหตุการณ์จิตรลดาแทงเด็ก 4 ขวบดับ 

      เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่รองลงมาจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกเรื่องนึงเลยก็ว่าได้จากกรณีที่นางสาวจิตรลดา   ฆาตกรที่เพิ่งพ้นโทษออกมาจากคุกและยังเป็นฆาตกรผู้ป่วยโรคจิตที่เคยก่อเหตุโด่งดังมาแล้วเมื่อ 15 ปีก่อน

เคยเคยบุกเข้าไปแทงเด็กนักเรียนผู้หญิงที่โรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์จนมีเด็กนักเรียนหญิงได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 4 คนด้วยกัน ผ่านมา 15 ปีที่ออกมาจากคุกและมาก่อเหตุฆาตกรรมเด็กหญิงวัย 4ปี อีกครั้งหนึ่ง  โดยเจ้าหน้าที่ผู้สื่อข่าวได้มีการลงไว้ยังจุดเกิดเหตุ

ซึ่งเป็นบ้านของเด็กผู้หญิงวัย 4 ขวบที่เพิ่งเสียชีวิตโดยเธอชื่อว่าน้องเอมเรื่องนี้ยากของน้องเอ็มเป็นคนเล่าให้นักข่าวฟังว่า บ้านของนางสาวจิตรลดาอยู่ใกล้กับบ้านของย่าของน้องเอมห่างกันแค่เพียง 5 เมตรเท่านั้นซึ่งก่อนหน้านี้นางสาวจิตรลดาก็เป็นลูกค้าประจำร้านของย่าน้องเอมโดยเธอจะมาซื้อข้าวกล่องที่ร้านของย่าของน้องเอม

  และเมื่อมาซื้อของทุกครั้งเธอก็จะไปยืนเกาะหน้าต่างประตูห้องครัวที่ยากน้องเอมสัมผัสกับข้าวยาของน้องเองจึงไม่ได้เฉลียวใจว่านางสาวจิตรลดาจะมาทำร้ายน้องเอมแต่ในวันเกิดเหตุขณะที่นางสาวเจษฎาเดินทางมาสั่งข้าวกล่องย่าน้องเอมซึ่งสั่งไปทั้งหมด 6 กล่อง แต่ครั้งนี้ต่างไปกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาเพราะว่านางสาวศิรดาไม่ได้เดินมาเกาะประตูมองเหมือนทุกครั้ง

แต่กลับเดินไปมองหลานสาวก็คือน้องเอมซึ่งกำลังนอนหลับอยู่แต่ย่าของน้องเอมก็ไม่ได้คิดอะไรยังคงทำกับข้าวต่อไปขณะที่ย่าไม่ทันตั้งตัวนางสาวจิตรลดาก็ใช้มีดที่พบมาจากที่บ้านแทงไปที่น้องเอง ซึ่งตอนนั้นก็อยู่ในครัวจึงไม่ทันระวังด้วยเหลือหลานได้ทันทีหลังจากแท้งเสร็จนางสาวจิตรลดาก็เดินออกไปจากบ้านย่าเอง

ก็วิ่งไปดูหลานหลังจากนั้นจึงได้แจ้งความที่สถานีตำรวจ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางครอบครัวของนางสาวจิตรลดาก็ยอมรับว่าลูกสาวตัวเองน่าจะก่อเหตุจริงเพราะนี่ก็เป็นมีดของที่บ้าน และครอบครัวของนางสาวจิตรลดาจะช่วยเหลือเงินค่าทำศพ  ปัจจุบันตำรวจสามารถกำจัดตัวนางสาวจิตรลดาได้แล้วแต่ปัญหาที่พบก็คือนางสาวจิตรลดาพูดไม่รู้เรื่อง

เพราะมีอาการทางประสาทซึ่งถ้าหากเป็นแบบนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะไม่สามารถเอาผิดนางสาวจิรดาได้เลยคุณย่าของน้องเองรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเพราะแค่เพียงว่าคุณเป็นบ้าคุณก็สามารถออกมาฆ่าใครก็ได้แล้วไม่มีความผิดซึ่งอาทิตย์จริงแล้วครอบครัวของนางสาวจิตรลดาเองก็ถือว่ามีความผิดเนื่องจากว่ารู้ว่านางสาวจิรดาป่วยแต่ก็ยังปล่อยให้ออกมาเพ่นพ่านนอกบ้านจนมาก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายแบบนี้ดังนั้นครอบครัวของนางสาวจิตรลดาควรจะมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบในครั้งนี้ด้วย 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  สมัครจีคลับ ไม่มีขั้นต่ำ

เด็กหญิงวัย 14 ฆ่าลูก 1 ขวบ

     มีเหตุการณ์เศร้าสลดเกิดขึ้นเมื่อบ้านหลังหนึ่งพบศพทารกอายุประมาณ 1 ขวบถูกฆ่าเสียชีวิตแล้วนำศพมาทิ้งไว้อยู่หลังบ้านดูเหตุการณ์ในครั้งนี้เมื่อตำรวจสืบทราบจึงพบว่าผู้ที่ก่อเหตุฆ่าเด็ก 1 ขวบคนดังกล่าวคือแม่ของเด็กเอง ซึ่งแม่ของเด็กนั้นเป็นเด็กหญิงอายุเพียงแค่ 14 ปีเท่านั้น

โดยเมื่อเธอถูกจับกุมได้เธอได้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเธอเป็นคนจับเด็กแขวนคอหลังจากเด็กตายเธอจึงได้นำศพของเด็กนำไปทิ้งไว้หลังบ้านของเพื่อนแล้วหาผ้ามาคลุมไว้พร้อมทั้งนำรถเข็นมาทับอีกทีนึง 

โดยคนที่พบศพคนแรกเป็นเด็กๆในหมู่บ้านที่พากันมาวิ่งเล่นตรงบริเวณดังกล่าว จึงทำให้พบศพแล้วจึงไปแจ้งผู้ใหญ่ให้มาดูจึงได้มีการประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบโดยทางผู้สื่อข่าวได้มีการลงไปสอบถามเจ้าของบ้านซึ่งเด็กหญิงวัย 14 ปี

ขอพักอาศัยอยู่ด้วยโดยทางเจ้าของบ้านได้ให้ข้อมูลว่าเด็กหญิงวัย 14 ปีนี้ทะเลาะกับพ่อเลี้ยงแล้วถูกพ่อเลี้ยงตกเธอจึงได้มาขออาศัยนอนอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าของบ้านเองก็ได้บอกกับทางผู้สื่อข่าวว่าระหว่างที่เด็กหญิงวัย 14 ปี

มาพักอาศัยอยู่ด้วยก็ไม่เคยได้บอกกล่าวเรื่องราวว่าตนเองมีปัญหาอะไรในวันเกิดเหตุตนเองเห็นว่าเด็กหญิงวัย 14 ปี อุ้มลูกออกไปนอกบ้านยังได้ถามเลยว่าจะไปที่ไหนซึ่งเด็กหญิงวัย 14 ปียังบอกว่าแฟนจะมารับเธอจึงไม่ได้สนใจอะไรหลังจากนั้นผ่านไป 1 วัน

จึงมีคนไปพบศพเด็กทารกนอนเสียชีวิตอยู่หลังบ้านซึ่งเธอยืนยันได้เลยว่าเธอไม่มีส่วนรู้เห็นกับการฆ่าเด็กวัยเพียง 1 ขวบในครั้งนี้ เมื่อนักข่าวไปสัมภาษณ์แม่ ของเด็กหญิงวัย 14 ปีสมมุตินามว่าเด็กหญิง A แม่ของเด็กหญิงเอให้สัมภาษณ์ว่าเด็กหญิงเอพร้อมกับใครไม่มีใครรู้

ซึ่งเคยสอบถามกับเด็กหญิงเอแล้วแต่เธอไม่ยอมพูดตอนนี้เด็กหญิงเอถูกจับไปขังไว้ที่สถานพี่นิดซึ่งหลังจากที่เราไปเยี่ยมดูก็พบว่าเด็กหญิงเอน่าจะมีอาการสำนึกผิดแล้ว สาเหตุที่ทำให้เด็กหญิง A โกรธถึงขนาดต้องฆ่าลูกตัวเองนั้นน่าจะมีสาเหตุมาจากว่าเด็กหญิง a ถึงแม้จะมีลูกแล้วแต่

ก็ยังชอบเที่ยวซึ่งในวันดังกล่าวเธอได้ไปเที่ยวตามปกติแล้วปล่อยรูปเอาไว้ที่บ้านซึ่งจะมีแม่แล้วก็พ่อเลี้ยงคอยช่วยกันเลี้ยงดูรูปของเด็กหญิง a ให้ในวันดังกล่าวกลับมาบ้านค่อนข้างดึกทำให้พ่อเลี้ยงรู้สึกโกรธที่ปล่อยให้ลูกอยู่บ้านแล้วตัวเองออกไปเที่ยวพ่อเลี้ยงจึงได้ต่อว่าเด็กหญิงออกไปแล้ว

จึงเกิดการโต้เถียงมันขึ้นจนในที่สุดพ่อเลี้ยงก็ได้ลงมือตบหน้าเด็กหญิง A ทำให้เด็กหญิง a รู้สึกโกรธจึงได้พาลูกวัย 1 ขวบออกจากบ้านไปแล้วไปอาศัยอยู่บ้านเพื่อนหลังจากนั้นเด็กหญิงเอจึงได้ทำการฆ่าลูกของตนเองและนำไปซ่อนดังที่เป็นข่าว 

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  พนันบอลออนไลน์ ฟรี2020

ประกาศงดขายเหล้า ทำคนลงแดงตาย 

           ในช่วงนี้ทางรัฐบาลได้มีการประกาศออกมาให้ร้านค้าทุกร้านงดการจำหน่ายเหล้า  สุรา  รวมถึงเครื่องดื่มทุกชนิดที่เป็นของมึนเมาโดยในกรุงเทพฯนั้นเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายนปีพศ 2563 เป็นต้นมาแล้วจะเสร็จสิ้นอีกทีนึงวันที่ 20 เมษายนปี 2563

ซึ่งการประกาศในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเฉพาะแค่เพียงกรุงเทพฯเท่านั้นแต่ยังมีอีกหลายจังหวัดที่ได้มีการประกาศออกมาด้วยเช่นเดียวกันรวมทั้งสิ้นที่ตอนนี้มีการประกาศห้ามจำหน่ายเหล้าแล้วประมาณ 11 จังหวัดด้วยกันโดยตั้งแต่รัฐบาลเริ่มมีการประกาศงดการจำหน่ายเหล้า

ซึ่งมีการประกาศเอาไว้ล่วงหน้านั้นชาวบ้านต่างก็พากันเดินทางไปที่ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั่วไปที่มีการจำหน่ายเหล้าไปเหมาเหล้าหมดเกลี้ยงแผงเลยทีเดียวโดยวันนี้วันที่ 10 เดือนเมษายนซึ่งเป็นวันแรกของการงดการจำหน่ายเหล้านั้นมีเรื่องที่น่าสลดใจเกิดขึ้นที่จังหวัดบุรีรัมย์

เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตรายนึงเป็นผู้ชายอายุประมาณ 40 ปีโดยมีชื่อว่านายแดงซึ่งอาการเสียชีวิตของเขานั้นตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใดนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง

โดยผู้เป็นแม่ของนายแดงได้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกชายเสียชีวิตเนื่องจากอาการลงแดงตายโดยปกติแล้วลูกชายจะต้องกินเหล้าขาววันละ 2 ขวดซึ่งลูกชายเป็นคนที่ติดเหล้าขาวมากหากวันไหนไม่ได้กินจะมีอาการคุ้มคลั่งไม่สบายแต่เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการประกาศออกมาไม่ให้ร้านค้ามีการจำหน่ายเหล้าทำให้นายแดงไม่สามารถไปหาซื้อเหล้าที่ไหนมากินได้

ซึ่งทางแม่ของนายแดงชื่อคุณวาสนาได้บอกว่าวันเกิดเหตุนั้นนายแดงกินเหล้าแล้วเหล้าหมดก่อนจึงได้เดินทางไปที่ร้านขายของชำเพื่อจะซื้อเหล้าแต่ทางร้านปฏิเสธ เมื่อเดินกลับมาถึงบ้านก็ไม่ยอมกินข้าวกินน้ำเดินเข้าไปนอนในห้องนอนรุ่งเช้ามาเพราะแม่จะไปปลูกในแดงก็พบว่านายแดงเสียชีวิต

แล้วโดยแม่ของนายแดงยืนยันว่าสาเหตุของการตายของนายแดงในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการที่นายแดงติดเชื้อไวรัสโควิด-19แต่อย่างใดแต่เสียชีวิตเพราะเกิดจากการลงแดงเนื่องจากไม่ได้กินเหล้าที่สำคัญในแดงอาจจะเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังอยู่แล้วก็ได้จึงทำให้เพราะไม่ได้กินเหล้าจึงมีอาการเกิดขึ้น

และเสียชีวิตดังกล่าว โดยผู้เป็นแม่ของนายแดงยืนยันอีกว่านายแดงเคยไปบำบัดเกี่ยวกับโรคพิษสุราเรื้อรังมาแล้วกำลังออกจากโรงพยาบาลมาก็ยังมีการติดเหล้าอยู่เหมือนเดิมและกินหนักขึ้นทุกวันวันไหนไม่ได้กินก็จะคุ้มคลั่งชอบทำลายข้าวของซึ่งปกติแล้วนายแดงจะกินแต่เหล้าข้าวปลา

จะกินแค่วันละมื้อเท่านั้นโดยตอนนี้แม่ของนายแดงได้มีการทำพิธีทางศาสนาให้กับนายแดงซึ่งมีคนมาร่วมงานแต่ก็นั่งห่างกันประมาณคนละ 1 เมตรตามนโยบายของรัฐบาลที่มีการประกาศเอาไว้ 

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันแทงบอล คาสิโน บาคาร่า

ไวรัสระบาดไปทั่วแม้แต่ตำรวจก็ติดเชื้อถึง 21 คน

ไวรัสระบาดไปทั่วแม้แต่ตำรวจก็ติดเชื้อถึง 21 คนแล้วแถมยังต้องกักตัวดูอาการ 14 วันถึง 431 คน 

          เป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างมากเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าเพราะจากเดิมที่ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไว้ได้ปัจจุบันได้มีการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากและจำนวนผู้ติดเชื้อก็มาจากทุกข์สายอาชีพไม่ว่าจะเป็นคุณหมอ   พยาบาล  ประชาชนทั่วไป   นักการเมือง   เหล่าดาราต่างๆ 

รวมถึงตำรวจและทหารก็ยังติดเชื้อไวรัสโคโรนาเช่นเดียวกันเป็นที่น่าตกใจว่ามีการรายงานข่าวเข้ามาถึงจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพบว่าเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าใจหายซึ่งล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นที่ตรวจแล้วพบอาการแน่นอนว่ามีเชื้อนั้นมีจำนวนมากหรือ 21 คน

ด้วยกันโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านี้จะถูกส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตามจุดต่างๆที่เปิดให้บริการในการรักษาโรคเชื้อไวรัสโคโรน่าและยังมีอีกจำนวนถึง 431 คนที่เข้าข่ายว่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าซึ่งยังต้องมีการกักตัวเพื่อสังเกตอาการอยู่ที่บ้านเป็นระยะเวลา 14 วัน

จึงทำให้บุคลากรของทางราชการที่ต้องคอยมาช่วยเหลือดูแลประชาชนต้องลดจำนวนลงไปค่อนข้างมากสิ่งที่เราเห็นกันก็คือความพร้อมของอุปกรณ์ในการป้องกันการติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่านั้นของประเทศไทยตอนนี้มีน้อยมากเช่นหน้ากากอนามัยซึ่งไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับเชื้อโรคไวรัสโคโรน่าอย่างหมอและพยาบาลเองประเทศ

ไม่มีใช้งานรวมถึงเจลล้างมือก็เริ่มขาดแคลนดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากสำหรับบุคคลที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่อาจจะมีเชื้อไวรัสโคโรน่าอย่างคุณหมอพยาบาลทหารตำรวจที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ ซึ่งเริ่มแรกเดิมทีนั้นอย่างหน้าที่ตำรวจพบว่ามีการติดเชื้อไวรัส Coronaแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะได้ตามหัวหน้างานไปในสถานที่ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะมีการแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่า

และหลังจากนั้นข้อมูลข่าวสารก็มีการกระจายออกมาเรื่อยๆว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดตอนนี้ก็พบว่ามีจำนวนมากถึง 21 คนเข้าไปแล้วและยังต้องมารอลุ้นอีก 400 กว่าคนว่าจะติดเชื้อไวรัสทั้งหมดหรือไม่ซึ่งแค่จำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าและต้องคอยสังเกตอาการนี้ก็ทำให้จำนวนเตียงในโรงพยาบาลแทบ

จะไม่เพียงพอรักษาคนไข้คนอื่นแล้วดังนั้นทุกคนไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็ตามควรจะให้ความร่วมมือกันในการกักตัวเองอยู่แต่ในบ้านเป็นระยะเวลา 14 วันเพื่อดูอาการของตนเองก่อนว่าจะมีอาการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเกิดขึ้นหรือไม่เพื่อป้องกันการออกไป

แพร่ระบาดให้กับคนอื่นและลดการกระจายการแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่าออกไปเพราะถ้าหากเราสามารถควบคุมการแพร่เชื้อระบาดมีรายจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ในตอนนี้ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้เช่นเดียวกันและเราก็จะสามารถยุติการเป็นโรคไวรัสชนิดนี้ได้เช่นเดียวกัน 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ufabet บาคาร่า

13-15 เมษายนนี้งดกิจกรรมสงกรานต์

13-15  เมษายนนี้งดกิจกรรมสงกรานต์  มหาเถระสมาคมประกาศแจ้งกับทุกวัดในไทย

        ได้มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วสำหรับกิจกรรมวันสงกรานต์ที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 เดือนเมษายนถึงวันที่ 15 เดือนเมษายนปีพศ 2563 ว่าทุกสถานที่สั่งงดการจัดกิจกรรมวันสงกรานต์ทางนี้จะงดทั้งจังหวัดและกิจกรรมภายในวัดเองก็จะไม่มีการทำกิจกรรมใดๆทั้งสิ้นเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงเรื่องของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส โควิด-19

ทั้งนี้นอกจากทางรัฐบาลจะมีการประกาศให้ประชาชนรับทราบแล้วยังมีการประกาศงดประชาชนเดินทางออกนอกพื้นที่ในช่วงกิจกรรมวันสงกรานต์นี้อีกด้วยรวมถึงทางมหาเถรสมาคมซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลวัดต่างๆทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศก็ได้มีการประชุมปรึกษาหารือกันเรียบร้อยแล้วว่าจะไม่มีการจัดกิจกรรมใดๆในวัดเป็นอันขาดไม่ว่าจะเป็นวัดในประเทศไทย

หรือว่าต่างประเทศโดยกิจกรรมนี้มีการประกาศให้งดกิจกรรมมาแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 เมษายนเป็นต้นไป ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะเปิดให้มีการทำกิจกรรมในบริเวณวัดได้อีกเมื่อไหร่เนื่องจากต้องรอดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 

ดูก่อนว่ามีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้นหรือไม่ซึ่งหลายคนมีความเห็นตรงกันว่าหากว่าวัดยังคงมีการทำกิจกรรมทำบุญที่วัดประชาชนรถประกันเดินทางไปทำบุญซึ่งก็จะกลายเป็นแหล่งรวมคนจำนวนมากและนี่เองจะเป็นจุดที่จะสามารถแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19ให้กันได้ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ในช่วงนี้รัฐบาลจะขอความร่วมมือให้งดกิจกรรมทั้งหมดและหากใครก็ตามที่มีการฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย 

         สำหรับกิจกรรมภายในวัดนี้เป็นกิจกรรมของพระสงฆ์ซึ่งทางด้านพระสงฆ์เองก็ต้องมีการระวังเรื่องของการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกันซึ่งประสงค์เองการที่จะทำวัตรหรือนั่งสมาธิต่างๆก็ต้องเว้นระยะห่างกัน 1 เมตรเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไปหรือชาวบ้านทั่วไปเช่นเดียวกัน

ดังนั้นในช่วงนี้ที่ทางรัฐบาลเองยังไม่สามารถที่จะทำการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ได้นั้นทุกคนก็ต้องให้ความร่วมมือเพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสและเมื่อประชาชนไม่มีการระบาดไม่มีการติดเชื้อสถานการณ์ของประเทศก็จะดีขึ้นและทุกคนก็จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

โดยสามารถไปทำงานรวมถึงไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆหรือไปทำบุญที่วัดได้แต่ถ้าหากไม่ร่วมแรงร่วมใจกันในช่วงนี้และยังคงปล่อยให้มีการแพร่ระบาดของไวรัสอยู่ต่อไปเราก็จะไม่สามารถไปทำบุญหรือไปทำกิจกรรมอื่นๆหรือแม้แต่ไปทำงานได้ดังนั้นช่วงนี้ไม่ว่าจะเป็นทางบ้านหรือพระสงฆ์ต่างก็ควรจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันในการลดความเสี่ยงที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ให้ได้ 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  gclub slot เล่นผ่านเว็บ

เจ็บสาหัสจากการสูตรแอลกอฮอล์จากก้นถัง

คนงานบาดเจ็บสาหัสจากการสูตรแอลกอฮอล์จากก้นถังเพื่อมาผลิตเจลล้างมือ 

         ที่จังหวัดสมุทรปราการมีเหตุการระเบิดเกิดขึ้นที่โรงงานแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงงานผลิตเจลล้างมือโดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่พนักงานได้ทำการดูดเอาแอลกอฮอล์ที่ค้างอยู่ตรงก้นถังขึ้นมาซึ่งพนักงานหนุ่มที่เคราะห์ร้ายเป็นแรงงานชาวพม่าแรงระเบิดทำให้เขากระเด็นสูงถึง 6 เมตรหลังจากนั้นร่างก็ตกกระแทกพื้นพบว่าตอนนี้อาการสาหัส

            เหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดสมุทรปราการซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 27 เดือนเมษายน   ปีพุทธศักราช 2563 แรงงานชาวพม่าทำงานที่บริษัทพูนพัฒน์คอร์ปอเรชั่นโดยมีเจ้าของโรงงานชื่อนางสาวชวนชมคอยดูแลกิจการอยู่

ซึ่งโรงงานนี้เป็นโรงงานที่ใช้ผลิตเจลล้างมือโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อแรงงานชาวพม่าได้มีการใช้ปั๊มเพื่อดูดเอาแอลกอฮอล์ขึ้นมาจากก้นถังเนื่องจากว่าถังที่มีขนาดใหญ่นั้นมีการใช้แอลกอฮอล์ไปจนเกือบจะหมดแล้วเหลืออยู่ตรงก้นถังแค่เพียงประมาณ 50 เมตรเท่านั้น

แรงงานพม่าคนดังกล่าวจึงได้พยายามดูดแอลกอฮอล์เพื่อจะให้หมดถังนำมาใช้ในการผลิตเจลล้างมือเดินเขาต้องการดูดน้ำแอลกอฮอล์ประมาณ 50 M นั้นมาไว้ในถังขนาดเล็กเพื่อสะดวกในการใช้งานแต่เนื่องจากมีข้อผิดพลาดทำให้เกิดการระเบิดขึ้นซึ่งแรงอัดของระเบิดทำให้ร่างของแรงงานพม่ากระเด็นสูงถึง 6 เมตร

หลังจากนั้นก็ร่วงลงมากระแทกพื้นทำให้เขาได้รับบาดเจ็บแสนสาหัสซึ่งแรงงานชาวพม่าคนดังกล่าวต่อมาทราบชื่อว่าในซอ  จากการตรวจสอบพบว่าที่จริงแล้วนาย ซอ นั้นไม่ใช่พนักงานของโรงงานโดยตรง แต่เขาเดินทางมาเยี่ยมญาติที่เป็นพนักงานและพักที่โรงงานแห่งนี้เมื่อเห็นว่าญาติทำงานเยอะนายซอจึงได้เข้าไปช่วยญาติทำงาน

ซึ่งนาย ซอ น่าจะไม่ค่อยมีความรู้ความเข้าใจในการใช้อุปกรณ์มากนักจึงทำให้เกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นได้ อย่างไรก็ดีตอนนี้ผู้บาดเจ็บได้ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วและนางสาวชวนชมก็รับปากว่าจะมีการดูแลผู้บาดเจ็บเป็นอย่างดี

พร้อมทั้งยืนยันจะมีการจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้บาดเจ็บจนกว่าผู้บาดเจ็บจะดีขึ้นอีกครั้งยังจะมีการปรับปรุงโรงงานให้มีมาตรฐานการดำเนินงานให้มากขึ้นกว่าเดิม  และพร้อมจะดูแลพนักงานทุกคนให้ปลอดภัยไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อีก

เหตุการณ์ในครั้งนี้ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบโรงงานว่าโรงงานได้มาตรฐานมากน้อยแค่ไหนอุปกรณ์ที่นำมาผลิตเจลนั้นมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหนและคนงานมีความรู้ความชำนาญและมีการเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของการใช้สารเคมีมากน้อยเพียงใด

เพราะแอลกอฮอล์นั้นเป็นวัตถุไวไฟซึ่งถ้าหากทำไม่ดีหรือไม่มีความรู้ในการดูแลรักษาก็อาจจะทำให้เกิดระเบิดและเหตุการณ์ซ้ำเดิมก็อาจจะเกิดขึ้นมาอีกได้อีกทั้งโรงงานต้องดูว่ามีการขอเปิดโรงงานอย่างถูกต้องหรือไม่เพื่อที่จะได้รู้ว่าเจลแอลกอฮอล์ที่ผลิตออกมาขายนั้นเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและผู้ที่ซื้อไปใช้งานสามารถใช้ได้โดยไม่เกิดอันตรายหรือไม่

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  gclub casinoทดลองเล่น

กระแสการขายของออนไลน์ฟรีเวอร์เบียร์สดก็มีเดลิเวอรี่

             เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทยยังคงมีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าอยู่ถึงแม้จะลดจำนวนลงแล้วก็ตามแต่เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องไปเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรนาประชาชนส่วนใหญ่จึงมักจะมีการสั่งอาหารให้มาส่งที่บ้านแทนที่จะออกไปซื้อสินค้าด้วยตนเองและบริการการจัดส่งอาหารหรือที่เราเรียกกันว่าเดลิเวอรี่นั้น

จึงเป็นรายการยอดนิยมที่ในขณะนี้พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่มักจะมีการขายแบบออนไลน์เพื่อให้ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าและไปส่งที่บ้านได้เป็นการสร้างยอดขายให้กับตนเองเพราะหากเปิดขายหน้าร้านแล้วลูกค้าส่วนใหญ่มักจะไม่เดินทางออกมาซื้อเนื่องจากหลายคนเกรงว่าระหว่างการเดินทางอาจจะติดเชื้อไวรัส

จากบุคคลอื่นได้ดังนั้นการสั่งอาหารมากินที่บ้านจึงเป็นวิธีการที่มีการนิยมการใช้บริการกันมากในปัจจุบันซึ่งเมื่อลูกค้านิยมที่จะสั่งสินค้าผ่านระบบออนไลน์จึงมีพ่อค้าแม่ค้าหลายรายที่เปิดกิจการขึ้นมาใหม่เพื่อหาสินค้าใหม่ๆมาขายผ่านระบบออนไลน์หนึ่งในนั้น

ก็คือการขายเบียร์สดผ่านระบบออนไลน์โดยถ้าหากมีใครสั่งสินค้าที่เป็นเบียร์สดก็สามารถแจ้งความจำนงโอนเงินแล้วจะมีบริการนำเบียร์สดไปส่งให้ถึงบ้านโดยการขายเบียร์สดในครั้งนี้ได้มีการใส่ขวดและมีการแปะโลโก้ของร้านค้าเอาไว้อย่างชัดเจน

แต่หลังจากที่มีผู้คนสนใจสั่งเบียร์สดผ่านออนไลน์เป็นจำนวนมากทางกรมควบคุมโรคซึ่งได้มีการออกตรวจสอบเพื่อหาร้านค้าที่มีการขายเบียร์สดออนไลน์ในครั้งนี้เนื่องจากการขายเบียร์สดออนไลน์ถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมายจึงทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่ประกาศขายเบียร์สดทางออนไลน์

ต้องถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีและถ้าเป็นการปรับปรับไม่เกิน ห้าแสน บาทหรือถ้าใครโดนโทษหนักก็อาจจะโดนทั้งจำทั้งปรับเลยก็ได้สาเหตุที่ร้านค้าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนั้นเนื่องจากว่าการที่มีการประกาศขายผ่านทางสื่อออนไลน์นั้นผู้ซื้อไม่สามารถควบคุมอายุได้

เนื่องจากว่าใครจะสั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์ก็ได้เราไม่สามารถรู้ได้ว่าคนที่ซื้อเบียร์สดผ่านออนไลน์นั้นมีอายุเท่าไหร่ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่ามีอายุต่ำกว่า 15 ปีในการเข้ามาสั่งซื้อซึ่งถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมายที่มีการขายของที่เป็นประเภทแอลกอฮอล์ให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี

ดังนั้นจึงทำให้มีคนร้องเรียนเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องของการขายเบียร์สดออนไลน์และนำมาสู่การจับกุมในครั้งนี้ซึ่งหลังจากที่มีเรื่องของการจับกุมการขายเบียร์สดออนไลน์เกิดขึ้นทางตรงควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงได้มีการประกาศเกี่ยวกับเรื่องของการร้องทุกข์หรือร้องเรียนเรื่องราว

สำหรับร้านค้าที่มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับคนอายุต่ำกว่า 18 ปีสามารถที่จะโทรมาร้องเรียนได้และทางเจ้าหน้าที่จะลงไปตรวจสอบพื้นที่และหากมีความผิดจริงก็จะมีการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปโดยสามารถติดต่อร้องทุกข์ได้ที่หมายเลข 1422

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เวปยูฟ่าเบท