นักทฤษฏีได้เปิดเผยขอดังกล่าวที่อาจทำให้เกิดโควิด-19ขึ้นมา

รัฐบาลแคนาดา

นักทฤษฏีสมคบคิดบางคนเชื่อว่ารัฐบาลแคนาดานำโดยนายกรัฐมนตรีJustin Trudeauได้ทำการสร้างไวรัสโควิด-19ขึ้นมาที่ห้องปฏิบัติการจุรชีวิตวิทยาแห่งชาติที่เมืองในแคนาดาซึ่งได้เป็นส่วนหนึ่งของการสารหาป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อของหน่วยงานสาธารณะสุขแคนาดา

โดยห้องปฏิบัติการณ์ดังกล่าวเป็นหน่วยงานของรัฐบาลแคนาดาที่ดำเนินการวิจัยที่เกี่ยวกับไวรัสร้ายแรงเช่นเดียวกับที่ อู่ฮั่น ในประเทศจีนนักทฤษฏีสมคบคิดบอกว่าสายลับของจีนได้ขโมยไวรัสไปจากห้องปฏิบัติการณ์แคนาดาและส่งไปยังสถายันไวรัสวิทยาใน  อู่ฮั่น

ซึ่งเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดโดยสายลับคนนั้นก็คือ ดร.Keding Cheng ภรรยาของเขา ดร.Xiangguo Qiuซึ่งทั้งคู่ได้ทำงานที่ห้องแลบในแคนาดาจนในกระทั่งในปี2019ทั้งคู่ก็ได้ถูกให้ไล่ออกจากงานนอกจากนี้นักทฤษฏีสมคบคิดยังได้บอกอีกว่าสาเหตุที่ทั้งคู่นั้นได้ถูกไล่ออกนั่นก็เป็นเพราะทั้งคุ่ได้มีการขโมยตัวอย่างของไวรัสและได้ส่งกลับไปยังประเทศจีนแต่ทาง

สำนักงานCanadaแห่งชาติในแคนาดาบอกว่าสาเหตุที่ทั้งคู่นั้นได้ถูกไล่ออกเนื่องจากเรื่องนโยบายของการบริหารแต่มันก็ยังคงไม่มีใครที่จะออกมาบอกความจริงให้ได้ในส่วนของเรื่องนี้

การระเบิดของอุกกาบาต ในเดือนตุลาคม ปี2019

มีเหตุการณ์ในบางอย่างที่ได้มีการเกิดขึ้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนในช่วงเช้าของวันที่11ตุลาคมปี2019 นั่นก็คืออุกกาบาตที่ได้มีการเกิดขึ้นในท้องฟ้าหลังจากในประมาณเวลาในเที่ยงคืนซึ่งก็ได้ทำให้เกิดแสงบางอย่างที่ได้ทำให้ท้องฟ้าในย่ามค่ำคืนของท้องฟ้าได้สว่างขึ้นจากนั้นนักทฤษฏีสมคบคิดก็ยังได้กล่าวอีกว่าอุกกาบาตได้นำไวรัสโควิด2019

จากนอกอวกาศได้นำเอาเข้ามาสู่โลกแต่นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ออกมาบอกว่าสิื่งเหล่านี้ไม่น่าเกิดเป็นไปได้เนื่องจากดาวตกไม่ได้ตกลงถึงพื้นและถึงแม้ว่าอุกกาบาต ดังกล่าวจะนำเอาไวรัสโควิด2019เข้ามาด้วยแต่นักวิทยาศาสตร์ได้มีการคิดว่าไวรัสนั้นไม่สามารถที่จะอยู่รอดได้ในอุณหภูมิที่สูงจากการเสียดสี

และการลุกไหม้ในชั้นบรรยากาศซึ่งอุณหภูมิได้สูงถึง650องศาเซลเซียสและด้วยระยะเวลาก่อนที่อุกกาบาต นั้นจะตกลงถึงพื้นดินนั่นก็เกิดพอที่จะฆ่าไวรัสได้หลายรอบผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อยังได้กล่าวเสริมอีกว่าเชื้อไวรัสโควิด-19ได้เกิดมีแนวโน้มมากที่สุด

ที่จะได้มีการเกิดขึ้นมากบนโลกของเราซึ่งใน โควิด-2019อยู่ในกลุ่มของไวรัสที่เรียกว่า โคโรน่าไวรัสซึ่งได้เป็นญาติ SARS , MERS และเราก็ได้รับรู้ว่า SARS , MERS ได้เกิดขึ้นมากของเราส่วนโควิด2019เวลาเท่านั้นที่จะบอก

พนักงานทำความสะอาดมีไข้สูงและเป็นลมหมดสติ

สนามบินสุวรรณภูมิพบพนักงานทำความสะอาดมีไข้สูงและเป็นลมหมดสติ

   มีรายงานข่าวเข้ามาว่าเมื่อวันที่ 28 เดือนมีนาคมปีพศ 2563 มีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิโดยพบว่ามีหญิงสาวที่เป็นแม่บ้านคนหนึ่งซึ่งทำความสะอาดอยู่ดีๆก็เป็นลมล้มลงไปและเมื่อมีการนำไปให้แพทย์ประจำสนามบินสุวรรณภูมิตรวจสอบพบว่าหญิงแม่บ้านคนดังกล่าวมีอาการไข้ขึ้นสูงรวมถึงหายใจลำบาก

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สนามบินจึงได้ส่งตัวหญิงสาวแม่บ้านคนดังกล่าวไปที่โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์นราดูรเพื่อทำการตรวจสอบหาเชื้อว่ามีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือไม่แต่เบื้องต้นจากการที่ตรวจสอบประวัติของแม่บ้านคนดังกล่าวพบว่าไม่เคยเดินทางไปประเทศที่มีกลุ่มเสี่ยงมาก่อนแต่เพื่อความสบายใจของพนักงานคนอื่นๆในสนามบินสุวรรณภูมิรวมถึงลูกค้าที่ไปใช้บริการที่สนามบินดังนั้นจึงจำเป็นต้องพาแม่บ้านคนดังกล่าวไปทำการตรวจสอบหาเชื้อและจะได้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งให้กับทุกๆคนได้ทราบ

ว่าสรุปแล้วแม่บ้านคนดังกล่าวมีการติดเชื้อหรือไม่แต่ในที่นี้ทางเจ้าหน้าที่สนามบินก็ได้ออกมาประกาศว่าไม่อยากจะให้ประชาชนที่ทราบข่าวมีความรู้สึกตื่นตระหนกกับข่าวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เพราะว่าอันที่จริงแล้วหญิงแม่บ้านคนนี้ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสได้เลยดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่แม่บ้านคนดังกล่าวจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าซึ่งอาการไข้ขึ้นสูง 38.5 องศาเซลเซียสนั้นอาจจะเกิดมาจากเป็นไข้หวัดธรรมดาก็ได้ดังนั้นอย่าให้รอฟังผลจากทางแพทย์ประกาศออกมาก่อน

      จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้หลายคนเกิดความหวาดกลัวว่าเชื้อไวรัสกำลังแพร่ระบาดไปในทุกพื้นที่เพลงแม้ว่าในพื้นที่ดังกล่าวจะมีการเข้มงวดเกี่ยวกับเรื่องของการฆ่าเชื้ออย่างเช่นที่สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าจะมีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคทุกๆ 3 ชั่วโมงแต่ถ้าเกิดว่าผลออกมาว่าหญิงแม่บ้านคนดังกล่าวมีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าขึ้นมานั่นก็แสดงว่าสนามบินสุวรรณภูมิไม่ใช่สถานที่ที่จะปลอดภัย

จากเชื้อโรคอีกต่อไปเพราะถึงแม้ว่าจะมีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคในภายในสนามบินได้แต่ก็ยังพบว่าแม่บ้านอาจจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้เช่นกันซึ่งตอนนี้คงต้องรอผลการตรวจจากทางแพทย์โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์นราดูรออกมาว่าถ้าหากว่าผลออกมาแล้วแม่บ้านติดเชื้อไวรัสโคโรน่าต้องมาดูกันว่าทางผู้บริหารของสนามบินสุวรรณภูมิจะออกมาแก้ไขปัญหาเช่นนี้ได้อย่างไรเพื่อเรียกร้องขวัญและกำลังใจและความเชื่อมั่นของประชาชนเพื่อที่จะกลับมาใช้ กันต่อไป 

ข่าวนักดับเพลิงต้องมาดับไฟที่ไหม้บ้านตัวเอง สุดเข็มแข็ง

    ก่อนหน้านี้ในสังคมโซเชียวได้มีการเผยแพร่ภาพผู้ชายคนหนึ่งใส่ชุดดับเพลงกำลังนั่งปลอดใจเด็กชายคนหนึ่งที่ใส่ชุดนักเรียน ซึ่งมีการบรรยายภาพเอาไว้ว่าชายคนดังกล่าวเป็นนักดับเพลิงที่มีหน้าที่ไปดับไฟเวลาที่มีไฟไหม้บ้านคนอื่นแต่วันนี้กลับต้องมาดับไฟที่กำลังไหม้บ้านของตัวเอง และยังต้องมาคอยปลอบใจลูกชายที่กลับมาถึงบ้านแล้ว

เห็นบ้านไฟไหม้โดยทั้งสองคนหลังจากดับไฟได้แล้วก็พยายามเดินหาชุดฟุตบอลและลูกฟุตบอลที่ลูกชายของนักดับเพลิงรักหนักหนา ซึ่งเมื่อมีภาพเผยแพร่ออกมาทุกคนที่ได้อ่านและเห็นภาพต่างก็รู้สึกสงสารชายดังกล่าวและลูกชายกันมาก มีหลายคนซื้อชุดฟุตบอลและลูกฟุตบอลให้กับเด็กชาย รวมถึงรวมเงินกันเพื่อบริจาคช่วยเหลือชายคนดังกล่าวแล้ว

       เป็นข่าวที่ให้ความรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก เพราะคงไม่มีใครที่อยากจะต้องมาเห็นบ้านของตัวเองไฟไหม้ไปต่อหน้าต่อตา ยิ่งถ้าทำงานเกี่ยวกับการดับเพลิงทั้งชีวิตเคยแต่ไปช่วยดับไฟที่ไหม้บ้านของคนอื่นมาวันนี้ ต้องมาดับไฟไหม้บ้านตัวเองถึงแม้แขนขาจะอ่อนแรง จะหมดกำลังใจยังไงในขณะที่เห็นไฟไหม้บ้านของตัวเอง แต่ก็ต้องเข็มแข็ง

ต้องพยายามดับไฟที่กำลังไหม้ให้ถึงที่สุด ซึ่งเมื่อมีการเผยแพร่ข่าวนี้ออกไปและเมื่อมีหลายคนที่ได้เข้ามาอ่านข่าว ต่างก็รู้สึกเหมือนกันก็คือสงสารชายคนนี้เป็นอย่างมาก เขาทำงานช่วยเหลือไม่ให้บ้านคนอื่นโดนไฟไหม้มาตลอด ดังนั้น จึงมีหลายคนรวบรวมน้ำใจเพื่อช่วยเหลือชายคนดังกล่าว แต่การที่เราช่วยเหลือเขามันก็คงไม่สามารถทดแทนสิ่งที่เขาสูญเสียไปได้แต่โชคก็ยังดีที่เหตุการณ์ไฟไหม้บ้านครั้งนี้เขาไม่ได้สูญเสียใครไปนอกจากทรัพย์สินนอกกายเท่านั้น

         นี่เป็นอุทาหรณ์อีกหนึ่งกรณีที่เราควรนำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินการเกี่ยวกับชีวิตของเรา  อย่าประมาทเด็ดขาดควรหมั่นตรวจตราฟืนไฟที่บ้านให้เรียบร้อย อย่าเสียบปลั๊กคาทิ้งไว้ และที่สำคัญอย่างจุดธูปหรือเทียนทิ้งไว้ควรหมั่นมาตรวจสอบจนกว่าไฟจะดับหมดเรียบร้อยเพราะความประมาทจะนำเป็นสู่การสูญเสียเสมอ  ยิ่งช่วงนี้สภาพอากาศแห้งแล้ง หากมีการจุดไฟจะง่ายต่อการไหม้เร็วดังนั้น ควรระวังให้ดีอย่าประมาท

       และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าชายดับเพลิงคนนั้น จะยังคงมีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป แม้สูญเสียบ้านแต่ก็ยังขอให้มีกำลังใจที่จะทำงานต่อเพื่อมาสร้างบ้านที่อยู่อาศัยใหม่อีกครั้ง พวกเราชาวสังคมโซเชียวจะขอร่วมเป็นกำลังใจให้