สาวโรงงานฉีดวัคซีนชิโนฟาร์มได้ 3 ชั่วโมงเกิดภาพหลอนอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ 20 วันเสียชีวิต 

       สาวโรงงานฉีดวัคซีนชิโนฟาร์ม  เมื่อวันที่ 29 เดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2564 มีการเปิดเผยออกมาจากสำนักข่าวแห่งหนึ่งระบุว่าได้มีชายคนหนึ่งมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมเนื่องจากว่าภรรยาของเขาเสียชีวิตโดยชายคนดังกล่าวระบุว่าภรรยาของเขานั้นเข้ารับการฉีดวัคซีนยี่ห้อชิโนฟาร์ม

โดยได้โควต้าจากบริษัทที่ทำงานอยู่และภรรยาของเขาสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีก่อนที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนแต่หลังจากที่ฉีดวัคซีนไปแล้วเพียงแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้นภรรยาของเขาก็มีอาการมือและเท้าชารวมถึงมีอาการปวดศีรษะและเริ่มท้องเสียจากนั้นภรรยาของเขาก็เริ่มมองเห็นภาพหลอน

         ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 เดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2564    หลังจากที่ภรรยาของเขามีอาการต่างๆเหล่านี้ทางฝ่ายสามีจึงได้พาภรรยาไปที่โรงพยาบาลโดยไปโรงพยาบาลแรกทางโรงพยาบาลแจ้งว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการรักษา

ซึ่งตัวเขาเองยืนยันว่าเขาทำงานเป็นพนักงานขับรถตู้ให้กับโรงงานแห่งหนึ่งเท่านั้นไม่ได้มีเงินเก็บมาพอทำให้ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจพาภรรยาของเขาไปอีกโรงพยาบาลหนึ่งซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ภรรยาของเขามีประกันสังคมอยู่   

              อย่างไรก็ตามก่อนที่จะพาภรรยาเดินทางไปที่โรงพยาบาลที่ 2 นั้นคุณหมอในโรงพยาบาลแรกและมีการฉีดยาให้กับภรรยาของเขาเพื่อเป็นการรักษาอาการเบื้องต้นให้ก่อน  

และเมื่อเขาและภรรยาไปถึงโรงพยาบาลที่สองเขาได้เล่าอาการให้กับทางโรงพยาบาลฟังแต่ทางโรงพยาบาลก็แจ้งว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาเช่นเดียวกันดังนั้นเขาจึงไม่ได้ให้ภรรยารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแต่พากลับมารักษาตัวที่บ้านแทน

          อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาส่งพญากลับมาถึงบ้านก็ให้ภรรยานอนพักผ่อนส่วนตัวเขาเองก็กลับไปทำงานแต่หลังจากทำงานได้ไม่นานเพื่อนบ้านก็โทรมาแจ้งว่าภรรยาของเขาบุกรุกไปในบ้านของเพื่อนบ้านเพื่อไปติดตามหมาทั้งที่หมาไม่ได้อยู่ในบ้านของเพื่อนบ้านหลังจากนั้นเขาจึงได้เดินทางไปดูภรรยาซึ่งในขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาอยู่ในจุดเกิดเหตุด้วยเขาได้พยายามอธิบาย

ให้เพื่อนบ้านและทุนตำรวจฟังว่าภรรยาของเขามีอาการเช่นไรซึ่งหลังจากที่ทุกคนเข้าใจกันดีแล้วก็พากันแยกย้ายกันกลับบ้านแต่ภรรยาของเขาอาการกลับไม่ดีขึ้นยังมีอาการเพ้อพร้อมทั้งยังระบุด้วยว่ามีคนจะมาทำร้ายร่างกายเธอ

         ดังนั้นเขาจึงได้พาภรรยาของเขาไปที่โรงพยาบาลประกันสังคมอีกครั้งหนึ่งและเข้ารับการรักษาซึ่งคุณหมอก็พาเธอเข้าห้อง ICU ทันทีพร้อมกับระบุว่าเธอนั้นมีอาการสมองบวมอย่างไรก็ตามภรรยาของเขาเข้าไปรักษาอาการป่วยได้เพียงไม่กี่วันอาการก็ยิ่งทรุดลงเรื่อยๆและในที่สุดเมื่อวันที่ 28 เดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2564 ทางโรงพยาบาลก็แจ้งว่าภรรยาของเขาได้เสียชีวิตลงแล้ว

ซึ่งเขาต้องการร้องขอความเป็นธรรมเนื่องจากว่าภรรยาของเขานั้นน่าจะเสียชีวิตหลังจากที่มีการฉีดวัคซีนเพราะภรรยาของเขานั้นไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไร แต่คุณหมอกลับระบุสาเหตุการตายว่าตายจากโรคประจำตัวจริง 

 

สนับสนุนโดย.    สมัครเว็บ ufabet

หนุ่มสุดทน เพื่อนบ้านใช้อาวุธปืนรัวดับก่อนเข้ามอบตัว 

      หนุ่มสุดทน เพื่อนบ้าน  เจ้าหน้าที่ตำรวจสภเขาพนมของจังหวัดกระบี่ได้รับการติดต่อจากนายไทยมิตรรุ่งเรืองอายุ 45 ปีเพื่อขอเข้ามอบตัวในข้อหาฆ่าคนโดยเจตนาโดยการเข้ามอบตัวในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 เดือนมกราคมปีพ.ศ 2555 ซึ่งทางด้านในไทยมิตรนั้นระบุว่าตนเองนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงนายสุธรรม ตาย  ซึ่งนายสุธรรมนั้นเป็นเพื่อนบ้านของนายไทยมิตรเอง 

      สำหรับข้อมูลของนายไทยมิตรนั้นระบุว่าตนเองนั้นทำอาชีพเป็นผู้รับเหมาติดตั้งกระจกและเป็นเพื่อนบ้านของผู้เสียชีวิตซึ่งบ้านนั้นอยู่ติดกันมาเป็นระยะเวลานานหลายปีแล้วแต่ทั้งสองบ้านนั้นไม่ค่อยจะลงรอยกันเนื่องจากว่าทางผู้เสียชีวิตนั้นมักจะมีการพูดจากระทบกระเทียบด่าว่าแม่ของนายธนิตอยู่เป็นประจำนอกจากนี้ก็มักจะตะโกนขู่ฆ่าแม่ของนายไทยมิตรอยู่เรื่อยๆ  ซึ่งคำแต่ละคำที่ผู้ตายตะโกนด่าออกมานั้นเป็นถ้อยคำที่หยาบคายและรุนแรงเป็นอย่างมาก 

       นาย ไทยมิตร  ยอมรับว่าในวันเกิดเหตุนั้นตนเองมีอารมณ์โมโหเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าผู้เสียชีวิตนั้นตะโกนด่าแม่ของตนเองอยู่ตลอดเวลาหลังจากนั้นผู้ก่อเหตุจึงได้เดินไปดู ผู้เสียชีวิตว่าจะเอายังไงและต้องการที่จะไปตกลงเจรจากันแต่เมื่อไปถึงพบว่าผู้เสียชีวิตนั้น

ยืนถือขวานข้างหนึ่งถือมีดข้างหนึ่งพร้อมทั้งข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายของเขาทำให้เขานั้นตัดสินใจนำอาวุธปืนที่พกมายิงใส่ผู้เสียชีวิตทันทีทำให้ผู้เสียชีวิตนั้นตายคาที่หลังจากนั้นนายไทยมิตรจึงได้นำอาวุธปืนเดินไปที่โรงพักและขอเข้ามอบตัว

        อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ทำให้บ้านทั้งสองหลังทะเลาะวิวาทกันนั้นเกิดจากการที่บ้านทั้งสองหลังนั้นมีการปลูกต้นไม้และกิ่งของต้นไม้นั้นแผ่กระจายเข้าไปในบ้านของอีกฝ่ายทำให้เกิดการทะเลาะกันเรื่อยมา  

        สำหรับแม่ของนายไทยมิตรซึ่งเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุยิงเพื่อนบ้านเสียชีวิตนั้นระบุว่าตัวเธอนั้นมักจะทะเลาะกับผู้เสียชีวิตอยู่เป็นประจำและมักจะมีการข่มขู่ว่าจะเข้ามาทำร้ายเธออยู่เป็นประจำทำให้ลูกของเธอนั้นไม่พอใจซึ่งโดยปกติแล้วลูกชายของเธอจะอยู่บ้านกันคนละหลังแต่บังเอิญว่าวันเกิดเหตุนั้นลูกชายของเธอมาช่วยปูกระเบื้องให้และได้เจอในช่วงที่ผู้เสียชีวิตกำลังด่าทอเธออยู่พอดีจึงได้ตั้งใจจะไปเคลียร์แต่ก็เกิดการยิงกันเกิดขึ้นเสียก่อน

       ส่วนทางด้านพี่สาวของผู้เสียชีวิตยืนยันว่าผู้เสียชีวิตนั้นวันๆชอบเอาแต่ทะเลาะกับเพื่อนบ้านและไม่เคยทำงานทำการไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งอยู่บ้านดื่มน้ำกระท่อมเสพยาเสพติดอยู่เป็นประจำแล้วพี่สาวของผู้เสียชีวิตไม่ได้ติดใจสาเหตุของการฆ่ากันตายในครั้งนี้ 

 

สนับสนุนโดย.    Gclub ฟรี 500

พ่อชาวอเมริกันไม่พอใจครูตัดผมลูกสาววัย 7 ขวบฟ้องเรียกค่าเสียหาย 33 ล้านบาท

    ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 33 ล้านบาท    เมื่อวันที่ 23 เดือนกันยายนปีพ.ศ. 2564  ได้มีการเปิดเผยออกมาจากสำนักข่าว BBC News เกี่ยวกับคุณพ่อรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในรัฐมิชิแกนประเทศสหรัฐอเมริกาหรือคุณพ่อรายนี้ชื่อว่าจิมมี่   เขามีลูกสาววัยกำลังน่ารักอยู่ 1 คนอายุเพียงแค่ 7 ขวบเท่านั้นชื่อว่าน้องเจอร์นี   

     อย่างไรก็ตามตามที่เขารายงานออกมานั้นปรากฏว่าคุณพ่อจิมมี่ได้มีการไปยื่นต่อศาลเพื่อทำการขอฟ้องคุณครูสาวรายหนึ่งเนื่องจากคุณพ่อจิมมี่ไม่พอใจครูสาวคนดังกล่าวที่ตัดผมของลูกสาวของเขาโดยที่ไม่มีการขออนุญาตเขาก่อนและตัวลูกสาวของเขาเอง

ก็ไม่ได้ยินยอมที่จะให้คุณครูสาวคนดังกล่าวตัดผมให้  ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวอยู่ในขั้นพิจารณาตัดสินดำเนินคดีความ  สำหรับการฟ้องร้องในครั้งนี้คุณพ่อจินนี่ได้มีการยื่นเรื่องขอค่าชดเชยความรู้สึกของลูกสาวโดยเรียกเก็บเป็นเงินจำนวนลาว 33 ล้านบาท

        โดยนอกจากจะให้เหตุผลเกี่ยวกับผลกระทบต่อจิตใจและร่างกายของลูกสาวของเขาที่ถูกคุณครูตัดผมโดยไม่มีการขออนุญาตก่อนแล้วทนายความของคุณพ่อจิมมี่ยังระบุด้วยว่าการกระทำของคุณครูถือว่าเป็นการคุกคามหนูน้อยวัย 7 ขวบนอกจากนี้ยังถือว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติและสีผิวอีกด้วย   ส่วนจุดเริ่มต้นของการเกิดปัญหาคดีความฟ้องร้องกัน

ในครั้งนี้มาจากเหตุการณ์เมื่อช่วงประมาณเดือนมีนาคมปี พ.ศ. 2564 ในระหว่างที่หนูน้อยเจอนี่นั่งอยู่บนรถของโรงเรียนเพื่อเดินทางไปเรียนหนังสือปรากฏว่าเธอถูกเพื่อนที่อยู่บนรถคันเดียวกันแกล้งด้วยการเอากรรไกรมาตัดผมของเธอทำให้ผมของหนูน้อยเจนนี่เว้าแหว่ง

      อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่ามีคุณครูรายหนึ่งเห็นว่าผมของหนูน้อยเจอนี่ถูกตัดจนแหว่งด้วยความหวังดีเธอจึงนำกรรไกรมาเล็มผมที่ไม่เท่ากันให้ หนูน้อยวัย 7 ขวบ  เพื่อให้ผมนั้นกลับมาแลดูเท่ากันแต่หลังจากที่หนูน้อยกลับไปถึงบ้านแล้วได้บ่นให้พ่อฟังว่าเธอถูกคุณครูเล็มผมก็ทำให้พ่อของเธอนั้นไม่พอใจจนนำมาสู่การฟ้องร้องในที่สุด

 

โดยคุณพ่อจิมมี่ระบุว่าการกระทำของคุณครูนั้นถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิของเด็กเพราะตั้งแต่ลูกสาวของเขาถูกเล็มผมนั้นลูกสาวของเขาก็รู้สึกไม่โอเคมาโดยตลอดและยังบ่นถึงผมของตนเองที่ถูกตัดไปอยู่ทุกวัน

     ที่สำคัญลูกสาวของเขายังคงหัวเสียต่อการที่ผมของเธอนั้นถูกตัดออกไปซึ่งคุณพ่อจิมมี่ระบุว่าลูกสาวของเขาได้รับผลกระทบทางจิตใจเป็นอย่างมากซึ่งในขณะนี้ลูกสาวของเขานั้นมีความทุกข์ใจมากที่ผมถูกตัดนอกจากนี้ลูกสาวของเขายังรู้สึกอับอายอีกด้วย

  อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องราวดังกล่าวนั้นทางโรงเรียนที่ครูสาวคนดังกล่าวทำงานอยู่ได้มีการทำการสอบสวนการเป็นการภายในหลังจากที่พิจารณาเป็นที่เรียบร้อยแล้วทางโรงเรียนมีบทสรุปว่าการกระทำของครูสาวนั้นเป็นการกระทำโดยเจตนาดีและทางโรงเรียนมองว่าคุณครูไม่ได้มีการทำความผิดแต่อย่างใดดังนั้นจึงไม่มีบทลงโทษใดๆกับคุณครูสาวคนดังกล่าวที่สำคัญการตัดผมเด็กก็ไม่ได้ถือว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติ

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บแม่